สนธิญาณฉะยับ!!! พท. ยก "ตุรกีโมเดล" เป็นการดูถูกปชช.-เย้ยทำเองไม่ได้เหตุคนต้าน

สนธิญาณฉะเพื่อไทยยก"ตุรกีโมเดล"ชี้นำ-เป็นการดูถูกประชาชน-เย้ยทำเองไม่ได้เหตุคนต้าน ระบอบทักษิณ-แฉเล็งไม่ให้ร่างรธน.ผ่านประชามติ?? หวังเป็นเงื่อนไข -เชื่อหมดทางฟื้น ทาง เดียวต้องล้ม"คสช." -ชี้ปมรัฐปร

สนธิญาณฉะเพื่อไทยยก"ตุรกีโมเดล"ชี้นำ-เป็นการดูถูกประชาชน-เย้ยทำเองไม่ได้เหตุคนต้านระบอบทักษิณ-แฉเล็งไม่ให้ร่างรธน.ผ่านประชามติ?? หวังเป็นเงื่อนไข -เชื่อหมดทางฟื้น ทางเดียวต้องล้ม"คสช." -ชี้ปมรัฐประหารตุรกี"มะกัน-รัสเซีย"เอี่ยว-เตือนระวังเกิดในไทย

 

 

 

ยุคล : สวัสดีครับ ต้อนรับคุณผู้ชมเข้ามาช่วงเวลาของรายการยุคลถามตรงสนธิญาณฟันธงตอบนะครับ ค่ำคืนนี้วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม 2559 คุณผู้ชมยังคงอยู่กับผมยุคล วิเศษสังข์ เช่นเดิมนะครับ และแขกรับเชิญคนเดิมนะครับ ไม่ใช่ใครคนอื่นคนไกลนะครับ พี่ต้อย สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผอ.สำนักข่าวทีนิวส์ นะครับ เราไปทักทายพี่ต้อยกันก่อนเลยนะครับ สวัสดีครับพี่ต้อยครับ

 

สนธิญาณ : สวัสดีครับ

 

ยุคล : หัวข้อที่เราจะมาสนทนากับพี่ต้อย ตุรกีโมเดล ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของระบอบทักษิณ อย่างที่ทราบว่าเมื่อช่วงค่ำของวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามเวลาของประเทศตุรกีขึ้น แต่ท้ายที่สุดไม่สำเร็จนำให้ผู้ก่อการต้องกลายสภาพมาเป็นกบฏ ไม่เพียงเท่านั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์กันหลากหลายแง่มุมทั้งมหาอำนาจอย่าง อเมริกา รัสเซียเข้ามาเกี่ยวข้องในแง่มุมใดบ้าง ที่สำคัญที่นักการเมืองของบ้านเรา พยายามจะหยิบยกเอาเหตุการณ์ที่ตุรกีมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในบ้านเมืองของเรา เพื่อให้เกิดความชัดเจนนี้ พี่ต้อยจะลงลึกในรายละเอียดเรื่องนี้กัน

 

สนธิญาณ : ผมไม่ได้เป็นคนโยงนะครับ ต้องเรียนท่านผู้ชมว่าคนที่พยายามโยงใยก็คือบรรดานักการเมืองในเครือข่ายระบอบทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย หรือ นปช. การที่พยายามโยงใยภาษาของผมใช้คำว่า คนที่สนใจการเมืองหรืออยู่กับการเมืองแค่เปลือกหรือปรากฏการณ์เท่านั้น การวิเคราะห์การเมืองก็อาจจะคลาดเคลื่อนกันข้อเท็จจริง หรือทั้งสิ้นก็เพื่อเข้าข้างตัวเอง ความคิดความอ่านในการวิเคราะห์ตัวเองท้ายที่สุดจะนำพาไปสู่ความล้มเหลวในการเคลื่อนไหว บรรดาผู้คนทั้งหลายที่อยู่ในระบอบทักษิณเรียกว่ามีองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างมาประกอบกัน และเหมือนว่าจะเกิดปรากฏการณ์อันหนึ่งที่ตัวเองคิดว่าเป็นความสำเร็จ แต่ความจริงการเคลื่อนไหวทางการเมืองในระบอบทักษิณไม่เคยประสบความสำเร็จเลย ความสำเร็จมาจากการเลือกตั้ง มาจากผลแห่งชัยชนะในการเลือกตั้งในแต่ละครั้ง ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน มาจนถึงพรรคเพื่อไทย ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ใช่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองในแง่มุมการอิงแอบของประชาชน เพราะว่า นั่นเป็นการระดมคนให้มาหย่อนบัตรลงคะแนน องค์ประกอบมีเงื่อนไขทั้งภาวะวิสัยและอัตวิสัย เงื่อนไขภาวะวิสัยก็คือคู่ต่อสู้ไร้น้ำยา ผมหมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อคู่ต่อสู้ไร้น้ำยาในการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้ง แพ้อยู่ที่ภาคเหนือและอีสานซ้ำซาก ก็ไม่เคยไปทำอะไร วัน ๆ ก็ออกความเห็นอภิปรายไปไม่เคยไปลงพื้นที่ ไม่เคยไปจัดตั้ง ไม่เคยลงไปเคลื่อนไหว รับรู้รับทราบความรู้สึกของประชาชนของคนในภาคเหนือ ภาคอีสาน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวพรรคเพื่อไทยไปกอบกุมอยู่ ซึ่งทำด้วยงานการเมืองของพรรคเพื่อไทยมาเอง หรือการเกาะกุมผ่านพรรคความหวังใหม่ ก่อนหน้านั้นต้องเรียนว่าในทางการเมืองการเลือกตั้งในช่วงก่อนหน้านั้น ยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์จะเลือกตั้งจะได้เสียงที่คงเส้นคงวามาตลอด พรรคการเมืองอื่นจะจัดตั้งเปลี่ยนหมุนเวียนใหม่ พรรคชาติไทยขึ้นมาครั้งหนึ่ง ความหวังใหม่ขึ้นมาครั้งหนึ่ง ในแต่ละครั้งขึ้นมาก็เพื่อจะช่วงชิงฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งคุมแน่นหนาอยู่ที่ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออกบางส่วน เขาก็จะมุ่งเป้าไปที่ภาคอีสานเป็นหลัก  แต่หลังจากที่พรรคเพื่อไทยมาต้องยอมรับว่าคุณทักษิณฉลาดในการทำงานเชิงการตลาด หลังจากที่กุมเสร็จพรรคประชาธิปัตย์ก็พ่ายแพ้ตลอดมา ถึงทำให้คนในพรรคเพื่อไทยดูถูกพรรคประชาธิปัตย์ตลอดมาว่า เลือกตั้งอีก 20 ปี อีก 100 ปี อีกกี่ครั้งก็ตามแต่ก็จะมีแต่ความพ่ายแพ้ต่อพรรคเพื่อไทย ในคือความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ทีนี้เราก็กลับมาดูว่า ถ้าวัดเอาแต่การเลือกตั้ง แน่นอนแพ้ครับท่านผู้ชม แต่ถ้าในการเคลื่อนไหวทางการเมืองผมเรียนว่า นับตั้งแต่มีการจัดตั้งกระบวนการการเคลื่อนไหวของเครือข่ายคนเสื้อแดงมาจะในรูปแบบที่ชื่ออะไรก็ตามแต่ ตั้งแต่ นปก. นปช. จนมาถึงปัจจุบันการเคลื่อนไหวทั้งหมดมีเป้าหมายเพื่อจะยกฐานะทางการเมืองและฐานะทางด้านการเงินของตัวเอง ของนักเคลื่อนไหวโดยมีทักษิณเป็นเหยื่อ ทักษิณหมดสิ้นหนทางอับจนไม่มีช่องทางจะไปก็อาศัยพวกนี้เคลื่อนไหว เพื่อไปทำให้กระแสเลือกตั้งของตัวเองแข็งแรงอยู่ นั่นคือข้อเท็จจริง เมื่อถึงระยะเวลาเลือกตั้งที่ทักษิณรออยู่ พวกนักเคลื่อนไหว ทักษิณก็จะตอบสนองไปให้ไปเป็นส.ส.เพื่อปิดปาก แต่ถ้าเรื่องมากปากหมาแบบจตุพรก็จะกดบทบาทเอาไว้ นี่คือสิ่งที่เป็นจริงของทางฝั่งนักเคลื่อนไหว เมื่อเกิดเหตุการณ์ในตุรกีขึ้น ก่อนที่เราจะลงรายละเอียดก็คือวันนี้สิ่งที่เกิดเป็นปรากฏการณ์ก็คือพ่ายแพ้ ฝ่ายยึดอำนาจเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เรียงความเห็นเข้ามาใครบ้าง

 

ยุคล : ก็ถ้าเป็นเครือข่ายของระบอบทักษิณก็ขอเริ่มจากคนนี้ก่อนก็แล้วกันครับ ให้พี่ต้อยได้สังเคราะห์กันสักหน่อยก็คือ จาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย บอกว่า "ที่มีบางฝ่ายออกมาระบุว่าไม่ควรเอามาเปรียบเทียบกับการทำรัฐประหารในประเทศไทย แต่ตนคิดว่ายิ่งควรจะนำเรื่องนี้มาศึกษา เพราะทุกฝ่ายในสังคมตุรกี ทั้งพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล องค์กรประชาธิปไตย สื่อมวลชน และประชาชน มีความเห็นว่าถึงแม้รัฐบาลจะมีปัญหาอย่างไร ตราบใดที่เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ยังดีกว่ารัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหาร สุดท้ายการทำรัฐประหารก็ไม่สำเร็จ ประเทศตุรกีก็ยังไม่ล้าหลัง ทำให้ประเทศทั่วโลกก็เป็นห่วงตุรกีเพราะจะเสียโอกาสในหลายหลายๆด้าน ถ้าการทำ รัฐประหารสำเร็จ ประเทศตุรกีและประเทศไทย มีสภาพการเมืองมีความแตกต่างกัน แต่การที่ประชาชนตุรกีได้ออกมาต่อต้านการทำรัฐประหารทันทีก็เป็นเรื่องเฉพาะ แต่สำหรับในประเทศไทยต่อการทำรัฐประหารที่ผ่านมา ไม่ได้มีการต่อต้านทันที แต่ขณะนี้ประชาชนสามารถไม่เห็นด้วยต่อการทำรัฐประหาร โดยการไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญในการลงประชามติ ซึ่งเป็นวิธีการแสดงออกอย่างสันติวิธีอย่างหนึ่ง"

