"สนธิญาณ" ชี้!!ถือเป็น"นิมิตรหมายที่ดี"ของชาวพุทธไทยที่พระประมุขฝ่ายสงฆ์ "ที่เป็นทั้งพระปฏิบัติกรรมฐาน ปริยัติ และวิชาการมีพระจริยวัตรงดงาม

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : กราบอนุโมทนาสมเด็จพระมหามณีวงศ์ สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ครับ ก็ถือว่าเป็นวันดี นิมิตหมายที่ดีสำหรับประชาชนคนไทยที่นับถือพระพุทธศาสนานะครับ ที่ได้มีพระประมุข แน่นอนครับ พูดเรื่องแบบนี้ต้องระมัดระวังและใคร่ครวญ เพราะสี่งที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทยอยู่ ณ ขณะนี้หลังจากที่มีพระบรมราชโองการแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่บังควรอย่างยิ่งในการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ย้ำนะครับ ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ถ้านำเสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราช ต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีนั้น ได้เสนอขึ้นไป 5 รายชื่อด้วยกันครับ คุณยุคล ท่านผู้ชม ก็เป็นที่รับรู้กันนะครับว่า ผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นสมเด็จพระราชา เป็นสมเด็จพระสังฆราชนั้นต้องเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 8 รูปด้วยกัน ใน 8 รูป ย้ำทวนกัน

รูปแรก สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ

รูปที่ 2 สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศ์

รูปที่ 3 สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธ ซึ่งได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช

รูปที่ 4 สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร

รูปที่ 5 สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร

รูปที่ 6 สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดพิชัยญาติ

รูปที่ 7 สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตร

 รูปที่ 8 สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดญาณเวศกวัน หรือ หลวงพ่อประยุทธ์

                ใน 8 รูปสมเด็จพระราชาคณะนะครับ ท่านนายกรัฐมนตรีเสนอชื่อไป 5 รูป 5 ชื่อ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็โปรดเกล้าลงมาเป็นที่เรียบร้อย ท่านนายกก็ได้ย้ำหลังประชุม ครม. บอกว่า ขออย่าขัดแย้ง ไม่ใช่ว่าองค์อื่นดีหรือไม่ดี ไปบอกว่าต้องดูเรื่อยๆ ดูเรื่องงาน เรื่องต่างๆ และเป็นไปตามพระราชอัธยาศัยที่พระองค์ท่านทรงพิจารณาเอง แน่นอนครับ ชื่อที่เสนอไป 5 ชื่อ การตัดสินพระทัยเป็นเรื่องของในหลวง สมเด็จพระมหามุนีวงศ์นะครับ ทุกท่านก็ได้รับทราบประวัติไปแล้ว แพร่หลายก่อนหน้านี้ และเมื่อวานก็แพร่หลายกันอย่างเต็มที่ ผมเพียงแต่อยากจะย้ำนะครับว่า พระองค์ท่านเป็นทั้งพระนักปฏิบัติและพระนักวิชาการ ซึ่งปกติจะหาได้ยากนะครับ เพราะถ้าพระทางสายวัดป่าก็จะไม่เน้นทางด้านการปฏิบัติ หลวงตามหาบัวก็ถือว่าเป็นพระนักวิชาการเหมือนกัน ได้เปรียญธรรมมาถึงเรียก หลวงตามหาบัวนะครับ แต่ก็มีไม่กี่รูป ส่วนใหญ่ก็จะมุ่งเน้นการฝึกฝน การปฏิบัตินะครับ ส่วนอีกด้านหนึ่ง เวลามุ่งเรียนเรื่องปริญัตินะครับ ในทางวิชาการก็จะได้ปฏิบัติน้อย แต่สมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ของเรานะครับ ท่านบวชเณรตั้งแต่อายุ 10 ขวบนะครับ บวณเณรอายุ 10 ขวบ อายุครบเกณฑ์บวชพระ ก็บวชพระต่อ หลังจากบวชพระแล้วนะครับ ท่านก็ออกมาอยู่วัดราชบพิธนะครับ ในทางวิชาการนะครับก็สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค จาก 9 ประโยค ซึ่งก็ถือว่าสูงมาก

