"สนธิญาณ" ชี้! สิ่งที่พระธัมมชโยและลูกศิษย์ทำ เป็นสิ่งที่ทำให้สังคมเดือดหาก หากเข้าใจกฎแห่งกรรมและมีพรหมวิหาร 4 จะไม่เกิดภาพเหล่านี้ขึ้น

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

ยุคล : สวัสดีครับท่านผู้ชม กลับเข้ามาในช่วงเวลาของยุคลถามตรงสนธิญาณฟันธงตอบ สัปดาห์นี้เรายังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ของพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกายอีก 1 สัปดาห์ หลังจากสัปดาห์ที่แล้วทวนความสั้นๆนะครับ คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ได้ฟันธงลงไปแล้วว่า พระธัมมชโยเลือกหรือตัดสินใจที่จะหนีหรือไม่มอบตัว พร้อมทั้งฉายภาพให้เห็นอนาคตของวัดพระธรรมกายอีกด้วยนะครับว่า จะมีการตั้งลัทธิใหม่ที่ต่างประเทศเพิ่มเติม มาถึงสัปดาห์นี้ก็เป็นไปตามที่คุณสนธิญาณว่าเอาไว้ ในส่วนแรกที่บอกว่าพระธัมมชโยเลือกที่จะหนีและจะไม่มอบตัวอย่างแน่นอน ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่หัวหน้า คสช. ตัดสินใจใช้มาตรา 44 ล่วงเลยมาจนถึง ณ ขณะนี้ สถานการณ์ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะเดินไปสู่จุดจบอย่างไร และที่สำคัญพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะ คสช. นั้นยืนยันชัดเจนหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าจะใช้มาตรา 44 ไปจนกว่าจะจับกุมพระธัมมชโยได้ เพราะฉะนั้นสถานการณ์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เราจะได้พบกับคุณสนธิญาณและคำถามแรกที่เชื่อว่า หลายคนก็อยากจะให้คุณสนธิญาณได้พูดแจ้งออกมาหลังจากที่วัดพระธรรมกายได้ออกแถลงการณ์ห้ามไม่ให้สำนักข่าวทีนิวส์เข้าไปทำข่าวในวัดพระธรรมกาย เราไปค้นหาคำตอบกลับคุณสนธิญาณกันครับ สวัสดีครับคุณสนธิญาณครับ
 


สนธิญาณ : สวัสดีครับคุณยุคล สวัสดีครับท่านผู้ชมแฟนข่าวสปริงนิวส์ทุกท่าน และแฟนข่าวทีนิวส์ด้วยครับ
 


ยุคล : คำถามแรกเลยครับ อันนี้สำนักสื่อสารขององค์กรวัดพระธรรมกายห้ามไม่ให้ทีนิวส์เข้าไปทำข่าวในวัดพระธรรมกาย พร้อมกับกล่าวหาทีนิวส์ว่าเป็นสื่อบิดเบือน ใส่ร้าย เสี้ยม
 


