"สนธิญาณ" ชี้! "ปปง." อายัดทรัพย์ "พระธัมมชโย" เป็นเพียงการเริ่มต้นติดตามเส้นทางการเงิน จับตา! บัญชีอื่นๆและจะหยุดทำ "ธรรมกาย" ได้หรือไม่ !?

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

 

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2559  ออกอากาศทางช่อง ทีนิวส์ ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย)  กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวน่าสนใจที่ได้มีการพูดถึงกันบ้าง แต่ก็ไม่มากมายสักเท่าไหร่ นั่นก็คือการที่ ปปง. ได้ออกมาอายัดทรัพย์ของผู้กระทำความผิดหลายรายด้วยกัน แต่คิดว่ารายหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ อายัดทรัพย์ของพระธัมมชโย จำนวน 4 บัญชีด้วยกัน เป็นวงเงิน 50 ล้านบาท ต้องเรียนแบบนี้นะครับ นี่เป็นการเริ่มต้นในการติดตามเส้นทางทางการเงินของพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย เหมือนกับที่ผมได้เขียนเรียนท่านผู้ชมเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ว่า จะต้องจับตาในเรื่องนี้ ที่จะทำให้การดำเนินงานของฝ่ายอำนาจรัฐไปหยุดการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของวัดพระธรรมกายและเครือข่ายได้ ความจริงการอายัดเงินเพียง 4 บัญชี 50 ล้านบาท ต้องือว่าเป็นเรื่องที่จิ๊บจ๊อยมากสำหรับวัดพระธรรมกาย กลับมาดูว่า เงินทองที่หมุนเวียนอยู่ของวัดพระธรรมกายในขณะนี้ ไม่ว่าจะหมุนเวียนในนามวัดหรือหมุนเวียนในนามของมูลนิธิน่าจะมีเป็นหลักหลายแสนล้านบาท มาทั้งจากธุรกรรมปกติคือเงินที่ผู้ที่นิยมศรัทธาเลื่อมใสบริจาคมา อันที่สองคือการทำธุรกรรมอื่น ๆ ซึ่งจะผิดหรือถูกกฎหมายนั่นก็ว่ากันและติดตามกันไป การอายัดทรัพย์ใน 4 บัญชีดังกล่าว เรียกว่า เป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการไหลเวียนมาจากบัญชีของสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ต้องเรียนนะครับว่า การจะอายัดเงินของ ปปง. วิธีการที่จะทำได้เขาก็จะไล่เรียงเส้นทางทางการเงิน ก็คือ การดูจากบัญชีทั้งหมดที่ผู้กระทำความผิดและผู้กระทำความผิดเข้าไปเกี่ยยวข้อง แล้วไล่เรียงไปแต่ละบัญชี การโอนนั้นโยงใยไปที่ไหนอย่างไร ข้อมูลทั้งหมดในเวลานี้น่าจะเชื่อได้ว่าอยู่ในมือของ ปปง. หมดแล้ว แต่จะสามารถดำเนินการอายัดได้ก็ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ในขณะนี้จึงเริ่มต้นที่ 4 บัญชี ผมเรียนนะครับว่า ถือเป็นการเริ่มต้นเท่านั้น นับจากนี้ไปเราก็คงจะได้ติดตามกันต่อว่า จะมีอีกกี่บัญชีที่จะทยอยออกมา ที่จะถูกอายัดอีก และหลังจากถูกอายัด ทางฟากฝั่งลูกศิษย์วัดพระธรรมกายก็ออกมาแจกแจงว่า ถือว่าเป็นเงินที่พระธัมมชโยรับมาด้วยความบริสุทธิ์จากการบริจาคของประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งนาทีนี้จะโดยสุจริตหรือไม่ตามที่คณะลูกศิษย์วัดก็ตามแต่ แต่เมื่อเป็นเงินที่มาจากการกระทำความผิด และเป็นเงินที่ถูกใช้ก่อให้เกิดความผิดขึ้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องที่กฎหมายเข้าไปดำเนินการเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ และสิ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การอายัดเงินได้แสดงให้เห็นเป็นเบื้องต้นแล้วว่า นี่คือหลักฐานของการโอนย้ายถ่ายเท จะผ่านในรูปการบริจาคหรือทางหนึ่งทางใดก็ตามแต่ แต่ก็ถือว่าเป็นหลักฐานเบื้องต้นที่ใช้ในการกระทำความผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นเรียกว่า เอาหลักฐาน ปปง. ไปประกอบในการสู้คดีในศาล ก็ยิ่งจะเป็นหลักฐานมัดตัวพระธัมมชโยแน่นมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งสิ้นก็อยู่กับกระบวนการยุติธรรม มาถึงนาทีนี้หลังจากอายัดทรัพย์ไป 4 บัญชี การเฝ้ามองและติดตามก็จะดูว่า บัญชีอื่น ๆ ติดตามมามากน้อยแค่ไหน จนสามารถทำให้วัดพระธรรมกายและพระธัมมชโยหยุดทำธุรกรรมได้หรือไม่ หรือว่ายังสามารถดำเนินการต่อไป จะยึดไปกี่บัญชีก็จิ๊บจ๊อย เพราะมูลค่าเงินที่ไหลเวียนอยู่นั้นที่ผมได้เรียนแล้วว่ามีอยู่แล้วแสนล้านบาท และนี่เป็นประเด็นที่ต้องติดตาม