 

สนธิญาณ : ผมเรียนอย่างนี้นะครับ คุณจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นอดีตผู้นำนักศึกษาคนหนึ่งในยุคเข้าป่าไปร่วมเคลื่อนไหวทางการเมือง แน่นอนการเข้าป่าตอนนั้นมีหลากหลายสาเหตุ หลัก ๆ ก็คือเชื่อมั่นในอุดมการณ์คอมมิวนิสต์เต็มที่หวังจะเปลี่ยนแปลงประเทศให้ไปสู่อีกรูปแบบหนึ่งซึ่งคิดว่าวิธีชีวิตของประชาชนจะดีขึ้น อย่างที่สองคือการรู้สึกคับแค้นต่อเผด็จการทหารที่ได้กระทำต่อนักศึกษาประชาชน เพื่อต่อสู้ความเป็นธรรม ณ ขณะนั้นจึงได้เข้าป่าจึงหนีตายเข้าไป อย่างที่สามคือเห็นเพื่อนเข้าไปก็เข้าไปตามเพื่อน ตื่นตัวทางการเมืองในระดับล่างแต่เข้าไป นี่คือประเภทที่เข้าป่า แต่สำหรับคุณจาตุรนต์นั้นไม่ใช่ เพราะเขานั้นเป็นระดับแกนนำของนักศึกษาเป็นผู้นำนักศึกษา เข้าป่าไปหลังจากนั้นก็ออกมาเล่นการเมือง ผมเรียนว่าไม่เคยประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง เพราะคุณจาตุรนต์เป็นลูกของคุณอนันต์ ฉายแสง ได้อาศัยบารมีของพ่อที่ทำงานการเมืองอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา อยู่นาน คุณอนันต์เป็นคนที่ถึงลูกถึงคนกล้าได้กล้าเสีย มีน้ำจิตน้ำใจ มีภาวะเป็นนักเลง คุณจาตุรนต์ออกมาเล่นการเมืองที่ผ่านมามีแต่กล้า ๆ กลัว ๆ และเกาะกระแสไป สร้างกระแสของตัวเองเป็นช่วง เรื่องนี้ก็เหมือนกันเรียกว่า มาสร้างกระแสขึ้น แต่จะรวบยอดให้ฟังว่า ไม่ควรจะมาเปรียบเทียบเหตุการณ์ในเมืองไทย การต่อต้านรัฐประหารทำในทันที เราตอนนี้ไม่ต้องต่อต้านทันทีแต่ไปแสดงออกประชามติ เดี๋ยวไว้รวบเดียวทั้งหมด มาเป็นคน ๆ แบบนี้ก่อน

 

ยุคล : อีกคนหนึ่งเป็นคุณนายจตุพร พรหมพันธุ์

 

สนธิญาณ : ถ้าไม่มีความเห็นของคุณจตุพรก็ต้องแปลกอยู่แล้ว

 

ยุคล : นายจตุพรเริ่มต้นจากการยกย่องชื่นชนประชาชนตุรกีที่ออกมาช่วยรัฐบาลจากเลือกตั้ง จนสามารถรักษาประชาธิปไตยไว้ได้ โดยกล่าวว่า "การต่อสู้ของประชาชนตุรกี เป็นแบบอย่างสำคัญของประเทศไทย เพราะรัฐประหารที่เกิดกับตุรกี ทหารในกองทัพแยกเป็น 2 พวก ฝ่ายยึดอำนาจกับฝ่ายรัฐบาล แต่สิ่งชี้ขาดชัยชนะคือ ประชาชนยืนหยัดเคียงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จึงเป็นบทเรียนที่มาของอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน ตนขอยกย่องประชาชนตุรกี ดังนั้นวันที่ 7 สิงหา การทำประชามติเมื่อไม่ให้อายพม่าแล้ว ต้องไม่อายตุรกีด้วย แต่ไทยต้องการให้ที่มาอำนาจด้วยสันติวิธี จึงต้องเข้าคูหาไปลงประชามติ หนทางอีกไม่กี่วันที่จะถึง 7 สิงหา ประชาชนควรแยกกันระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ ถ้าประชาธิปไตยที่สมบูรณ์คือ การเปิดประตูให้คณะรัฐประหารแล้ว ผมจึงของประชาธิปไตยที่มาจากอำนาจของประชาชน และผมยืนยันสาระสำคัญรัฐธรรมนูญ คือ ที่มาอำนาจ เพราะถ้าไม่มาจากประชาชน ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ดี โดยประชาธิปไตยเป็นช่องทางเดียวที่จะพลิกฟื้นประเทศไทย ดังนั้น เราไม่ควรรีบให้เกิดเลือกตั้งภายใต้เผด็จการ แม้สังคมไทยอยากได้ธรรมาธิปไตยแต่ยังไกลเกินไป เราจึงต้องเลือกเอาระบอบที่เลวร้ายน้อยที่สุด ในวันที 7 สิงหานี้ อยู่ที่ประชาชนตัดสินใจ ว่า อำนาจที่ได้มาจากฉ้อฉล ไม่ได้จากประชาชน ย่อมไม่อาจรับได้

 

สนธิญาณ : นี่ก็มาแนวเดียวกันกับคุณจาตุรนต์ เพื่อไปสู่การประชามติ ถัดมาใครครับ

 

ยุคล : คุณวัฒนา เมืองสุข

 

สนธิญาณ : คนนี้ก็ต้องแสดงบทบาท

 

ยุคล : คุณวัฒนา บอกว่า "เผด็จการไทยระวังให้ดี ขอยกย่องประชาชนชาวตุรกีที่ออกมาต่อต้านรัฐประหารด้วยมือเปล่า ต่อสู้ด้วยชีวิตและเลือดเนื้อจนทหารที่มีอาวุธต้องพ่ายแพ้ปกป้องประชาธิปไตยไว้ได้ ที่น่าชื่นชมคือสปิริตของพรรคฝ่ายค้านที่เป็นศัตรูกับประธานาธิบดี ทุกพรรคต่างออกมาประณามการรัฐประหารทันที รวมทั้งภาพของทหารตุรกีที่ไม่ยอมยิงประชาชนและยอมให้ปลดอาวุธ สองสิ่งนี้คงหาดูยากในประเทศไทยเห็นการต่อสู้ของพี่น้องชาวตุรกีแล้วอยากให้คนไทยมีกำลังใจอดทน ภาพที่เราต้องทนเห็นจากเผด็จการไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น จำกัดเสรีภาพของสื่อ และการแสดงอำนาจบาตรใหญ่ของผู้นำที่ไม่เคยเห็นหัวประชาชนถึงขนาดท้าทายว่าถ้ากล้าก็ออกมา โดยไม่ได้สำเหนียกเลยว่าอำนาจเป็นของประชาชนและอาวุธที่ถืออยู่ล้วนซื้อมาจากเงินภาษีของประชาชน ทั้งหมดจะหายไปทันทีเมื่อประเทศเป็นประชาธิปไตยซึ่งประชาชนสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยสันติ พลังของประชาชนที่จะแสดงออกมาในวันที่ 7 ส.ค. จะเป็นเครื่องชี้ทิศทางว่าประชาชนต้องการประชาธิปไตยหรือจะยอมอยู่ใต้อำนาจของ คสช. ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านความเห็นชอบ คสช. จะไม่มีทางใช้อำนาจได้ตามใจชอบอีกต่อไป ประชาชนจะร่วมกันกำหนดอนาคตของตัวเองโดยสันติวิธี ตนเชื่อมาตลอดว่าถ้าประชาชนไม่เอาด้วย กำลังทหารและอาวุธที่มีอยู่ทั้งหมดไม่มีทางสู้ประชาชนได้ การต่อสู้ด้วยมือเปล่าของพี่น้องชาวตุรกีได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเผด็จการไม่มีทางชนะประชาชน"

 

สนธิญาณ : นั่นคือคุณวัฒนา ที่ผ่านมาก่อนจะกระโดดเข้ามาต่อสู้กับ คสช. อยู่ในฐานะนักการเมืองคุณภาพถือว่านักการเมืองตามกระแส ต้องมาอีกคนคนนี้น่าสนใจ จักรภพ เพ็ญแข นี่ต้องระมัดระวังเพราะว่า หลังจากที่วิเคราะห์เรื่องตุรกี ก็พยายามที่จะลากโยงสถานการณ์ในประเทศไทย และเกี่ยวโยงไปถึงสถาบันฯด้วย เพราะฉะนั้นก็ยืนยันได้ว่าชาตินี้ต้องตายอยู่นอกแผ่นดิน ไม่มีโอกาสได้กลับมา นี่ไม่ได้แช่งหรือด่านะครับ เพราะคุณกระทำความผิดซ้ำซากอยู่เรื่อย และกระทำต่อสถาบันฯที่เป็นที่รักและเคารพของคนไทย

 

ยุคล : พี่ต้อยกำลังจะบอกว่าคุณจักรภพเขียนบทความนี่ขึ้นมา มีการโยงไปถึงสถาบันฯด้วย

 