สนธิญาณ : ผมต้องเรียนว่าข้อเท็จจริงอันแรกที่เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า วัดเป็นสถานที่ราชการ วัดเป็นสาธารณะ ส่วนที่ไม่ได้มีพระรูปหนึ่งรูปใดเป็นเจ้าของ และวัดนั้นจะเกิดขึ้นด้วยการบริจาคที่ดินหรือการหาเงินมาของพระรูปหนึ่งรูปใดก็ตามแต่ แต่ไม่ใช่เป็นสมบัติของพระ แต่เป็นสมบัติของราชการ และเป็น สาธารณะ วัดอีกชื่อหนึ่งมีชื่อว่าอาวาส เพราะฉะนั้นผู้ปกครองวัดเราจึงก็เรียกว่าเจ้าอาวาส ก็เป็นแต่เพียงผู้ปกครองวัดดูแลพระสงฆ์ให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย และอีกหน้าที่หนึ่ง ก็คือเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อกระทำไม่ชอบทำผิดก็มีสิทธิ์ที่จะผิดกฎหมายใดๆ ก็ตามแต่ที่เขียนไว้ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้นต้องขอเรียกว่า วัดพระธรรมกายหรือพระในวัดพระธรรมกาย ไม่มีสิทธิ์ห้ามสำนักข่าวใดๆ ไม่ว่าจะเป็นทีนิวส์ เป็นเนชั่น หรืออัมรินทร์ก็ตามแต่ อย่าว่าจะสื่อเลยครับ เพราะแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐก็ยังเข้าไม่ได้ ฉะนั้นตอนนี้วัดจึงกลายเป็นพื้นที่ของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เรียกตัวเองว่า พระหรือศิษยานุศิษย์ของพระธัมมชโยไปเสียแล้ว ซึ่งโดยหลักเรียนว่าผิดหลักแห่งพระพุทธศาสนาโดยสิ้นเชิง หัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนาคือทุกสรรพสิ่งแม้แต่ร่างกายเราเองเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อนิจจังคือความไม่เที่ยงแท้แปรเปลี่ยน ทุกขังตั้งอยู่คงที่ไม่ดับ อนัตตาท้ายที่สุดก็คือไม่มีอะไร ที่พระพุทธเจ้าสอนเรื่องนี้ก็เพราะจะได้ให้จิตของเราปล่อยวาง ไม่ไปยึดติดกับสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพราะสิ่งหนึ่งสิ่งใดนั้นนำพาไปสู่กิเลส ศาสนาพุทธสอนให้ละทิ้งกิเลส  ฉะนั้นการสอนที่สูงสุดอย่าว่าแต่ทรัพย์สิน อย่าว่าแต่ที่ดินหรือทรัพย์สมบัติใดๆ เลย ร่างกายที่เราคิดว่าเป็นของเราเองก็ไม่ใช่ของเรา เราไม่สามารถควบคุมการเกิดการแก่การเจ็บการตายได้ ท้ายที่สุดจิตวิญญาณเราก็ต้องออกไปจากร่าง เพราะฉะนั้นสภาพของการมีอยู่ก็ต้องพิจารณาว่า คณะที่นุ่งเหลืองห่มเหลืองอยู่และเรียกตัวเองว่าเป็นพระศิษยานุศิษย์ของพระธัมมชโยสังกัดวัดพระธรรมกายนั้น ได้เดินไปตามหลักและแนวคำสอนของพระพุทธศาสนาหรือไม่ และที่สำคัญผู้ที่ประกาศตัวเป็นพุทธะผู้ที่ประกาศตัวเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลักสำคัญอันหนึ่งของพระพุทธศาสนา จิตจะต้องเป็นสัมมาทิฏฐิ ความหมายของสัมมาทิฏฐิ ก็คือ เป็นจิตที่เชื่อมั่นกฎแห่งกรรม เป็นจิตที่เชื่อมั่นในการมีอยู่ของพระพุทธเจ้า เป็นจิตที่เชื่อในธรรมที่พระพุทธเจ้า เอากฎของธรรมชาติทางกฎแห่งกรรมและกฎที่จะหลุดพ้นจากกฎแห่งกรรมมาสั่งสอน ผู้ใดไม่เชื่อกฎแห่งกรรมก็เท่ากับว่าไม่มีสัมมาทิฏฐิ ก็เท่ากับไม่ได้เดินตามวิถีแห่งพุทธเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร คณะศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกายจะต้องชัดเจนและเข้าใจว่าสิ่งที่ พระธัมมชโยเจออยู่นั้น เป็นสิ่งที่พระธัมมชโยทำมาเองทั้งสิ้น ผู้ที่เป็นพระและผู้ที่ยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธศาสนายึดมั่นในสัมมาทิฏฐิ ต้องเชื่อและยอมรับว่าผลใดๆ ก็ตามแต่ที่เกิดขึ้นกับเรา ตัวเรา สังคมของเรา ล้วนแต่เป็นผลมาจากกฎแห่งกรรมที่เราเคยทำในอดีตทั้งสิ้น คนพูดไม่มีสิทธิ์พูดว่าไม่ยุติธรรม เพราะฉะนั้นพระธัมมชโยซึ่งประกาศตัวเป็นผู้นำเป็นครูบาอาจารย์ ถ้ายังพูดถึงคำว่าได้รับความไม่ยุติธรรม อันนี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องใคร่ครวญและทบทวนกัน เพราะภายใต้กฎแห่งกรรมเอาจำแนกหลักๆ มีอยู่ 3 หมวดใหญ่ หมวดละ 4 ข้อ หมวดแรกคือกรรมที่ให้ผลตามหน้าที่ก็คือกรรมที่จะส่งให้ไปเกิดธรรมนี้ เรียกว่า “ชนกกรรม” เช่น คุณยุคลจะไปเกิดเป็นอะไรก็เป็นไปตามสิ่งที่คุณยุคลเคยทำมา
 
 
ยุคล : อันนี้คือข้อเท็จจริงตามพระไตรปิฎกเลยนะครับ
 


สนธิญาณ : แน่นอนครับ 2. “อุปัตถัมภกกรรม” หรือเรียกว่า กรรมสนับสนุน เช่น คุณยุคลเกิดมาแล้วจะมีกรรมสนับสนุนต่อ เกิดมาเพราะกรรมแต่อดีตทำไว้ไม่ดี กรรมสนับสนุนให้ไม่ดีก็จะยิ่งแย่ คำว่ากรรมสนับสนุนไม่ได้แปลว่ากรรมสนับสนุนให้ดีขึ้นนะครับ เกิดมากรรมที่ทำไว้ดีกรรมสนับสนุนให้ดีก็จะยิ่งดียิ่งขึ้น กรรมที่ 3 เรียกว่า “อุปปีฬิกกรรม” หรือกรรมบีบคั้นบันทอน กรรมนี้เป็นตัวขัดขวาง เช่น คุณยุคลทำกรรมมาดี เกิดดี แต่จะมีกรรมมาบั่นทอน ถ้ากรรมแต่อดีตทำมาเอาไว้ สุดท้ายเรียกว่า “อุปฆาตกกรรม” คำนี้หมายความว่ากรรมตัดรอนเปลี่ยนจากที่เกิดให้พลิกไปอีกครั้งหนึ่งเกิดมาดีสนับสนุน จู่ๆเกิดกรรมตัดรอนขึ้นพลิกขั้วพลิกทางเลย พลิกไปอีกอย่างนึงเลย จากเป็นคนรวยจะกลายเป็นยาจก ในด้านกลับกันเกิดมาเป็นยาจกตอนเกิดมาไม่ดีทำกรรม ทำกรรมไว้ไม่ดีตอนเกิด แต่เจอกรรมตัดรอนพลิกกลับมาเป็นเศรษฐีเลยถูกหวย 60 ล้าน ทุกอย่างไม่มีเหตุบังเอิญไม่มีโชคดี ต่อมาเขาเรียกว่ากรรมที่ให้ผลมี 4 อย่าง กรรมแรกคือกรรมหนัก “ครุกรรม” เป็นกรรมหนักที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้าถึงพระบาทห้อพระโลหิต ทำให้สงฆ์แตกแยกกัน นี่คือกรรมหนัก ทำในสิ่งเหล่านี้ชดใช้ก่อนเลย กรรมที่ 2 เรียกว่า “อาจิณณกรรม” กรรมไม่หนักหนาแต่ทำซ้ำบ่อยๆก็เกิดผล อย่างที่ผมห้ามตบยุงบ่อยๆ จริงๆแล้วยุงหนึ่งตัวไม่เท่ากับฆ่าควายแต่คุณตบยุงบ่อยๆโรคภัยไข้เจ็บจะเล่นงานคุณ 3. “กตัตตากรรม” คือกรรมที่ไม่ตั้งใจจะทำอย่างเช่นขับรถไปชนแมลง 4. “อาสันนกรรม” กรรมนี้สำคัญ เป็นกรรมที่จะนำพาคุณยุคลไปเกิด กรรมนี้พระพุทธเจ้าถึงสอนว่าผู้ที่จะตายจิตต้องผ่องใส จิตผ่องใสมีสุคติเป็นที่ตั้ง จิตเศร้าหมองมีทุกขติเป็นที่ตั้ง จิตผ่องใสไปเกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นเทวดา หรือพรหมบนสวรรค์ จิตเศร้าหมองเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานเป็นเปรตเป็นอสุรกายและเป็นสัตว์นรก ส่วนหมวดที่ 3 เราเรียกว่ากรรมให้ผลตามการกรรมที่ให้ผลในชาตินี้ อันนี้อันแรก ส่วน 2. กรรมทำให้ผลในชาติหน้าและสุดท้ายกรรมที่ทำให้ผลในชาติต่อต่อไป และท้ายสุดคือ “อโหสิกรรม” ผมเรียนแบบนี้ก็เพื่อเราจะได้ทำความเข้าใจว่า วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกับพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกายและบรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น การพยายามขัดขวางความพยายามในการที่จะไม่ยินยอม และทำให้เกิดความวุ่นวายเสียหายต่อสังคมนี้เป็นผลล้วนแต่มาจากกฎแห่งกรรมเกิดขึ้นตั้งแต่อดีตชาตินับจนถึงปัจจุบันทำซ้ำทำไปจะหนักไปเพราะฉะนั้นสิ่งหนึ่งที่จะเกิด ผลเราจะเห็นได้ใน กรรม 12 ข้อนี้ และไม่ต้องมาเถียงกันระหว่างสำนักข่าวทีนิวส์กับธรรมกายว่าใครถูกใครผิด
 
 
ยุคล : กฎแห่งกรรมจะตัดสินถูกไหมครับ
 


สนธิญาณ : ถูกต้องกฎหมายไม่ใช่ของจริงตัดสินผิดถูกได้ภายใต้ผิดถูกและยุติธรรมไม่ยุติธรรม ก็อยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม หากเราเคยกลั่นแกล้งคนอื่นไว้ ความนิยมของโซเชียล ไม่ใช่คำตัดสิน ผมพูดแบบนี้รู้ตัวดีว่า เรารู้ตัวดี สิ่งที่กลัวที่สุดไม่เคยกลัวในการถูกฟ้องร้อง กลัวที่สุดคือบาปกรรมเวรที่จะตามย้อนตามสนองแต่วันนี้ เราต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ผมในฐานะหน้าที่สื่อความรู้เล็กน้อยไม่ได้เป็นคนดีเท่ากับผู้ที่นุ่งเหลืองห่มเหลือง แต่ผมเชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม
 
 
ยุคล : เมื่อคุณสนธิญาณเชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม วันนี้การเดินเนื้อหาของรายการก็จะเอากฎแห่งกรรมมาเป็นตัวเดิน และจะใช้เห็นเรื่องราวที่พระธัมมชโยประสบพบเจอ มารวมถึง ณ ขณะนี้ว่า ล้วนเกิดจากกฎแห่งกรรมทั้งสิ้น พักกันสักครู่เดียวช่วงหน้ากลับมาว่ากันต่อ
 

 


ยุคล :  กลับเข้ามาในช่วงนี้ อย่างที่นำเรียนกับคุณผู้ชมไปว่า วันนี้คุณสนธิญาณพยายามจะเดินเนื้อเรื่องทั้งหมดของพระธัมมชโยกับวัดพระธรรมกาย ภายใต้หลักการเรื่องของกฎแห่งกรรม เมื่อกฎแห่งกรรมเป็นคำตอบว่าบุคคลหรือ สิ่งมีชีวิตใดก็ตามแต่ เคยทำอะไรมาก็จะได้รับผลแบบนั้น นั่นหมายความว่าพระธัมมชโยเองซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ก็มีผลทั้งในเชิงบวกและเชิงลบด้านหนึ่งมีคนให้การสนับสนุนศรัทธามีเงินทองมากมายแต่อีกด้านหนึ่งก็มีคนที่ต่อต้านวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโย ข้อเท็จจริงนี้เกิดมาจากกฎแห่งกรรมแบบใดอย่างไรเราจะไปถามกับคุณสนธิญาณว่าเป็นอย่างไร
 


