"สนธิญาณ" จี้!! บทเรียนคดีครูจอมทรัพย์ต้องกลับไปทบทวนบทบาทพนักงานสอบสวน "รัฐบาลบิ๊กตู่" ต้องเร่งปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นวาระลำดับต้นที่อยู่ใน ปยป.

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 19 มกราคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : ก็คือเรื่องคดีของครูจอมทรัพย์ ไม่ได้พูดถึงเลย และประเด็นที่ผมจะพูดถึงก็ไม่ใช่ประเด็นของเท็จจริงที่กำลังถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ ผมเริ่มจากคดีผมที่จะต้องมาพูดกันเพื่อเป็นบทเรียนสังคม และท่านผู้ชมจะได้ทำความเข้าใจ คดีผมพร้อมกับพวกอีก 4 คนที่ถูกฟ้องในข้อหากบฏโดยดีเอสไอเป็นพนักงานสอบสวน ผมย้ำเรื่องพนักงานสอบสวน นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นจำเลยที่ 1 , นายสกลธี ภัททิยกุล เป็นจำเลยที่ 2 , นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นจำเลยที่ 3 , นายเสรี วงษ์มณฑา เป็นจำเลยที่ 4 ตอนนี้เราถูกฟ้องกัน 4 คน หลักฐานไม่รู้ตั้งกี่ลัง 70,000 แผ่น พนักงานสอบสวนใช้เวลารวดเร็วมากในการส่งฟ้องผมและพวกทั้ง 4 ได้มีการตั้งข้อสังเกตมาตั้งแต่ต้น สิ่งที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ซึ่งในขณะนั้นคุณธาริต เพ็งดิษฐ์ ดำเนินการชอบหรือไม่ ผมก็จะพูดเช่นเดียวกันกับคดีของครูจอมทรัพย์ว่า สิ่งที่กำลังเป็นประเด็นในตอนนี้ เป้าอยู่ที่พนักงานสอบสวนที่ได้ดำเนินการสอบสวนชอบหรือไม่ตั้งแต่ต้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติถึงออกมาปกป้องอยู่ในขณะนี้ ระบบศาลของเราเรียกว่าเป็นระบบกล่าวหา ฉะนั้นคดีนี้น่าสนใจตรงที่อยากจะเรียนย้ำว่าศาลชั้นต้นตัดสินไปอีกทางหนึ่ง ศาลอุทธรณ์ตัดสินไปอีกทางหนึ่ง ศาลฎีกาก็ตัดสินไปอีกทางหนึ่ง ถ้าศาลทั้ง 3 ตัดสินไปในทางเดียวกันก็เป็นรูปแบบหนึ่ง ตัดสินแย้งกันก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะกระบวนการยุติธรรมที่วางเอาไว้ 3 ศาล เพื่อให้ความยุติธรรมกับประชาชน และเพื่อสร้างความยุติธรรมของประเทศให้เข้มแข็งและแข็งแรง ดังนั้นสิ่งที่เราจะต้องดูกันในขณะนี้ ประเด็นมีอยู่นิดเดียวก็คือว่า ข้อมูลที่พนักงานสอบสวนได้สอบสวนตั้งแต่ต้นทำผิดบิดเบือนหรือไม่ตรงข้อเท็จจริงหรือไม่ คดีนี้จำเลยก็ให้การอย่างข้อสำคัญก็อยู่ที่ปากคำพยาน คือคุณทัศนีย์ มี 2 ประเด็นที่เราจะต้องกลับตามไปดู ว่าคุณทัศนีย์ไม่กล้าให้ปากคำบางอย่างเพราะกลัวพนักงานสอบสวน หรือได้ให้ไปแล้วว่าพยานลงมาดูเป็นคนขับนั้นเป็นผู้ชาย แล้วพนักงานไม่ได้ใส่ไปในสำนวนอันนี้เป็นข้อเท็จจริงบางประการต้องติดตามดู วันนี้เราจะต้องใจเย็นและอดทนรอ อย่าเพิ่งพิพากษาทั้งสองฝ่าย อดทนรอ ข้อดีของคดีครูจอมทรัพย์จะเป็นบทเรียนของสังคมครั้งใหญ่ ตอนนี้อดีตผู้พิพากษาหรือผู้พิพากษาที่ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กสวนทางกันก็มี นักกฎหมายทนายความ ชมรมช่วยเหยื่ออาชญากรรม ออกมาสวนกันมากมาย เป็นข้อดีที่เราจะต้องติดตามดูแลเรื่องนี้ แต่ที่แน่นอนและมันที่สุดก็คือเรื่องระหว่างพนักงานสอบสวนกับกระทรวงยุติธรรม ซึ่งต่างฝ่ายต่างกุมข้อมูลและถือมาต่อสู้ คดีเลยไปมากกว่าครูจอมทรัพย์เป็นแพะ เป็นแกะ มีเหตุผลมีแรงจูงใจอย่างไรต้องตามไปดู แต่โดยข้อเท็จจริงอันหนึ่ง พนักงานสอบสวนเป็นประเด็นที่สังคมต้องให้ความสนใจ ก่อนการโยกย้ายตำรวจเมื่อปีที่แล้ว ในระดับรองผู้บังคับการลงมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปทลายกรอบตำแหน่งหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ซึ่งตำแหน่งพนักงานสอบสวนถือว่าเป็นตำแหน่งที่มีความเฉพาะ เพราะเป็นขบวนการยติธรรมชั้นต้น สามารถชี้ชะตาของคนให้เป็นให้ตายได้ วันดีคืนดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีการโยกย้ายคร่อมกันได้ ให้การจราจรย้ายมาเป็นพนักงานสอบสวนได้ ปราบปรามมาอยู่ได้ สืบสวนมาอยู่ได้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนสอบสวนเขาอยู่กันในสอบสวน เพราะเขาถือว่าเป็นกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น ขนาดไม่ได้โยกย้ายกันในพนักงานสอบสวนยังทำงานและมีการตั้งคำถาม วันนี้ผมจึงเรียนย้ำว่าการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงเป็นวาระที่สำคัญที่สุดที่รัฐบา พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องให้ความสำคัญ จะต้องอยู่ใน ปยป. ด้วยครับ