สนธิญาณ : เพราะฉะนั้นอ่านต้องระมัดระวัง เขาก็พยายามจะบอกว่า ความขัดแย้งในตุรกีนี่ลงทางวิชาการหน่อย เนื่องจากว่าเป็นอดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ก็โยงให้เห็นว่าเหตุการณ์ในตุรกีเป็นความขัดแย้งทางศาสนาและผู้นำของฝ่ายที่ต้องการการปกครองแบบสมัยใหม่ ฝ่ายศาสนาก็จะเน้นเรื่องจารีตเรื่องรัฐอิสลาม กองทัพก็จะอยู่กับฝ่ายที่ต้องการความทันสมัย ฉะนั้นก็ตีกันไปมาแต่ข้อสรุปที่จักรภพพูดจะบอกว่า ทหารตุรกีไม่มีใครที่อยู่สูงกว่าคอยชักใย เกิดนัยยะแบบนี้ก็พยายามโยงใยไป เพราะฉะนั้นบทเรียนที่จักรภพจะมาบอกก็คือว่า ท้ายที่สุดเขาคิดว่าเหมือนประเทศไทยอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียว เหมือนกับบริษัท เขาบอกว่าระหว่างสถานะของบริษัทและประเทศนั้นแตกต่าง คือจะพยายามมาโยงใย แต่นี่โดยข้อเท็จจริงที่จักรภพไม่ได้พิจารณาเลยก็คือตอนที่พรรคเพื่อไทยครองอำนาจ ประเทศไทยนี่เหมือนของตระกูลชินวัตรเราจะเห็นได้อย่างชัดเจน จักรภพก็เห็นอยู่ว่าคุณทักษิณเป็นหัวหน้าพรรค แต่คนที่เข้าไปมีบทบาทในพรรคที่สำคัญก็คือ ภรรยาหัวหน้าพรรคซึ่งไม่ได้มีตำแหน่งอย่างหนึ่งอย่างใดในพรรคเลย นี่สิถึงเรียกว่าบริษัทจำกัด ผมจึงบอกว่าการวิเคราะห์การเมืองใด ๆ ก็ตามแต่ ถ้าเอาอัตตาก็จะมาบัง เพราะอัตตาทั้งหลายเมื่อมาวิเคราะห์ก็เพื่อให้เห็นผลดีของฝ่ายตัวเอง เพื่อจะให้ได้เดินไปข้างหน้า สาระสำคัญสุดท้ายของระบอบทักษิณวันนี้ก็คือแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย หมายความว่า ออกมาอย่างเป็นทางการมาในนามพรรคว่า

 

ยุคล : แถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย ระบุว่า "สืบเนื่องจากวันที่ 15-16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 ได้เกิดความพยายามกระทำรัฐประหารในประเทศตุรกี เพื่อล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้นำกองกำลัง รถถัง และเฮลิคอปเตอร์ เข้ายึดสถานที่สำคัญ และใช้กำลังอาวุธโจมตีในกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี รวมทั้งนครอิสตันบูล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก แต่การรัฐประหารดังกล่าวล้มเหลวลง จากการร่วมมือของประชาชนที่ออกมาต่อสู้เพื่อคัดค้านการทำลายระบอบประชาธิปไตย ซึ่งแสดงถึงความกล้าหาญ ความสามัคคี และกำลังใจที่เข้มแข็งในการต่อต้านการทำรัฐประหาร โดยไม่ยอมให้ประเทศตกอยู่ใต้อำนาจของกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มาจากประชาชน อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว พรรคเพื่อไทย ขอแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น และขอยกย่องการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ และชัยชนะของประชาชนตุรกี ที่ได้แสดงให้โลกเห็นถึงพลังประชาชนที่ปกป้องระบอบประชาธิปไตย และไม่ยินยอมให้มีการใช้กำลังอาวุธและอำนาจนอกระบบมาบังคับ และกำหนดชะตาชีวิตของประเทศตนเอง"

 

สนธิญาณ : รวบยอดกลับมาที่ความเห็นของผู้คนในระบอบทักษิณและพรรคเพื่อไทยออกไปเอง ผมก็หวังว่าสิ่งที่จะพูดในวันนี้จะทำให้ท่านผู้ชมได้เข้าใจภาพสถานการณ์ทางการเมืองเวลาจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ผมพูดข้อสรุปตั้งแต่ต้นเลยว่า เหตุการณ์ตุรกีโมเดล ไม่ได้อยู่ที่คำจัดการความว่าใครอยู่ในฝ่ายเลือกตั้ง หรือใครอยู่ในฝ่ายรัฐประหาร อยู่ที่ประชาชนเลือกข้างไหน และตอนประชาชนเลือกข้างก็ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนว่าตอนที่ประชาชนเขาเลือกเพราะทนอีกข้างหนึ่งไม่ได้ ฉะนั้นจริง ๆ ตุรกีโมเดลแท้จริงแล้วท้ายที่สุด น่าจะเป็นแรงเหวี่ยงกลับไปที่ คสช. และ พล.อ.ประยุทธ์ แรงเหวี่ยงคือการสนับสนุน

 

ยุคล : พี่ต้อยกำลังบอกว่า ไม่ได้อยู่ที่ว่าจะฝ่ายการเลือกตั้ง ฝ่ายเผด็จการอะไรก็ตามแต่ แต่ถ้าประชาชนเขาเลือกทางไหนก็ต้องยอมรับตรงนั้น

 

สนธิญาณ : คือที่ผมบอกว่าวันนี้คุณไม่ยอมรับหรอก แต่ผมจะบอกให้ฟังว่าแท้จริงแล้วการเมืองและดุลของอำนาจจะเคลื่อนไป ณ ที่จุดนั้น ผมจะสรุปให้ฟังแล้วมาดูรวบยอดตรงนี้ก่อนว่า ให้ความเห็นว่า เวลาเกิดการรัฐประหาร การยึดอำนาจเป็นอย่างไร และในประเทศไทยการรัฐประหาร การยึดอำนาจเป็นอย่างไร และผมคิดว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ต้องเพิ่มเติมและแลกเปลี่ยนความรู้กันระหว่างท่านผู้ชมกับทีมข่าวของทีนิวส์ซึ่งเตรียมข้อมูลมาให้ การรัฐประหารครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้น เมื่อ พฤษภาคม พ.ศ. 2557 อย่าลืมว่า ณ วันเวลาที่รัฐประหาร มีมวลชนคนเสื้อแดงอยู่ที่ถนนอุทยานจำนวนนับหมื่นคน ถนนอักษะเป็นชื่อเดิม หน้าพุทธมณฑล นี่เป็นปัจจัยหนึ่งดูพิจารณาไว้ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2553 เมื่อคนเสื้อแดงชุมนุมทั้งแกนนำ นปช. และคนในพรรคเพื่อไทยจะพูดขึ้นเวทีแล้วว่าระวังให้ดีเถอะกองทัพจะเคลื่อนไหวทางนั้นหรือ นปช. คนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย รู้หมด เขาอ้างว่าที่รู้เพราะมีทหารแตงโมอยู่ในกองทัพเยอะแยะเต็มไปหมด มีปัจจัยอยู่ 2 อย่างที่ถ้าจะเกิดตุรกีโมเดล 1.คือมีมวลชนพร้อมอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียกออกมาต่อต้านรัฐประหาร คือต้องพร้อมอยู่ในพื้นที่เพราะชุมนุมรออยู่ในแล้ว และการชุมนุมบอกไว้ด้วยว่าเตรียมปราบกบกฎ เพราะคุณมีทฤษฎีแต่คุณไม่เข้าใจข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ก่อนหน้านี้พูดถึงการมีทหารแตงโม และตอน พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจแล้วทหารแตงโมไปไหนหมด

 

ยุคล : ไม่เห็นเลยนะครับ

 

สนธิญาณ : ทำไมไม่เห็นมา ทำไมไม่มาจับอาวุธทำไมไม่มาปราบ พล.อ.ประยุทธ์ แบบที่ตุรกีทำ เพราะในตุรกีจะบอกว่าประชาชนออกมาสู้มือเปล่านั้นเป็นโฆษณาไปเป็นหลอก พวกนี้หลอกประชาชนนะครับ เหมือนกับที่เอาประชาชนมาตายเมื่อปี 2553 จะเดินแบบเดิมหรือไม่ก็ตามแต่ แต่การขายการสร้าง ผมพูดด้วยความเป็นธรรมคืออาจจะมาจากไม่รู้หรือไม่เข้าใจ แต่ถ้าเข้าใจก็คือเตรียมหลอกประชาชน สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน เพราะข้อเท็จจริง ณ ห้วงเวลาที่เหมาะสม ที่ควรจะทำในการที่จะต้านรัฐประหาร ต้านการยึดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะมีมวลชนชุมนุมรออยู่แล้ว มีทหารแตงโมที่คุณประกาศว่าเป็นพวกคุณเป็นเครือข่ายของคุณอยู่ในกองทัพเต็มไปหมด ทำไมไม่ออกมาล่ะครับ ทำไมไม่เชิดชู ทำไมไม่สร้างประชาธิปไตยให้ชื่อเสียงขจรกระจายไปทั้งโลก ประกาศให้โลกรู้

 

ยุคล : โอกาสมาแล้วเสียด้วยซ้ำไป

 

สนธิญาณ : ประกาศให้โลกรู้ จะไปเรียกร้องหาตุรกีโมเดลทำไม ทำไมไม่สร้างไทยแลนด์โมเดลขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่เตรียมตัวมาอย่างดี

 

ยุคล : นี่ยังไม่ได้พูดเรื่องของการเตรียมกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ เลยนะครับ

 

สนธิญาณ : คือเตรียมไว้หมดทุกอย่างเพื่อจะเตรียมสร้าง มีคำถามที่ผมถามกลับไปบ้างว่า ทำไมถึงไม่ทำไทยแลนด์โมเดล ทำไมไม่ผนึกกำลังมวลชน ทหารแตงโม รวมทั้งกองกำลังติดอาวุธของคุณเสียด้วยซ้ำไป หรือเครือข่ายสื่อ เครือข่ายต่างประเทศที่เตรียมไว้ทั้งหมด ถามว่าทำไมไม่ทำ

 

ยุคล : หรือพยายามทำแล้วแต่ไม่สอดคล้องกับความจริงตามที่พี่ต้อยว่า

 