สนธิญาณ : ก็ต้องเริ่มต้นว่า พระธัมมชโย ต้องถือว่าเป็นผู้มีบุญ ผู้ใดก็ตามแต่มีจิตนอบน้อมที่จะเข้าสู่เส้นทางของพระพุทธศาสนาถึงขั้นถวายตัวเป็นพุทธบุตร บวชในพระพุทธศาสนา ต้องถือว่ามีบุญมาเป็นเบื้องต้น กรรมแต่อดีตที่นำพามาสู่การเกิดหรือชนกกรรมถือว่าเป็นกรรมที่ดี กรรมที่ดีแล้วกรรมที่สนับสนุนให้เกิดหรือการช่วยเหลือก็ถือเป็นกรรมที่ดีที่จะเกิด ซึ่งพระธัมมชโยขณะที่อายุ 19 ปี เดินหน้าเข้าวัดที่วัดปากน้ำ สนใจธรรมะถือว่าเป็นผู้ที่มีสติปัญญาแหลมคม และเป็นผู้ที่สนใจในพระพุทธศาสนา ขณะนั้นเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบ อายุ 19 ก่อนที่จะเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย ก็เดินทางเข้าสู่วัดปากน้ำไปเจอกับอาจารย์ที่เรียกว่าคุณยายจันทร์ หรือ แม่ชียายจันทร์ ขนนกยูง ไปวัดปากน้ำพระวัดปากน้ำสอนเรื่องกรรมฐาน โดยมีหลวงปู่สดเป็นผู้สอนสืบทอดวิชา ที่เรียกว่าวิชาธรรมกาย พระธัมมชโยหลังจากที่ฝึกปฏิบัติธรรมมาแล้วก็เรียกว่าได้รับความก้าวหน้า ในสิ่งที่ปฏิบัติมาโดยตลอด ก็เอนทรานซ์ เป็นนิสิตของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จบการศึกษาในปี พ.ศ. 2512 เมื่อจบก็ได้บวชเลย บวชโดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์หรือสมเด็จช่วง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอุปัชฌาย์ในทางพระพุทธศาสนาถือเป็นบิดาในทางธรรมถือเป็นพ่อคนที่สองของผู้ที่จะตัดสินใจเดินในเส้นทางพระพุทธศาสนา  พระธัมมชโยเมื่อบวชจึงได้ชื่อในทางพระว่า “ธัมมชโย” อยากทราบไหมครับว่าแปลว่าอะไร แปลว่า ผู้ชนะโดยธรรม วันนี้จะชนะโดยทำจริงหรือไม่ นี่ก็เป็นเรื่องที่สาธารณชนและเป็นสิ่งที่กฎแห่งกรรมจะต้องติดตามพิสูจน์ต่อไป เมื่อบวชไปต้องถือว่าเป็นผู้ปฏิบัติดี ผู้ปฏิบัติชอบ เริ่มสั่งสอนธรรมะได้ในระหว่างปฏิบัติก็มีบ้านที่คุณยายจันทร์สอนธรรมะอยู่ เรียกว่าบ้านธรรมประสิทธิ์ พระธัมมชโยในฐานะ ลูกศิษย์คุณยายจันทร์ก็เริ่มสอนธรรมะต่อที่บ้านธรรมประสิทธิ์ถือว่าไม่ธรรมดานะครับ พระหนุ่มบวชมาแล้วสอนธรรมะได้สติปัญญาตอนที่อยู่ทางโลกเรียนสวนกุหลาบ เอนทรานซ์มหาวิทยาลัย ดูแล้วนะครับคิดว่าควรจะสร้างวัดขึ้นมาให้เป็นพิมพ์เป็นฐานของตัวเองจึงเป็นที่มาในการสร้างวัดพระธรรมกาย
 
 
ยุคล : จากสนใจธรรมะก็มาบวช ก็ศึกษาและสามารถเป็นอาจารย์มาถ่ายทอดวิชาความรู้ได้ และคิดถึงขนาดจะสร้างวัด เอาแค่ประวัติแค่นี้ก็ต้องถือว่าพระธัมมชโยนั้นไม่ธรรมดา
 

 
สนธิญาณ : ถ้าเราพูดถึงตามกฎแห่งกรรม หรือว่านี่คือสิ่งที่สั่งสมมา ชนกกรรมดีเกิดมา กรรมดี กรรมส่งเสริมนำ สนับสนุนดี
 
