"สนธิญาณ" ชี้!! คนไทยต้องระวังโครงการ "YSEALI" ของ"มะกัน" เพราะที่ผ่านมาทูตสหรัฐให้ท้าย "แก๊งหมิ่น"มาตลอด แนะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : คุณยุคล รู้จักชื่อ เกล็น เดวีส์ ไหม ?

ยุคล : ทราบครับ

สนธิญาณ : ชื่อคุ้นๆไหม ใครครับ นายคนนี้นี่ใคร ?

ยุคล : ทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย

สนธิญาณ : นายเกล็น เดวีส์นี่เป็นทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย เป็นคนที่มาหลังจากนางอะไรนะ

ยุคล : คริสตี้ เคนนีย์ ครับ

สนธิญาณ : คริสตี้ เคนนี่ย์ นี่ก็เป็นทูตสหรัฐฯ เหมือนกัน คริสตี้ เคนนี่ย์ก่อนที่จะกลับไปนี่นะฮะ สิ่งที่ได้ทำเสมอมาก็คือ พยายามออกมาปกป้องคนที่กระทำความผิดตามมาตรา 112 และเข้าไปยุ่มย่ามกับการเมืองในประเทศไทย ไปเยี่ยมเยียนกลุ่มพี่น้องประชาชนคนเสื้อแดง ที่มีความคิดเห็นอีกฝั่งอีกฝ่ายหนึ่ง และเชิดชูว่าเป็นนักประชาธิปไตย ไปให้กำลังใจปลุกเร้าต่อเนื่องมาโดยตลอดนะ นั่นแสดงให้เห็นถึงท่าทีของสหรัฐฯผ่านทูตคนก่อน เกล็น เดวีส์มาเนี่ย ก็แบบเดียวกันนะ คุณยุคล จำเหตุการเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ปีที่ผ่านมาได้ไหมครับ นาย เกล็น เดวีส์ เนี่ย มาเข้าพบนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย นะครับ และก็ได้แสดงสิ่งที่ผิดและก็เสียมารยาททางการทูตเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ได้เข้าพบเสร็จเนี่ยนะครับ ก็ออกมาแถลงบอกว่า ประเด็นที่การหารือกับนายดอนในวันนี้คือเรื่องทะเลจีนใต้และเรื่องสถานการณ์สิทธิมนุษยชนประเทศไทย พร้อมขอบคุณนายดอนที่ได้หารืออย่างตรงไปตรงมา และก็พูดกับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐฯกังวลอย่างยิ่งกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในเรื่องที่เราปิดกั้นการแสดงออกทางการเมืองในประเทศไทยในเรื่องการจำกัดสิทธิในการแสดงความคิดเห็น สหรัฐฯเรียกร้องให้รัฐบาลไทยมีการพูดคุยอย่างเปิดเผยและประชาชนมีส่วนร่วมในอนาคตทางการเมือง รวมถึงการร่างรัฐธรรมนูญและประชามติ หลังจากที่พูดเสร็จนะครับ หลังจากที่พูดเสร็จ นายดอนก็เรียกเอาเอกสารที่ทางการสหรัฐฯส่งมาดู ไม่ได้มีเรื่องหารือนี่ นี่คือสิ่งที่นายเกล็น เดวีส์ทำ