                2 นะครับ ท่านเป็นพระอายุตอนนี้ 89 จะ 90 แล้วนะครับคุณยุคล เรียนจบปริญญาโทนะครับ และไม่ใช่เป็นปริญญาโทในประเทศไทยด้วยนะครับ ท่านได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยมกุฏราชวิทยาลัยนะครับ เป็นนักศึกษารุ่นที่ 5 จบศาสนศาสตรบัณฑิตในปี 2500 แล้วหลังจากนั้นนะครับ ได้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดีย ทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี ไปเรียนที่อินเดียแสดงว่าต้องพูดอังกฤษได้ นึกออกไหมครับ บาลี สันสกฤต อังกฤษ ไทย นี่เป็นการเรียนการสะสมภูมิธรรม ภูมิความรู้ทางด้านปริยัติ และทางโลก จบปริญญาโทครับ ส่วนทางด้านปฎิบัติก็เหมือนที่รับรู้กันว่าพระองค์ท่านมีพระอาจารย์ฝั้นนะครับ เป็นพระอาจารย์ พระอาจารย์ฝั้นพวกเราก็รู้จักกันดี ท่านเป็นพระปฏิบัติ เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นพระอริยสงฆ์ เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่งของเมืองไทย ผมลำดับเรื่องราวประวัตินะครับก็เพียงเพื่อจะตอกย้ำว่าถึงวันนี้นะครับ ต้องหยุดการวิพากษ์วิจารณ์ ทีนี้การหยุดการวิพากษ์วิจารณ์นะครับ การวิพากษ์วิจารณ์ที่มันกลายเป็นกระแสอยู่ในสังคมในขณะนี้ แน่นอนต้องผ่านโลกโซเชียล เพราะรู้สึกผิดหวัง เพราะผู้ที่เชียร์สมเด็จวัดปากน้ำก็มีความคิดความอ่านทางการเมือง แนวโน้มในทางที่จะชอบพรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณ บวกกับวัดพระธรรมกาย ส่วนพวกที่ไม่ชอบสมเด็จวัดปากน้ำนะครับ ก็ยืนอยู่ตรงข้าม คัดค้านคุณทักษิณ ไม่ชอบธรรมกาย มันมีเรื่องของการเมือง และเรื่องของบ้านเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นสิ่งที่เราเห็นนะครับ จึงไม่ใช่แค่การวิพากษ์วิจารณ์ทางฝ่ายที่ไม่ชอบ ฝ่ายที่เชียร์พระองค์ท่านนะครับ สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ ด้านหนึ่งก็กลับไปกระแนะกระแหน ไปเยาะเย้ย ไปถากถางอีกฝั่งอีกฝ่ายหนึ่ง โดยเฉพาะการก้าวล่วงหรือล่วงล้ำสมเด็จช่วงนะครับ คือไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตามแต่ ในเรื่องของรูปคดีนะครับ คนธรรมดา ผู้ที่ยังไม่ได้รับการตัดสิน ผู้ที่ถูกกล่าวหา ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์นะครับ ไม่ต้องนับว่าท่านเป็นพระสมเด็จพระราชาคณะนะครับ ซึ่งควรที่จะต้องไตร่ตรองและยับยั้งชั่งใจ ผมเองวันนี้ระหว่างพูดอยู่ก็อยู่ที่ศาลอาญาในข้อหาคดีกบฎ ยังไม่ตัดสิน ผมเป็นคนธรรมดา ผมก็ยังถือว่าผมเป็นผู้ที่ยังบริสุทธิ์อยู่ นะครับ ก็เช่นเดียวกันนะครับ เพราะฉะนั้นความหมายของการหยุดวิพากษ์วิจารณ์ควรหมายรวมความเห็นทั้งสองฝ่าย ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยนะครับก็ควรที่จะหยุด ฝ่ายที่เห็นด้วยก็ควรอย่างยิ่งที่จะหยุด ไม่ใช่ไปกระแนะกระแหน ไปซ้ำเติม ไปสร้างกระแสและทำให้เกิดสิ่งที่ไม่งดงามยิ่งขึ้นในสังคมไทย