สนธิญาณ : นี่คือคำตอบเดี๋ยวรายละเอียดในช่วงหน้า แล้วผมจะแจกแจงและขยายให้ฟัง คือผมเรียนได้ว่าตอกย้ำที่ออกกันมา หลอกกินเงินทักษิณ หลอกทักษิณเพื่อสร้างสถานะการยอมรับของตัวเอง คือสร้างฐานะทางเศรษฐกิจ สร้างฐานะทางการเมือง ท้ายที่สุดไม่มีอะไรที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้ดูถูกนะครับ

 

ยุคล : หลอกตัวเองด้วยไหมครับ หรือว่าหลอกคุณทักษิณอย่างเดียว

 

สนธิญาณ : ผมว่าเขารู้นะครับว่าทำแล้วไม่มีทางสำเร็จ

 

ยุคล : เอาล่ะครับกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม พักกันสักครู่ช่วงหน้ายังมีอีกหลายแง่มุมที่พี่ต้อยจะมาวิเคราะห์ให้ฟังครับ (พักช่วง) ตามกันต่อในเบรคที่สองของยุคลถามตรงสนธิญาณฟันธงตอบ เบรคที่แล้วพี่ต้อยพยายามย้อนเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงไล่เรียงมาตั้งแต่ปี 2553 มาจนถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ คือการทำรัฐประหารวันที่ 22 ก.ค. 2557 โดยบอกว่าคนเสื้อแดงฝั่งของคนแกนนำอ้างมาโดยตลอดว่า มีทหารแตงโมหรือมีมวลชนพร้อมอยู่ที่ถนนอุทยานหรือถนนอักษะ ตอนนั้นถ้าจะสร้างไทยแลนด์โมเดลขึ้นมาก็น่าจะสามารถทำได้ แต่ทำไมถึงไม่เกิดขึ้น

สนธิญาณ : ก็ต้องกลับมาดูฝั่งทหารแตงโมที่เขาอ้างถึงมาตลอด สิ่งที่ผมอยากจะเรียนทหารสายคุมกำลังในประเทศนี้ การจัดการทางกองทัพเป็นระเบียบและสายการบังคับบัญชาชัดเจน เป็นกลไกของกองทัพที่มีประสิทธิภาพพอสมควรในการที่สร้างระบบสายบังคับบัญชาขึ้น ดังนั้นถ้าเรากลับไปย้อนดูการรัฐประหารในปี 2549 ซึ่งต้องถือว่าเป็นช่วงที่ทักษิณมีอำนาจสูงสุด 1.ตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี อำนาจทางกฎหมายเต็มที่ 2.มีเพื่อนเป็นรองผู้บัญชาการทหารบก 3.มีเพื่อนเป็นผบ.พล.1 เป็นผบ.พล.ม. คุมรถถังและคุมกองพลที่1 คุมทหารราบ ซึ่งคุมพื้นที่ในกรุงเทพฯและเขตภาคกลาง การรัฐประหารทำยากมาก 4.คุณทักษิณยังมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดซึ่งถือว่าในสายของทหารอาชีพเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพในขณะนั้นขึ้นตรงกับคุณทักษิณ ทันทีที่เกิดรัฐประหารขึ้น คุณทักษิณติดต่อมายังผู้บัญชาการทหารสูงสุดเพื่อที่ต้องการต้านการรัฐประหาร ผมพูดใน 19 ก.ย. ปี 2549 นะครับ เพราะคุณทักษิณอยู่ที่สหรัฐอเมริกา สายการบังคับบัญชาทั้งหลายวิ่งตรงไปที่กองพลที่1 รักษาพระองค์ และตรงไปที่กองพลทหารม้า ได้มีการสั่งเตรียมกำลังเพื่อที่จะต่อต้านคณะรัฐประหาร แต่ปรากฏว่าทหารในสายบังคับบัญชาไม่ฟังผู้บัญชาการกองพล ทั้ง 2 กองพล และทหารในสายบังคับบัญชาระดับสูง ไม่มีใครฟังผู้บัญชาการทหารสูงสุด ดังนั้นการที่จะเอาทหารออกมาก็ล้มเหลว ความจริงตอนนั้นมีมวลชนมาล้อมรถถังอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดเรื่องราวก็ต้องยุติไป นั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2549 แต่ทางฝั่งคนเสื้อแดงเขายังอ้างทหารแตงโม ถามว่าทหารแตงโมมีอยู่จริงไหมครับ ก็มีอยู่จริงครับ

 

ยุคล : ที่ชื่นชอบอยู่ทางฟากฝั่งคุณทักษิณ

 

สนธิญาณ : แต่ไม่ใช่ทหารที่คุมกำลัง ทหารเวลาเขาแพ็ค เขาแพ็คกันเป็นรุ่นก็ทำให้มีการปกป้องเพื่อนในรุ่น เพื่อนบางคนไปเป็นฝ่ายเสธฯ อยู่ในห้องประชุมต่าง ๆ รู้ข้อมูลการเคลื่อนไหวก็เล่าต่อหรือส่งต่อมาที่เครือข่ายระบอบทักษิณแต่ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ เพราะสายบังคับบัญชาของฝ่ายกุมกำลังเป็นเอกภาพ นั่นก็คือสิ่งที่เป็นโอกาสสูงสุดในการที่จะต้านรัฐประหารในปี 2549 ก็ทำไม่ได้ ถัดมามาดูในปี 2557 ผมเรียนนะครับว่ามีมวลชนอยู่บนท้องถนน ทหารออกมาประกาศกฎอัยการศึกแล้วหลังจากนั้นก็เกิดรัฐประหาร ถ้าบอกว่าไม่มีผู้นำจึงต่อต้านไม่ได้ การต่อต้านผู้นำทุกครั้งเวลาเกิดเหตุขึ้น จะเกิดขึ้นเพราะผู้นำโดยธรรมชาติและเกิดกระบวนการของการเคลื่อนตัวเข้าหากันในการต่อต้าน ฝ่ายที่กุมอำนาจหรือฝ่ายที่ถืออาวุธอยู่ในขณะนั้น เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นได้ว่า พอเกิดการรัฐประหาร ทหารเข้าไปจัดระเบียบให้เอามวลชนกลับบ้าน มวลชนก็กลับบ้านไปตามระเบียบทันที เพราะเป็นมวลชนที่เกณฑ์มา

 

ยุคล : ที่พูดถึงถนนอุทยาน ถนนอักษะ

 

สนธิญาณ : ไม่ใช่มวชนที่พุ่งออกมาด้วยหัวใจแห่งการต่อสู้ ผมไม่อยากเปรียบเทียบกับตอน กปปส. ก็กลับไปให้ดู คุณจตุพรก็อาจจะเป็นคนหนึ่งในปี พ.ศ. 2535 ที่ยังเป็นเด็กอยู่ และกลายมาเป็นเรียกว่าผู้นำมวลชนในขณะนั้น ในจังหวะ2 เป็นผู้นำตามธรรมชาติที่แตกออกจากราชดำเนินกลับไปที่รามคำแหง ผมจะทวนสถานการณ์ให้ฟัง การเกิดเหตุการณ์ในพฤษภา35 ไม่ใช่การรัฐประหาร เรียกว่าเงื่อนไขไม่มี การรัฐประหารคือทหารเข้ายึด แล้วประชาชนต่อต้าน เกิดแรงอัดเรื่องเหวี่ยง เกิดแรงบีบ แต่เหตุการณ์พฤษภา35 ไม่ได้เป็นการต่อต้านรัฐประหาร เป็นการแสดงออกเลยว่าเป็นการต่อต้านผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง พล.อ.สุจินดา ไม่ได้ลงเลือกตั้ง แต่ปรากฏว่า นักเลือกตั้งทั้งหลายก็จะหยิบยก พล.อ.สุจินดาให้มาเป็นนายกรัฐมนตรี ด้านประชาชนก็เกิดต่อต้าน เป็นการคุกรุ่นต่อเนื่องมาจากการรัฐประหารในเดือน ก.พ. 2534 ต่อเนื่องมาปี 2535 ใน 1 ปีที่ต่อเนื่องมาเกิดแรงเก็บกดขึ้น การเคลื่อนไหวที่ออกมานำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ผู้คนจากพรรคประชาธิปัตย์ บางส่วนทำให้เกิดการเชื่อมโยง การต่อต้าน พล.อ.สุจินดา ที่อยู่ในกลไกของระบอบเลือกตั้ง แล้ว พล.อ.สุจินดา ไม่ยอมก็ใช้กำลังทหารประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วเข้าปราบปรามประชาชน ทำไมประชาชนสู้ได้ครับ ทำไม พล.ต.จำลอง ถูกจับ คุณจตุพรต้องมีคำตอบ

 

ยุคล : เพราะสู้ด้วยใจ มาด้วยใจจริง ๆ

 

สนธิญาณ : ถูกต้องครับ เพราะมาด้วยใจ ผมอยากจะไม่ได้มีบทบาทมากมายนัก แต่ผมก็เป็นส่วนหนึ่ง คุณจตุพรก็เคยเจอผมในรามคำแหง ณ วันนั้นเกือบจะยิงกันเสียด้วยซ้ำไป จะยิงจริง ๆ เพราะทหารมาล้อมที่รามคำแหงแล้วข้างในต้องจัดการวางแผนป้องกัน การประชุมก็เกิดการร้อนรน ผมก็ไม่ได้เข้ารามคำแหงนานรุ่นน้องบางคนก็ไม่รู้จัก หมายความว่าในยุคสมัยผม ผมก็คือคนที่ติดอาวุธเหมือนกันในการที่จะคุ้มครองดูขบวนการนักศึกษาในยุคสมัยนั้น ทุกจุดของประเทศเกิดการเชื่อมกันโดยธรรมชาติหมด หลังจากที่ทหารเข้าจับกุมและปราบปรามผู้คนบนถนนราชดำเนิน แตกกระสานซ่านเซ็นไปหมดแล้ว สื่อก็ไม่มี มีแต่โทรศัพท์มือถือ เขาเรียก "ม็อบมือถือ" ข่าวสารกระจายไปผ่านการซุบซิบ นั่นแหละครับคือ "ไทยแลนด์โมเดล"

 

ยุคล : พลังจริง ๆ ของประชาชน

 

สนธิญาณ : ที่เขาออกมาจากความรู้สึกของเขาว่า ต้องต่อต้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การรวมพลังผนึกกำลังกันทั้งประเทศ เรื่องราวทั้งหลายจบเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไปเรียก พล.อ.สุจินดา ในฐานะนายกรัฐมนตรี กับ พล.ต.จำลอง ในฐานะผู้นำมวลชนมากราบแทบพระบาทแล้วถ่ายทอดสดให้ประชาชนเห็นทั้งประเทศ สถานการณ์คลี่คลายยุติลงโดยพลัน นั่นคือเหตุการณ์ที่เราเรียกว่า ไทยแลนด์โมเดล ทีนี้เวลาเกิดการรัฐประหารแบบตุรกีก็เช่นเดียวกัน การรัฐประหารจะเกิดแรงแบบนี้ได้จะมีแต่ประชาชนอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีทหารจำนวนหนึ่งมาเข้าข้างประชาชน ทหารที่ทนไม่ได้ไม่อยากจะรับฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ไม่ถูกต้อง หรือการเข่นฆ่าประชาชนแต่สภาพการณ์ของประเทศไทยนั้นแตกต่าง ตรงที่ประเทศไทยการรัฐประหารทุกครั้งเวลาสำเร็จ ต้องมีผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้นำ และ 4 เหล่าทัพรวมทั้งตำรวจต้องเอาด้วย การรัฐประหารที่ไม่มีผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้นำ แม้สายบังคับบัญชาจะเต็มที่ดุลกำลังอำนาจอยู่ในมือเต็มที่ เช่น การรัฐประหารในวันที่ 1 เม.ย. 2524 เขาเรียกว่า "เมษาฮาวาย" ที่นำโดยผู้นำตัวจริง คือ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร, พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร, พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แต่ยศในขณะนั้นยังเป็นพันเอกหมดนะครับ เรียกว่าทหารยังเติร์ก คุมกำลังอยู่ 42 กองพันยึดอำนาจ 3 - 4 วันในกรุงเทพฯ แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด พล.อ.เปรมหนีไปตั้งหลักอยู่ที่กองทัพภาคที่2 มี พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็น ผบ.พล. ในขณะนั้นตั้งศูนย์กำลัง ถูกยังเติร์กบีบให้ย้ายไป บ้านเมืองเหมือนจัดการเวลากรรมจัดสรรแล้วก็ตั้งมาแล้วมาจัดการเรียบร้อย มี 42 กองพัน ทำไมไม่สำเร็จ เหตุผลเดียวก็เพราะว่า ประเทศไทยคิดแบบประเทศไทย ไม่มีการยิง เข่นฆ่า มีการเจรจาแล้วก็จบกัน นี่คือพื้นฐานวิถีความเป็นไทย ที่ยิงกันก็มีอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมอยากจะให้เห็นว่าความคาดหวังเรื่องตุรกีโมเดล โอกาสที่จะเกิดขึ้นที่อยู่ภายใต้มือของ นปช. ของคนในพรรคเพื่อไทยเอง น่าที่จะเกิดขึ้นได้ คำถามก็คือว่าทำไมถึงเกิดไม่ได้ก็เพราะว่า ผู้คนไม่ใช่ไม่ศรัทธา แท้จริงผู้คนในประเทศนี้ที่มีจิตสำนึกเข้าใจเนื้อหาทางการเมือง และพร้อมที่จะลุกขึ้นต่อสู้ทางการเมือง ไม่ใช่มวลชนที่จัดตั้ง เกณฑ์มา หรือทำให้ตัวเองมีอำนาจด้วยการไปหย่อนบัตรมา ล้วนต่อต้านระบอบทักษิณ

 

ยุคล : ผู้คนส่วนใหญ่

 

สนธิญาณ : ถูกต้อง พลิกเลย

 

ยุคล : คือไม่ได้บอกว่าให้ประชาชนเอาอย่างตุรกี แต่ตอนนี้ประชาชนมีข้างที่จะเลือกแล้ว

 

สนธิญาณ : ก็ประชาชนเอาอย่างตุรกี แต่เลือกข้าง พล.อ.ประยุทธ์

 

ยุคล : เลือกข้างเผด็จการ

 

สนธิญาณ : ถูกต้องครับ เพราะความหมายเวลาที่จะจัดการกับคำว่าเผด็จการกับประชาธิปไตย เป็นเรื่องคำจำกัดความที่มาจากรูปแบบของการหย่อนบัตรเลือกตั้ง และการถูกโยงใยกับมหาอำนาจ ซึ่งเราจะลงไปในช่วงที่ 3 เอาตรงนี้ให้ชัดเสียก่อน สิ่งที่เราจะกลับมาทบทวนกัน ก็คือว่า ประเทศไทยทักษิณเข้ามามีอำนาจเมื่อปี 2544 มาถูกยึดอำนาจเมื่อปี 2549 คือ 5 ปีด้วยกันที่ทักษิณครองอำนาจ ณ วันที่ขึ้นครองอำนาจมีแต่ผู้คนทั้งประเทศเชียร์สนับสนุน รวมทั้งผมเองคนหนึ่ง ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ระดับครูบาอาจารย์ผู้อาวุโสใครต่อใครทั้งหลายออกมาเชียร์คุณทักษิณ ขนาดคุณทักษิณทำผิดกฎหมายยังเชียร์เลย เกิดวาทะกรรมขึ้นมาอย่างหนึ่ง "บกพร่องโดยสุจริต" ที่เชียร์เพราะประชาชนในขณะนั้น นี่คือสิ่งที่คุณทักษิณและเครือข่าย นปช. ต้องการเข้าใจ เพราะสิ่งที่คุณกำลังทำพยายามพูดเรื่องตุรกีโมเดลนั้นคุณกำลังหลอกประชาชน คุณดูถูกประชาชน คุณคิดว่าประชาชนไม่ฉลาด ประชาชนเบื่อพรรคประชาธิปัตย์ เบื่อการเมืองแบบเก่า ทักษิณมาเหมือนกับอัศวินขี่ม้าขาว นำเสนอแนวนโยบายใหม่ ๆ สร้างกระบวนการการตลาดใหม่ ๆ และวาทะกรรม "ผมรวยแล้วไม่โกง"

 

ยุคล : ฟังแล้วน่าเชื่อถือ

 

สนธิญาณ : น่าเชื่อถือและวิธีการจัดการบริหารนั้น เทไปแบบนั้นคะแนนเสียงก็เทเข้าไปหา ผู้คนก็เทใจไปให้กับทักษิณ พอรักมากเวลาเกลียดก็จะเกลียดมาก 2 ปีแรกทักษิณทำอะไรก็ดูหอมหวานดูดีไปหมด แต่ปรากฏว่าเกิดอะไรขึ้นครับ ทักษิณสั่งฆ่าคนโดยไม่ใช่กลไกของกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์เป็นเผด็จการพยายามเดินตามครรลองกฎหมายนะครับ มาตรา44 ที่ออกมาเป็นแค่การเปิดทางการบริหาร ไม่ได้ใช้อำนาจในการเข่นฆ่าหรือปราบปรามประชาชน เราไม่เคยเห็นทหารทำร้ายหรือเข่นฆ่าประชาชนนะครับ พูดเรื่องจริงครับ เหมือนที่ไปตีความผิด ๆ เรื่องคุมสื่อ แค่ออกมาคุ้มครองเจ้าหน้าที่เท่านั้น ส่วนจะปิดหรือไม่ก็ดำเนินการต่อสู้ไปตามระบบ เพราะถ้า พล.อ.ประยุทธ์ใช้มาตรา44 ศาลปกครองต้องหยุดทันที ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่ง

 

ยุคล : เพราะอำนาจเหนือ 3 ฝ่ายอยู่แล้ว

 

สนธิญาณ : ถูกต้องครับ แต่ทักษิณในขณะนั้นสั่งปราบปรามยาเสพติด ฆ่าคน แก้กฎหมายให้เกิดประโยชน์กับบริษัทของตัวเอง

 

ยุคล : ที่บอกว่ารวยแล้วไม่โกงนั้นไม่จริงเลยนะครับ

 

สนธิญาณ : กลายเป็นแรงเหวี่ยงครับ ผู้คนก็รู้สึกแต่ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร จนเกิดการจุดขึ้นเรียกว่ากลุ่มกระบวนการรู้ทันทักษิณ อาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ออกมาเปิดหนังสือขายดิบขายดี รู้ทันทักษิณ คือ เอาข้อมูลมาเปิดเผยว่า ทักษิณทำความช่วยความไม่ดีอะไรบ้าง โกงทุจริตก็ขยายความไปเรื่อย ๆ และภายใต้สิ่งที่เห็นมีบางอันที่เรียกว่า ไปกระทบกระเทือนสถาบันฯ ซึ่งคนจะรู้สึกอาจจะไม่ได้ก้าวล่วงถึงขั้นทำผิดกฎหมาย แต่ผู้คนรู้สึกว่าทักษิณกำลังเหลิงในอำนาจ ต่างกันไหมครับกับตุรกี คนไทยรู้สึกว่าทักษิณกำลังเหลิงอำนาจ ม็อบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็เกิดการเคลื่อนไหวขึ้นอย่างขนานหนัก การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นไม่ว่าในยุคพันธมิตรฯ กับม็อบที่เกิดขึ้นในสมัย กปปส. หลักการนั้นเดียวกันคือผู้นำไม่น่าเชื่อถือ ผมพูดจริงครับ ในสมัยพันธมิตรคุณสนธิทำมาหากินกับคุณทักษิณมาโดยตลอด เคลื่อนไหวใหม่ ๆ คนคิดว่าคุณสนธิขัดแย้งกับคุณทักษิณเลยออกมาเคลื่อน แต่ท้ายที่สุดคุณสนธิก็กลายมาเป็นวีรบุรุษของพันธมิตรฯ หลังจากที่ได้ต่อสู้ทุ่มเทตัวเองทุกอย่าง ถามว่าผู้คนสงสัยผู้นำ แกนนำ แต่ทำไมยังมาร่วมเคลื่อนไหวครับ ชัดเจนนะครับ เพราะประชาชนเขาคิดเป็นคิดได้ กลับมาดูฝั่งคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่มีใครยอมรับคุณสุเทพสถานการณ์เปลี่ยนหมด และตอนที่ กปปส. อะไรที่เกิดขึ้น คนจำนวนกี่ล้านคนที่ออกมา คุณยังไม่ยอมรับหรือครับว่าคนที่ออกมาสนับสนุน กปปส.

 

ยุคล : นั่นต่างหากที่เรียกว่าไทยแลนด์โมเดล

 

สนธิญาณ : ถูกต้องครับ

 

ยุคล : คือเขาไม่เอาคุณ ถูกไหมครับ

 

สนธิญาณ : ถูกต้องครับ ทำไมเขาไม่เอาคุณทั้ง ๆ ที่คุณมาจากการเลือกตั้ง ทำไมครับ ทำไมคุณสุเทพต่อต้านคุณทักษิณ เพราะคุณสุเทพรู้ทันกระบวนการของคุณทักษิณออกมาแฉออกมาเปิดโปง แต่มาถึงคุณยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องแฉและเปิดโปง

 

ยุคล : ทำตัวเอง

 

สนธิญาณ : เพราะคุณปล้นอำนาจที่ประชาชนมอบให้ เขาเรียกว่า ปล้นซ้ำซับซ้อน กระทำการโดยบังอาจโดยไม่เกรงใจประชาชน ม็อบที่คุณเคยดูถูกว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ แต่เกิดขึ้นแล้ว เพราะคุณไปลักลับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตอนตี4

 

ยุคล : นั่นยิ่งกว่ารัฐประหารอีกนะครับ

 

สนธิญาณ : ยิ่งกว่าอีก เพราะคุณใช้เสียงส่วนใหญ่ในสภารัฐประหาร ประเด็นอยู่ตรงนี้

 

ยุคล : และคล้าย ๆ กับตบหน้าประชาชนอีกด้วยนะครับ

 

สนธิญาณ : เป็นการรัฐประหารผ่านสภา โดยนี่คือกลไกของประชาธิปไตย นี่คือสิ่งที่นักเลือกตั้งทำ ทำไมถึงเรียกว่ารัฐประหาร ก็เพราะคุณออกกฎหมายมาเพื่อคน ๆ เดียว ก่อนหน้านี้คุณพูดกันเองว่า ไม่ควรจะทะลุซอย ไม่ควรจะนิรโทษกรรมทั้งหมด ท้ายสุดพอทักษิณสั่งมาอย่างเปิดเผยมาตลอดว่า ผมลำบาก ผมอยู่ข้างนอก ผมเหมือนคนที่ลอยคออยู่ในทะเลหนาวจะตายอยู่แล้ว ถูกไหมครับ เห็นไหมครับคนถึงออกมา นั่นแหละครับไทยแลนด์โมเดล เขาออกมาต้านคุณเพราะคุณใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง ฉะนั้นการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องประชาชนเขาไม่ได้แยกหรอกว่า มาจากการเลือกตั้งหรือรัฐประหาร เพราะประชาชนเขามีสติปัญหา

 

ยุคล : เขาก็รู้ว่าอันไหนดีไม่ดี

 

สนธิญาณ : ก็รู้กันครับ อันไหนถูกต้องไม่ถูกต้อง ไม่ได้อยู่ที่ว่ารูปแบบของการใช้อำนาจเป็นอย่างไร

 

ยุคล : แล้ววันนี้พอพูดถึงเรื่องของประชาชนว่าจะเลือกข้างไหน วันที่ 7 สิงหาคม เหลืออีก 20 วัน วันนั้นจะเป็นวันพิสูจน์อีกหรือเปล่าครับ ถ้าฟังอย่างที่พี่ต้อยว่ามาทั้งหมด อยู่ที่ประชาชนว่า ประชาชนจะเลือกข้างไหน แล้วในวันที่ 7 สิงหาคม นับจากวันนี้เหลือเวลาเพียง 20 วันเท่านั้นก็จะถึงวันชี้ขาดแล้ว ก็ดีเหมือนกันนะครับเป็นวันพิสูจน์ว่าประชาชนเลือกข้างไหน ในยามที่พรรคเพื่อไทยหรือระบอบทักษิณพยายามจะชี้นำในเรื่องของตุรกีโมเดล มาให้คำตอบกันต่อนะครับ ช่วงนี้พักกันสักครู่เดียวครับ (พักช่วง) กลับเข้ามายังเบรคสุดท้าย ในเมื่อช่วงที่แล้วมีการท้าออกมาว่าอยากจะวัดกำลังของประชาชนว่า วันนี้ตัดสินใจยืนอยู่ข้างไหนทางฝั่งเครือข่ายระบอทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นคุณจาตุรนต์ คุณวัฒนา ก็บอกว่าให้ประชาชนออกไปแสดงพลังในวันที่ 7 สิงหาคม ในวันทำประชามติ แต่เราจะขออุบตรงนี้ไว้ก่อน ในเรื่องของการหาคำตอบว่าประชาชนจะเลือกข้างไหน จริง ๆ แล้วมีอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์ ความจริงจะบอกว่ามากกว่าตุรกีโมเดลด้วยซ้ำไป นั่นก็คือการพยายามที่จะหาความจริงว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของการทำรัฐประหารที่พ่ายแพ้ในครั้งนี้ และปฏิกิริยาของผู้นำตุรกี ผู้นำรัสเซีย หรือว่าสหรัฐอเมริกากำลังจะบอกว่า อเมริกาอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร จากเดิมที่ตุรกีก็ดีกับอเมริกาอยู่ วันนี้หมุน 180 องศาไปจับมืออยู่กับรัสเซีย เหล่านี้อยากให้พี่ต้อยพูดถึงว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

 

สนธิญาณ : ผมเรียนก่อนว่า เวลาจะมีการรัฐประหารแต่ละครั้งไม่ได้คิดกันวันเดียวนะครับ เหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์ได้คิดเรื่องรัฐประหารไว้หรือไม่นั้น ก็คิดครับแต่ไม่อยากทำ

 

ยุคล : คิดเอาไว้เป็นทางเลือกหนึ่ง

 