วันนี้ทำไมผมถึงหยิบยกเรื่องนายเกล็น เดวีส์มาอีกล่ะครับ มันน่าสนใจตรงนี้ คุณยุคล นายเกล็น เดวีส์นะ ต่อเนื่องมาจากทูตคนก่อนและก็ทำอย่างไรนะครับ ได้เคยไปอภิปราย ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศเมื่อเข้ามานะครับ ก็พูดถึงการจำกัดสิทธิในมาตรา 122 และก็เรียกว่าออกความเห็นที่เรียกว่า ค่อนข้างจะรุนแรงเลยทีเดียว การแสดงความเห็นครั้งนั้นเนี่ยนะฮะ กลายเป็นข่าวสารที่คนไทยเนี่ยนะฮะ แสดงความไม่พอใจอย่างเต็มที่ และก็ได้ส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันเนี่ยนะครับว่าสิ่งที่ทำนั้นนะครับ เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะทำ สหรัฐฯตระหนักเรื่องนี้ไหมครับ ไม่ได้ตระหนักนะครับ ไม่ได้ตระหนัก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเนี่ยนะครับ นายเกล็น เดวีส์เดินสายไปภาคอีสาน ไปพบรองผู้ว่าราชการจังหวัด แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับการไปพบผู้นำนักศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆ สหรัฐฯกำลังมีโครงการอยู่หนึ่งโครงการครับ เรียกโครงการนี้ว่าเนี่ยนะครับ โครงการ YSEALI มันย่อมาจาก Young Southeast Asian Leaders Initiative เป็นโครงการที่โอบาม่าเนี่ยสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2556 เนี่ยนะครับ เพื่อที่จะนำพาเยาวชนในอาเซียนเนี่ยนะครับ อายุระหว่าง 18-35 ปี เนี่ย ไม่รู้เยาวชนยังไง 18-35 ปี ผู้นำเยาวชนเนี่ย ไปเยี่ยมเยียนสหรัฐฯ ไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ไปฝึกอบรมนะครับ พร้อมทั้งมอบทุนให้ด้วย และจะบอกว่าผู้นำนักศึกษาเหล่านี้ จะเป็นผู้นำในอนาคตที่จะนำพาภูมิภาคนี้ไปสู่ความก้าวหน้าและความเป็นประชาธิปไตย ภายใต้โครงการนี้เนี่ยนะครับ เมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมาเนี่ย นายเกล็น เดวีส์ก็ไปที่มหาสารคามนะครับ ไปที่มหาสารคาม ไปกินข้าว ไปร่วมพูดคุย ไปแลกเปลี่ยนกับนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามเนี่ย อย่างเรียกว่าแนบแน่นและเป็นกันเอง มีการปลูกต้นไม้เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงการสนับสนุนและมิตรภาพระหว่างสหรัฐฯกับไทย ไปเปิดนิทรรศการภาพถ่าย และก็น่าสนใจ นอกเหนือจากนั้นก็ได้พบรองผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย ได้มีการแลกเปลี่ยนกันนะฮะ พูดคุยกัน ผมก็จะเรียนแบบนี้นะครับ ฝากไปถึงรัฐบาล คสช. ฝากไปถึงผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในขณะนี้ทุกท่านทุกคน ท่านเชื่อไหมครับว่าสหรัฐอเมริกาดำเนินการเรื่องนี้อย่างบริสุทธิ์ใจ โดยท่านจะต้องพิจารณาถึงบทบาทของทูตสหรัฐฯ ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในการออกมาต่อต้านการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามมาตรา 112 ซึ่งมันไม่ได้เป็นการแสดงสิทธิเสรีภาพโดยความบริสุทธิ์ใจ แต่เป็นการกระทำภายใต้การเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งเกิดผลอย่างรุนแรงในช่วงที่ระบอบทักษิณได้ถูกประชาชนคนไทยต่อต้าน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 เป็นต้นมาจนถึงช่วงระยะเวลานี้ 10 ปี จากกฎหมายนี้มาเป็นร้อยปี มีคนกระทำความผิดเพียงแค่ในระดับ 10 คน วันนี้มีผู้กระทำความผิดเกือบ 5000 ราย นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น สหรัฐฯ มี CIA มีหน่วยงานสืบราชการลับ มีเครื่องไม้เครื่องมือ ทั้งหลายทั้งสิ้นทั้งปวง ทำไมจะไม่รู้ว่าบุคคลเหล่านี้ไม่ได้แสดงสิทธิเสรีภาพอย่างบริสุทธิ์ ตรงไปตรงมา แต่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีตั้งแต่ระดับต่ำ นั่นก็คือ บ่อนทำลาย กัดเซาะสถาบันพระมหากษัตริย์ตามทฤษฎีที่พูดไว้ว่าให้ทำเหมือนปลวกแทะไม้ ค่อยๆทำไป จนไปถึงระดับที่จะยกระดับการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบบสาธารณรัฐ ซึ่งมีการจับได้ รับสารภาพ มีหลักฐานประกอบอย่างชัดเจน เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ สหรัฐฯไม่รู้เรื่องเหล่านี้หรือ หรือรู้แต่เจตนามาสนับสนุนเพื่อเป็นแบคให้กับคนเหล่านี้ สหรัฐฯคิดอะไรอยู่ ทูตกี่คนๆที่ส่งมาในช่วงระยะหลังดำเนินนโยบายอย่างนี้ไปโดยตลอด เพราะฉะนั้นไอ้นโยบาย ชื่อภาษาอังกฤษยากๆอ่านยากเนี่ยนะ คุณยุคล เดี๋ยวช่วยอ่านให้คุณผู้ฟังด้วย คุณยุคลเก่งภาษาอังกฤษกว่าผม มันเป็นโครงการที่มีเจตนาบริสุทธิ์จริงหรือเปล่า ดูเรื่องไผ่ดาวดิว ดูเรื่องต่างๆที่ทูตสหรัฐฯออกมาเคลื่อนไหวอยู่ในตอนนี้ ไปติดตามดูครับ ดูว่าเขาทำอะไรอยู่ และภายใต้โครงการนี้ เด็กนึกออกไหมครับ โอ้โห ได้เป็นทูต ได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเชื่อมโยง ได้รับทุน ได้ไปสหรัฐฯก็ไป เอาล่ะเนี่ยประชาธิปไตยเป็นแบบนี้ๆ ไหนแน่จริงพาไปดูซิ ว่าคนสหรัฐฯที่เรียกว่า Homeless ที่ไม่มีบ้านนอนเป็นสิบล้าน ที่อยู่ในสหรัฐฯอะ ทำไมไอ้ประเทศประชาธิปไตย ถึงมีภาพ มีเรื่องราวแบบนี้ ในขณะที่ประเทศไทยไม่มี ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ทุนนิยม ดูดซับกิน เอาส่วนเกินไปจากผู้คน ไอ้คนยากไร้ คนที่สูญเสียโอกาสก็ถูกทอดทิ้งไป เข้ามายุ่มย่ามในประเทศไทยเนี่ยนะฮะ อย่าวางใจนะครับ คนไทยทั้งหลายว่าเป็นทรัมป์แล้วจะดีขึ้นนะครับ เปลี่ยนโอบาม่ามาเป็นทรัมป์แล้ว อย่าวางใจ แนวนโยบายแห่งรัฐ ก็เป็นแนวนโยบายแห่งรัฐ ประธานาธิปดีเข้ามาก็ปรับเปลี่ยนในบางเรื่องที่เป็นยุทธศาสตร์จริง แต่คนไทยไว้วางใจไม่ได้และต้องจับตาโครงการนี้ และที่สำคัญ คสช. ต้องสั่งต้องดู ข้าราชการประจำ ระดับรองผู้ว่า ระดับคนข้าราชการระดับส่วนภูมิภาค ถ้าไปรองมือรองไม้ทูตสหรัฐฯ รู้สึกเป็นเกียรติ ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง