"สนธิญาณ" ฟันธง!! "พระธัมมชโย" หนีไปตั้งหลักวัดธรรมกายเมืองนอกและจะแยกจากคณะสงฆ์ไทย-สร้างเครือข่ายใหม่ในนานาชาติ เพราะถ้าจะมอบตัวคงทำนานแล้ว

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 14 มกราคม 2560 ออกอากาศทางช่องสปริงนิวส์ หมายเลข 19 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

ยุคล :  มีอีกหนึ่งเรื่องซึ่งถือว่าคุณผู้ชมนั้น อยากที่จะทราบความชัดเจนว่า ปีนี้จะเดินไปทิศทางไหนอย่างไร นั่นก็คือปัญหาของวงการคณะสงฆ์ของไทย ทั้งเรื่องของการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เรื่องของการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช เรื่องของวัดพระธรรมกาย พระธัมมชโย ซึ่งจริงๆ แล้วขณะนี้คดีวัดพระธรรมกายมากถึง 158 คดี ทั้งสองเรื่องนี้เองที่ผ่านมาคุณสนธิญาณนั้นฟันธงมาโดยตลอดว่ามีความเกี่ยวเนื่องกับการโยงใยไปสถานการณ์ของการเมืองและของประเทศไทยด้วย เพราะฉะนั้นเอาให้ชัดว่าเรื่องของวงการสงฆ์ การเมืองจะเดินไปไหนทิศทางไหนอย่างไร

 .

สนธิญาณ : ต้องเรียนอย่างนี้นะครับ ว่าแต่เดิมคณะสงฆ์ไทยมีมหานิกายอย่างเดียว โดยแบ่งเป็นพระวัดบ้าน กับพระวัดป่า เขาแบ่งกันแบบนี้มาตั้งแต่อดีต แต่ในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งในขณะนั้น รัชกาลที่ 4 ทรงผนวชอยู่ และพระองค์ท่านแตกฉานปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ก็เห็นว่าคณะสงฆ์ไทยประพฤติไม่สมกับความเป็นพระสงฆ์เหลวแหลก ท่าน ได้ศึกษาแล้วก็จะเอา เรียกว่า แนวทางของรามัญนิกาย หรือของทางพระมอญ ซึ่งมีความเคร่งครัดก็มาปรับประยุกต์ เพื่อที่จะทำให้คณะสงฆ์ไทยมีความเข้มแข็งขึ้น ต่อมาก็ได้ตั้งเป็นธรรมยุตนิกายขึ้นในปี พ.ศ. 2372 ถึงวันนี้ก็เกือบ 200 ปีแต่ปรากฏว่าหลังจากการที่ตั้งธรรมยุตนิกายมาแล้วก็เกิดประเด็นมาบางประเด็นขึ้นในคณะสงฆ์ไทยนั่นก็คือได้มีการสร้างกระแสขึ้นมาว่า ส่วนใหญ่พระที่มีอำนาจปกครองในคณะสงฆ์โดยเฉพาะตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งในกรุงรัตนโกสินทร์นับตั้งแต่มีธรรมยุตินิกายขึ้นมา สมเด็จพระสังฆราชจะมาจากธรรมยุตนิกาย ก็เกิดเหมือนแรงเหวี่ยงบางประการขึ้น ทั้งๆที่พระมหานิกาย มีมากกว่า พระในธรรมยุต ถึง 10 เท่าตัว พูดกันง่ายๆวันนี้พระสงฆ์ไทย ตามสถิติมีประมาณ 250,000 รูป เป็นพระมหานิกาย 225,000 รูปและเป็นธรรมยุตประมาณ 26,000 – 27,000 รูป กระแสนี้ถูกสร้าง ตั้งคำถามมาโดยตลอด วันหนึ่งมีองค์กรหนึ่งเกิดขึ้นในคณะสงฆ์เรียกว่าวัดพระธรรมกาย ได้รับความนิยมความเชื่อถือจากประชาชนผู้คนแห่แหนกันไปทำบุญ สร้างเป็นอาณาจักรใหญ่ตรงที่เราเห็น 2,000 ไร่ อยู่ที่จังหวัดปทุมธานี แต่อาณาจักรที่เห็นเป็น 2,000 ไร่เป็นรูปธรรม สิ่งก่อสร้าง โดยข้อเท็จจริงเครือข่ายของวัดพระธรรมกาย เอื้อมไปในคณะสงฆ์ไทยอย่างเต็มที่ภายใต้เงื่อนไขที่บอกว่ามหานิกายเหมือนกับถูกข่มถูกเหยียบย่ำมาโดยตลอด

.

ยุคล : คุณสนธิญาณกำลังจะบอกว่า ธรรมกายเป็นมหานิกายที่จะเข้ามากอบกู้ศักดิ์ศรีของฝากมหานิกายขึ้นมา

.

สนธิญาณ : พระจำนวนหนึ่งคิดแบบนั้นสร้างกระแสขึ้นมาแบบนั้น มหานิกายก็เติบโตขึ้น ดูแลพระตั้งแต่ระดับพื้นฐาน เจ้าอาวาสวัดธรรมดาไปคณะตำบล ไปคณะอำเภอระดับ เจ้าคณะ จังหวัด ไปถึงระดับรองสมเด็จพระสังฆราช ไปถึงสมเด็จพระสังฆราช อยู่ในเครือข่ายของมหานิกายด้วยการ จัดกิจกรรมมากมาย กำลังเงินมหาศาล พระแต่ละรูป ชั้นผู้ใหญ่ชั้นผู้น้อยก็รู้สึกภาคภูมิใจก็เกิดกระแสแบบนี้ขึ้น ระหว่างที่เป็นกระแสแบบนี้ขึ้นเกิดมีการแก้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ จากแต่เดิมการแต่งตั้งหรือสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์

.

ยุคล : แปลว่าของดั้งเดิมเลยนะครับ

.

สนธิญาณ : ของดั้งเดิมมีการแก้ การรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่สาระหลักมาแก้ว่า ผู้ที่จะเป็นสมเด็จพระสังฆราช คือ สมเด็จพระราชาคณะที่ ที่มีอาวุโสสูงสุด

.

ยุคล :  มาแก้ ตอนปี พ.ศ. 2535

.

สนธิญาณ : มีอาวุโสสูงสุด แก้ขึ้นมาแล้วเพียงจะไปห้อยท้ายว่า โดยความเห็นชอบของเถรมหาสมาคม แต่สาระสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนี้ สาระสำคัญก็คือ อาวุโสสูงสุดคืน ทีนี้พอเรียงกันแล้วอาวุโสสูงสุดขณะนั้นเราจะเห็นได้ว่า สมเด็จพระสังฆราชนั้นเมื่อต่อจากสมเด็จพระญาณสังวร ก็ต้องมาที่สมเด็จเกี่ยว จากสมเด็จเกี่ยวก็มาถึงสมเด็จเชี่ยว ฝั่งมหานิกายโดยวัดพระธรรมกายเพราะสร้างกระแสเชื่อมโยงว่า สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ต่อไปมาจากมหานิกายแน่ ปรากฏว่าไม่เป็นแบบนั้นใน 2 ประเด็นด้วยกัน ก็คือวัดพระธรรมกายโดยพระธัมมชโยโดนคดีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ในเรื่องของที่ดิน ทักษิณเข้าไปช่วยกอบกู้เอาไว้ ศาลกำลังจะพิพากษาอยู่แล้วสืบคดีมาจนจะจบอยู่แล้ว จึงเกิดกระบวนการการเชื่อมโยงระหว่างลูกศิษย์วัดพระธรรมกายกับบรรดาเครือข่ายของพรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณ

.

ยุคล : อัยการถอนออกมาเฉยเลยนะครับ

.