สนธิญาณ : การคิดแต่ไม่อยากทำจึงต้องคิดแผนปฏิบัติการการใช้กำลังทางการทหาร เพราะการใช้กำลังทหารใช้แบบสะเปะสะปะไม่ได้นะครับ การใช้เรียกว่า เวลาทำการจะก่อการสงคราม เขาจะมีทหารเป็นหน่วย ทหารราบเผชิญหน้า รถถังสนับสนุน ปืนใหญ่ รถถังจะคุมทหารราบเข้าไปเวลาจะคุมสนามรบ ปืนใหญ่ยิงเปิดทางหรือยิงสนับสนุน เครื่องบินไปทิ้งระเบิดปูพรมหรือสนับสนุน ต้องมีการจัดระเบียบของกองทัพ หลังจากนั้นทหารฝ่ายเรียกว่าสนับสนุนพวกขนส่งหรือที่เรียกว่าทหารช่างก็สร้างถนนตามหลังไป ให้เห็นภาพว่า รัฐประหารต้องคิดแบบนี้ ต้องคิดคล้าย ๆ สงครามคือ ต้องจัดหน่วยกำลังทางการทหารทั้งหมดไว้เตรียมการให้พร้อม กองทัพทุกกองทัพต้องมีแผนเผชิญเหตุเอาไว้ เป็นแผนในการที่จะไว้ใช้กำลัง ถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้คิดเรื่องแผนการใช้กำลังไว้ไหมนั้นก็คิดไว้ ถ้าไม่คิดประกาศออกมาใช้ไม่ได้ก็จะสะเปะสะปะ นี่คือการรัฐประหารสำหรับคนที่อยู่ในอำนาจ กลับมาดูที่ตุรกี จู่ ๆ จะคิดกันวันพฤหัสแล้วกลางคืนวันศุกร์มายึดอำนาจก็ไม่ใช่ เขาได้เตรียมการกันมาเป็นแรมเดือน ถามว่าเตรียมเพราะอะไรอย่างไร สิ่งที่พูดแบบนี้ก็จะแจกแจงให้เห็นว่าที่ประเทศไทยก็เหมือนกัน โลกไม่ว่าจะปัจจุบันหรือในอดีตมีขั้วต่อสู้อยู่แล้วจึงทำให้เกิดสงครามโลก ตอนเกิดสงครามโลกครั้งที่2 เรียกว่ามีฝ่ายอักษะ กับฝ่ายสัมพันธมิตร แต่แปลกตรงที่ฝ่ายสัมพันธมิตรนั้นมีขั้ว 2 ขั้วที่มาจับมือกัน คือขั้วที่เป็นคอมมิวนิสต์คือรัสเซียกับขั้วที่เป็นเสรีประชาธิปไตย คือฝ่ายเสรีนิยม ได้แก่ เยอรมัน อิตาลี ปรากฏว่าหลังจากที่เสร็จสิ้นสงครามจัดการกับเยอรมันต้องผ่าเยอรมันเป็น 2 ซีก แบ่งยุโรปเป็นยุโรปตะวันออกและยุโรปตะวันตก ยุโรปตะวันออกกลายมาเป็นคอมมิวนิสต์หมด อำนาจของรัสเซียเข้าไปจัดตั้งรัฐบาลให้เป็นคอมมิวนิสต์ เยอรมันครึ่งหนึ่งประเทศรัสเซียนั้นได้จัดการให้เป็นคอมมิวนิสต์เรียกว่าเยอรมันตะวันออก ส่วนเยอรมันตะวันตกกำแพงเบอร์ลินก่อขึ้นตรงกลางฝั่งนี้ก็อยู่ในฝ่ายโลกเสรีไป โลกก็กลายเป็นเผชิญหน้าเป็น 2 ขั้ว นับจากนั้นทางยุโรปจัดตั้งกองกำลังนาโต้ขึ้น "สนธิสัญญานาโต้" (North Atlantic Treaty Organization : NATO)ทางฝั่งรัสเซียแปลสภาพตัวเองเป็นสหภาพโซเวียตไปรวมประเทศต่าง ๆ มารวมกัน แล้วตั้งกลุ่มกองกำลังสนธิสัญญาวอร์ซอ(Warsaw Pact)ขึ้นเผชิญหน้ากัน ที่ประเทศไทยนั้นประเทศสหรัฐอเมริกาก็เข้ามาเพราะจะยัน เพราะคอมมิวนิสต์ขยายจากรัสเซียลงจีน ลงเวียดนาม ลงลาว ลงเขมร และจะมาไทย หวังจะต่อเนื่องไปที่มาเลเซีย พม่า ต่อเนื่องไปหมดหวังที่จะคุมโลกทั้งโลกเหมือนกัน ก็เกิดการยันการต่อสู้ ซึ่งมีอยู่ 2 แบบ คือ 1.เข้าไปต่อสู้ในเขตพื้นที่นั้น ๆ 2.ในทางยุทธศาสตร์โลกนั้นมหาอำนาจจะคุมพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ 2 พื้นที่เสมอ 1.คืนพื้นที่ที่อยู่ในที่สูง ที่ราบสูงต่าง ๆ เพื่อจะไปติดตั้งอาวุธใช้เป็นวิธีในการยิง 2.จะต้องควบคุมน่านน้ำ ช่องแคบ เกาะเก่งต่าง ๆ ที่จะให้เรืออาวุธเรือบรรทุกเครื่องบินผ่านไปได้ ต้องจัดความสัมพันธ์กัน ซึ่งเรือเหล่านี้ที่ทรงพลานุภาพที่ติดอาวุธอยู่ต้องมีการเติมน้ำมันเป็นระยะ ๆ ได้ ฉะนั้นแต่ระเทศ มหาอำนาจก็จะมุ่งเน้นในการที่จะไปยึดครองพื้นที่ยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ไป ประเทศไทยก็มีพื้นที่ทางยุทธศาสตร์สำหรับทะเลจีนใต้ มีฐานทัพอู่ตะเภา ที่ผมเรียนนักหนาที่สหรัฐอเมริกาอยากเข้ามา และที่ตุรกีก็สำคัญและมีฐานทัพสหรัฐฯอยู่ ในการรัฐประหารครั้งที่ ตุรกีคิดว่าสหรัฐฯเกี่ยวข้องตัดไฟไม่ให้ฐานทัพตุรกีปฏิบัติอะไรได้ นี่เป็นฐานทัพสหรัฐในตุรกี แต่มากกว่านั้นคือประเทศตุรกีเป็นฐานหรือแหล่งรวมทางยุทธศาสตร์ที่กองกำลังนาโต้ไปพักฐานอยู่ เมื่อเป็นแบบนี้ฝั่งรัสเซียซึ่งพยายามที่จะเข้ามามีอิทธิพล จากที่สหรัฐฯรุกคืบในเขตน่านน้ำทั้งหมดในฟากฝั่งตะวันออกกลาง รัสเซียก็ขอให้ประธานาธิบดีอัสซาดของซีเรียเรียกร้องไปที่รัสเซียให้มาช่วยปราบกบฏหน่อย คือจะเข้ามาเฉย ๆ ก็ไม่ได้ แต่นั่นคือการเปิดทางของรัสเซีย ซึ่งมีแสดงศักยภาพทางอาวุธจนเป็นที่ประจักษ์ ทำให้สหรัฐฯครั่นคร้าม แต่ระหว่างนั้นตุรกีพึ่งพิงเศรษฐกิจของรัสเซียอยู่มาก ซึ่งส่วนหนึ่งฐานทัพต่าง ๆ อยู่ที่ประเทศตุรกีไปสอยเอาเครื่องบินรัสเซียจะโดยตั้งใจหรือไม่หรือมีแผนซ่อนแผนหรือไม่อะไรก็แล้วแต่ที่ซ่อนเร้นอยู่ ปรากฏว่ารัสเซียเอาเรื่องแต่ไม่ได้เปิดศึกสงครามตัดการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ ที่เคยสัมพันธ์นักท่องเที่ยวการซื้อขายต่าง ๆ เศรษฐกิจของตุรกีก็ทรุดลงและเขาก็หันมาจับมือกับรัสเซีย ทำให้สหรัฐฯไม่สบายใจ นาโต้ก็ไม่สบายใจ ด้วยความที่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นและเกิดความไม่สบายใจ จึงทำให้ผู้คนสงสัยว่าการรัฐประหารครั้งนี้นั้นเป็นเพราะตุรกีกำลังปันใจไปข้างรัสเซียหรือไม่ ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียออกมาเปิดเผยทำให้เห็นว่าใครค้าน้ำมันอยู่ในอิรัก บ่อที่ไอซิสไปยึด คือการเล่นของประธานาธิบดีปูติน คือเล่นแรงแถลงข่าวไปทั่วโลกเปิดโปงและพร้อมที่จะรุกรบตลอดเวลา สิ่งที่อยู่แบบนี้มาสู่การรัฐประหารในครั้งนี้ หยิบยกมาตรงนี้ผมกำลังจะบอกว่าตุรกีโมเดลหรือไทยแลนด์โมเดลจะเป็นแบบนี้เสมอ สหรัฐฯจ้องรอเวลา รอโอกาสอยู่เสมอ

 

ยุคล : ที่พี่ต้อยพูดมาตลอดตอนที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง จนเข้ามาจุดหักเห และเรียกร้องที่พี่ต้อยบอกว่าอยากให้มีรัฐประหารเกิดขึ้น และพูดว่าสหรัฐฯจ้องอยู่เหมือนกันเลย

 

สนธิญาณ : ถูกต้องเป็นแบบเดียวกัน แต่จะไปข้างไหน เช่น ในตุรกีไปสนับสนุนฝ่ายรัฐประหาร ในซีเรียไปสนับสนุนฝ่ายกบฏ ประธานาธิบดีอัสซาดเขามาจากการเลือกตั้งแต่ตัวเองไปประณามว่าเป็นเผด็จการ จึงสนับสนุนฝ่าบกบฏให้ติดอาวุธไปสู้กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะมาเอาอะไรกับสหรัฐฯ มีหลักคือผลประโยชน์ของประเทศตัวเอง กลุ่มทุนของประเทศตัวเองเท่านั้น ไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ของคนอื่น

 

ยุคล : ถ้าพูดแบบนี้ นี่เป็นตัวอย่างที่ดีว่าไทยต้องระวังให้มากขึ้น

 

สนธิญาณ : ก็เป็นอย่างไรครับ มีอี๋อ๋อกับคนเสื้อแดง สถานทูตก่อนหน้านี้ทูตทั้งสองคน แต่เป็นอะไรกับประเทศไทย นายกเพิ่งไปรัสเซียมาชื่นมื่นนะครับ และประธานาธิบดีปูตินอาจจะเดินทางมาไทยอีกครั้งหนึ่งก็ไม่แน่ ก็เป็นแบบเดียวกัน ไทยกับตุรกีอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์เหมือนกัน และภายใต้พื้นที่ยุทธศาสตร์ก็เพราะพื้นที่ในทะเลจีนใต้หนักหน่วงรุนแรง ศาลโลกตัดสินแล้วว่าจีนไม่มีสิทธิ์ แต่เขาก็ไม่ฟัง สหรัฐฯกำลังเคลื่อนเรือเข้ามานะครับ สร้างแรงกดดันแล้ว เข้ามาก่อนหน้านี้จีนประกาศว่า ระวังเกิดสงครามโลกครั้งที่3 จีนกับรัสเซียเป็นพันธมิตรแข็งแรงกัน และหากรบกันในทะเลจีนใต้หน่วยหนึ่งที่สำคัญที่สุด พื้นที่ที่สำคัญที่สุดฐานทัพคือ อู่ตะเภา เป็นที่หมายปองของสหรัฐฯ ฉะนั้นไว้วางใจไม่ได้หรอกครับในประเทศไทยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

ยุคล : น่ากลัวมากนะครับ

 

สนธิญาณ : น่ากลัวที่พร้อมที่จะทำให้สหรัฐฯทำอะไรกับประเทศเราก็ได้ เหมือนกับที่ทำกับตุรกี กับซีเรีย ที่พูดแบบนี้ก็เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักและระวัง และจะโยงใยกับประชามตินี่ล่ะครับ ทำไมผู้คนในพรรคเพื่อไทย และ นปช. ถึงเอาตุรกีโมเดลมาโยงใยกับประชามติ ไปไล่เรียงเนื้อหาแต่ละคำพูดและแต่ละคนเป็นอย่างไร ใครนะครับที่บอกว่าอยากให้เลือกตั้งช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร

 

ยุคล : คุณจตุพรครับ พี่ต้อยทักมาแบบนี้เดี๋ยวพี่ต้อยจะเชื่อมกันยังไงครับ คุณจตุพรบอกว่า "ดังนั้นเราไม่ควรรีบให้เกิดเลือกตั้งภายใต้เผด็จการ แม้สังคมไทยอยากได้ธรรมาธิปไตยแต่ยังไกลเกินไป เราจึงต้องเลือกเอาระบอบที่เลวร้ายน้อยที่สุด ในวันที 7 สิงหานี้ อยู่ที่ประชาชนตัดสินใจ ว่า อำนาจที่ได้มาจากฉ้อฉล ไม่ได้จากประชาชน ย่อมไม่อาจรับได้" คือก็ตงิดอยู่เหมือนกัน เพราะพูดเหมือนกับว่า เหมือนยังไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง ทั้ง ๆ ที่อยากให้เลือกตั้งในทางฝั่งของคุณทักษิณ

 

สนธิญาณ : บอกเลือกตั้งช้าไม่เห็นเป็นไร เพราะว่า อยากจะให้ประชามติร่างรัฐธรรมนูญนี้ตกไป ที่เขาอยากให้ตกก็เพราะว่า ไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ผมเรียนเลยครับ  เพราะเขารู้ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตกไป พล.อ.ประยุทธ์ก็ร่างเอง พล.อ.ประยุทธ์ก็ประกาศแล้ว ท่านจะร่างแบบไหนครับ

 

ยุคล : ก็คงร่างแบบที่เคยบอกมาก่อนหน้านี้ ประเด็นโดยเฉพาะที่ ส.ว.

 

สนธิญาณ : แม่น้ำ 4 สาย ประเด็น ส.ว. ประเด็นนายกรัฐมนตรี คือประเด็นในการที่ คสช. จะต่อท่ออำนาจต่อไป ซึ่งทักษิณก็รู้ วันนี้ คสช. ประกาศจุดยืนชัดเจนในการที่จะดูแลประเทศไปอีก 5 ปี ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ว่าอาจจะเจอร่างร่างรัฐธรรมนูญฉบับท่านและอาจจะหนักกว่าฉบับของอ.มีชัย แต่ถามว่าทำไมเขาถึงไม่อยากให้ผ่าน ทำไมไม่ให้ผ่านไปเลือกตั้ง

 

ยุคล : ดูง่ายกว่า

 

สนธิญาณ : ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต่อท่อ รัฐธรรมนูญนี้เหมือนปี 2550 Road Map ทำแล้ว  คสช. หมดสิ้นอำนาจหมดปี 2549 แบบที่ คมช. หมดเขาจะรีบไปเลือกตั้ง เพราะถ้าเลือกตั้งเสร็จอย่างไรเสียพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่อยู่ในสายตาเขาอยู่แล้ว เขาไม่เห็นหัวพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว เลือกตั้งเขาชนะเขาก็บริหารประเทศต่อ แต่เที่ยวนี้เลือกไปก็ไม่ได้ เลือกไปอำนาจก็อยู่ในมือ คสช.ต่อ จะเลือกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หรือจะเลือกรัฐธรรมนูญฉบับ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรอำนาจก็อยู่ในมือพล.อ.ประยุทธ์ต่อ มีวิธีเดียวที่จะทำให้อำนาจไม่อยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ คือต้องเกิดเหตุปั่นป่วนอลหม่าน ประชาชนออกมาต่อสู้กับทหารแม้จะช้าหน่อย

 

ยุคล : ซึ่งบันไดก้าวแรกคือต้องล้มร่างรัฐธรรมนูญนี้ก่อน

 

สนธิญาณ : ถูกต้อง เพราะล้มร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ

 

ยุคล : ไม่ได้ล้มเพราะเนื้อหาอะไรเลย แต่ที่ล้มเพราะอยากให้เป็นเงื่อนไขของการต่อสู้ต่อไป

 

สนธิญาณ : ถูกต้อง ถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่านก็จะกลายมาเป็นประเด็นดังนี้ครับ คสช. ไม่มีความชอบธรรม ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาแล้ว ไม่เอาผ่านร่างรัฐธรรมนูญ ความจริงก็ไม่เกี่ยวครับ และอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศนี้ นี่จะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ นปช. เคลื่อนไหวและจุดประเด็นขึ้นมา เขาไม่ต้องการเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งเป็นทางสำรองที่เตรียมไว้แค่นั้น ในการที่ไม่มีทางออกก็ต้องเดินไป ซึ่งประเด็นที่ผมกำลังจะเปิดประเด็นคือวันนี้มีข่าวออกมาว่า คุณหญิงสุดารัตน์จะเป็นผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากคุณหญิงพจมาน 2 คุณหญิงจะผนึกกำลังกันเพื่อที่จะฟื้นฟูพรรคเพื่อไทยในยุคใหม่ จะชนะหรือไม่ไม่รู้ แต่จะเดินไปสู่จุดนี้แล้วจะเกิดความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย แต่ทั้งสิ้นในพรรคหรือในระบบรัฐสภาเป็นเพียงแผนสำรอง เพราะไม่ว่าจะอย่างไรในระบบกลไกรัฐสภา ระบบทักษิณไม่มีทางฟื้นคืนอำนาจขึ้นมาได้อย่างเด็ดขาด เพราะฉะนั้นวิธีเดียวในการที่จะต้องจัดการหรือทำให้ระบอบทักษิณฟื้นคืนมาได้คือจะต้องทำลาย คสช. ให้ย่อยยับ ฉะนั้นวันนี้ผมถึงบอกจุดยืนของทีนิวส์ให้ชัดเจน ผมถึงไม่เห็นด้วยกับคุณวีระ สมความคิด ที่ออกมาเคลื่อนไหวและต่อต้าน คสช. หรือกลุ่มพลังงานที่เคลื่อนไหวกันอยู่ ตอนนี้คือผมที่ต้องหยิบยกมาพูด ถ้าต่อสู้เคลื่อนไหวเรื่องพลังงานก็ว่ากันไป แต่ทันทีที่เคลื่อนไหวไม่ให้รับร่าง

 

ยุคล : ไปโยงกับสถานการณ์หลัก

 

สนธิญาณ : คือมองแต่ความคิดตัวเอง คิดแต่ในมุมของตัวเอง เหมือนกับที่ผมบอกว่าเด็ก นศ. อีกฝั่งหนึ่งที่ผมไม่โทษเด็กพวกนั้น เพราะตอนผมเป็นเด็กก็คิดแบบนี้ คือคิดอยู่มุมเดียวว่าต้องประชาธิปไตย แต่ไม่ได้คิดว่าเรียนจบมาแล้วต้องทำมาหากิน ต้องดูแลพ่อแม่ มีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ ต้องจ่ายภาษีให้กับรัฐเพื่อจะให้ถนนหนทาง ไฟฟ้าต่าง ๆ ให้กับรัฐที่ต้องใช้ให้กับประเทศนี้ คุมมองอยู่มุมเดียว เหมือนนักต่อสู้ในประเทศนี้มองแต่มุมตัวเองที่คิดว่าถูกต้อง คุณอาจจะทำในสิ่งที่ถูกต้องแต่ในแง่ภาพรวมของยุทธศาสตร์ของชาติกำลังเป็นปัญหา คุณกำลังอาจจะมองไม่ออกและอาจจะไม่เชื่อผม วันนี้คุณอาจจะบอกว่าผมเปลี่ยนข้างไปแล้ว แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง ผมมีคำถามแบบจตุพรเขาบอก เลือกตั้งช้าไม่เป็นไร ไปพิจารณาในสิ่งที่ผมพูดว่าจริงหรือไม่ เลือกตั้งไปทักษิณก็กลับมามีอำนาจไม่ได้จะเลือกไปทำไม ฉะนั้นวิธีเดียวที่จะทำได้คือทำลาย คสช.

 

ยุคล : ทีนี้ ถ้าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญแล้วจะทำอย่างไร

 

สนธิญาณ : เงื่อนไข ต่อไปจะจุดขึ้นเรื่อย ๆ

 

ยุคล : เขาจะไปกับข้างนอกโยงอย่างไร

 

สนธิญาณ : เขาเชื่อว่าเขาร่วมกับเขาแล้ว คนส่วนใหญ่ที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ถึงให้ชัด ที่คนเรียนว่าจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญอยากจะให้ คสช. อยู่นาน ๆ นี่คิดผิดครับ คุณจะรับไม่รับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าไม่รับเพราะเชียร์ คสช. นั้นคิดผิด นี่เป็นวิชามารที่เขาปล่อยเราต้องระวัง ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน การเคลื่อนไหวก็จะชอบธรรม ต่างประเทศก็จะขานรับว่า คสช. เขาไม่รับคุณ นี่ร่างรัฐธรรมนูญของคุณเขาไม่รับ พวกที่อยู่ในประเทศจะเคลื่อนทันที ผมจะเรียนเลยนะครับ พวกพลังงานพวกวีระ สมความคิด คุณสะใจไหมที่ได้โค่นล้มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ลงไป คุณจะไม่ได้ คุณจะได้ร่าง พ.ร.บ. พลังงานตามแบบที่คุณคิด 100 เปอร์เซ็นต์ คุณจะได้มาต่อสู้กับระบอบทักษิณต่อหรือว่าอย่างไร เพราะการต่อสู้แบ่งเป็น 2 ขั้วอยู่แบบนี้ เมื่อเป็นแบบนี้ โอกาสที่จะจุดก็จะติดทันทีทั้งภายนอกและภายใน คนไม่รับ ม็อบเล็กม็อบน้อยกระบวนการจัดตั้งที่มีอยู่ก็จะโหมกระหน่ำขึ้น และจะเกิดอะไรขึ้นครับ เลือดจะนองแผ่นดิน เมื่อคุณจุดขึ้นผมถามว่า คนที่หนุน คสช. นี่เยอะไหม

 

ยุคล : ก็พอสมควรเลย

 

สนธิญาณ : เยอะเลยครับ  4 - 5 ล้านคนที่ออกมาตอนลุงกำนันหนุน คสช. ทั้งนั้นครับ และพร้อมจะออกมาท้องถนนและทำอะไรก็ได้ แล้วจะเกิดนำพาประเทศไปสู่ความขัดแย้งต่อ

 

ยุคล : ทีนี้หนักกว่าคราวก่อนไม่รู้ว่าใครจะมาแก้ปัญหาให้

 

สนธิญาณ : คือไม่รู้ เขายิงกัน สงครามกลางเมืองก็ไปดูกันสิครับ ที่อื่น ๆ เกิดขึ้นเพราะเวลาจัดการกันไม่ได้ ไปดูประเทศอิรักไปย้อนดูภาพ ว่าตอนที่เป็นเผด็จการซัดดัมอยู่นั้นเป็นอย่างไร ...