สนธิญาณ : ผูกกันมาและเอื้อเฟื้อช่วยเหลือกันมา มีปรากฏการณ์ต่างๆมากมายไม่ต้องจาระไน จนมาถึงที่สุดเกิดคดีที่เกี่ยวพันกับนายศุภชัย สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดนเข้าไปคดีนี้อีก ฟอกเงินและรับของโจร ในขณะเดียวกันสมเด็จเกี่ยวได้สิ้นพระชนลง มาถึงสมเด็จช่วง มีปัญหาเรื่องเขารถโบราณ ก็คาราคาซัง ฝ่ายที่ต่อสู้ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายก็พยายามเอาทุกเรื่องมาเชื่อมโยงมาโยงใยกันหมด ปัญหาบ้านเมืองถึงอีรุงตุงนังมาจนถึงปัจจุบัน  วันนี้ผมเรียนย้ำนะครับว่า รัฐเอาจริง ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายอาจจะคิดว่าไปกลั่นแกล้ง 158 คดี ตอนนี้วัดพระธรรมกายโดนไป 158 คดีนะครับกลั่นแกล้งไม่ได้หรอกครับ เจ้าหน้าที่รัฐคนไหนกลั่นแกล้งโดนฟ้องกลับ ผมบอกนะครับติดคุกหัวโต เหมือนกับที่หลายคนกำลังฟ้องคุณธาริต เพ็งดิษฐ์  อยู่ในขณะนี้ ไปเปรียบเทียบดูเลย หนักหน่วงสาหัสสากรรจ์ แต่แทนที่จะกลับมาคิดว่าโดยข้อเท็จจริงเพราะตัวเองกระทำความผิดจริง แล้วต้องกลับไปดูต่อว่าสถานการณ์ของบ้านเมืองที่จะนำพาไปสู่ปัญหาที่จะต้องหยิบเอาเรื่องนี้มาพูดเพราะพระธัมมชโยไม่ยอมมอบตัว ณ นาทีนี้เลยมาไกลแล้วถึงขนาดนี้ มอบตัว กังวลว่ามอบตัวแล้วไม่ให้ประกันตัวและถูกจับสึก นี่คือปัญหา เพราะฉะนั้นวันนี้ผมเรียนได้ว่าโอกาสสูงยิ่งที่พระธัมมชโยจะหนีไปอยู่ต่างประเทศและไปทำให้วัดพระธรรมกายที่อยู่นอกประเทศไม่ขึ้นกับคณะสงฆ์ไทยเพื่อรักษาสายใยและโครงข่ายของวัดพระธรรมกายต่อไป

.

ยุคล : ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปแล้วหรือยังไม่หนี

.

สนธิญาณ : อันนี้ไม่กล้าฟันธง เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องที่พูดจริงไม่จริง แต่ในเชิงการวิเคราะห์ในเรื่องจะไป เพราะถ้าอยู่และจะมอบตัวก็มอบไปนานแล้วพูดง่ายๆแบบนี้ และรู้ด้วยว่าอยู่ดึงในสถานการณ์แบบนี้ต่อไปก็ไม่ได้ใน 158 คดีจะเพิ่มขึ้นมาอีก นี่ละครับต้องจับตา ในปี พ.ศ. 2560

.

ยุคล : เรื่องของการเมืองมาถึงคณะสงฆ์เชื่อมโยงกับการเมือง ก็เป็นครั้งแรกที่ออนแอร์ผ่านทางสปริงนิวส์ หวังว่าเนื้อหา จะชัดเจนและถูกใจคุณผู้ชมที่ติดตามมาโดยตลอด วันนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณสนธิญาณเป็นอย่างมาก ที่มาแจกแจงรายละเอียดของสถานการณ์ของประเทศ ในปี พ.ศ. 2560 หมดเวลาลงแล้วสำหรับรายการยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ สัปดาห์หน้าเราจะกลับมาพบกันอีกครั้งในวันและเวลาเดียวกันนี้วันนี้ผม ยุคล วิเศษสังข์ พร้อมกับ คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม และทีมงานขอลาไปก่อนสวัสดีครับ