 
ยุคล : ตามข้อมูลที่พูดในตอนแรกเลย
 

 
สนธิญาณ : แต่ตอนนี้จะเป็นกรรมตัดรอนหรือไม่ เราต้องกลับมาดูต่อว่า ทำไมพระธัมมชโยต้องเรียกว่าเป็นพระหนุ่มถึงได้รับความนิยมจากผู้คนจำนวนมากมาย จนสามารถที่จะมาตั้งวัดได้ คนไทย โดยเฉพาะคนพุทธ เวลาสนใจเรื่องพระ จะสนใจเรื่องอิทธิฤทธิ์ ความศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องแรก ไม่ได้ดูเรื่องธรรมะจะไปปฏิบัติธรรมอะไรก็ตามแต่ จะดูเรื่องอิทธิฤทธิ์ความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเราจะเห็นได้นะครับว่ามีลูกศิษย์ของพระธัมมชโยออกมาพูดถึงเรื่องว่า พระธัมมชโยมีพุทธานุภาพ หายตัวได้บ้างมีฤทธิ์อย่างโน้นอย่างนี้ได้บ้าง ยกตัวอย่าง โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันสามารถที่จะรู้ว่าคนที่ตายแล้วไปอยู่ที่ใด ผมเรียนนะครับว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง เป็นเรื่องที่คนพูดและคนไทยเราจะต้องเข้าใจศึกษาวัดพระธรรมกายศึกษา พระธัมมชโย
 
 
ยุคล : ที่บอกว่าบุคคลผู้หนึ่งสามารถไปนรกหรือไปสวรรค์ได้ ในทางพระไตรปิฎกในทางพระพุทธศาสนาบอกว่ามีอยู่จริง
 


สนธิญาณ : จริงครับ ในพระพุทธศาสนาเราจะเรียกวิชาความรู้ เหล่านี้ไว้ญาณ มีอยู่ 8 อย่าง เรียกว่า ญาณ 8 หรือวิชา 8 อย่างแรกคือ “วิปัสสนาญาณ” ฝึกเพื่อน้อมจิตไปสู่ การที่จะเรียนรู้การวิปัสสนารู้จักตัวเรารู้จักองค์ประกอบของเรา ถัดมาเรียกว่า “มโนมยิทธิญาณ” เมื่อจิตบริสุทธิ์ใน ระดับหนึ่งแล้วก็สามารถที่จะถอดจิตและไปสู่สวรรค์หรือนรกได้ “อิทธิวิธิญาณ” ก็มีอิทธิฤทธิ์ ในการที่จะหายตัวทะลุฟ้า ข้ามภูเขา ร่นทางร่นระยะเวลา “ทิพยโสตญาณ” ก็หมายความว่า มีเสียงทิพย์ สามารถฟังรู้เรื่องที่ไกลก็สามารถอย่างรู้ได้ “เจโตปริยญาณ” เป็นญาณที่รู้ใจรู้ความคิดของผู้อื่นรู้บุพเพนิวาสญาณ นั่นก็หมายความว่าสามารถระลึกชาติได้ย้อนหลังไป “จุตูปปาตญาณ” รู้ด้วยทิพย์จักษุว่าสัตว์ทั้งหลายที่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นทำกรรมอย่างใดมาแล้วสุดท้ายเรียกว่า “อาสวักขยญาณ” อันนี้สำคัญมากคือยานที่จะรู้ว่าตัวเองบรรลุธรรมบริสุทธิ์หมดจดเป็นพระอรหันต์แล้วหรือไม่ในยาม 8 อย่าง
 
 
ยุคล : ที่พูดมาคือยานอิทธิฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

 
 
สนธิญาณ : ถูกต้องครับ บางคนก็จะบอกว่าไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน ได้สอนอย่างไรครับ พระโมคคัลลานะ เหาะเพื่อแสดงฤทธิ์ให้ผู้ที่ไม่ศรัทธาเชื่อถือ เพราะมีความจำเป็นหรือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเองก็ได้แสดงอิทธิฤทธิ์หลายหน เพราะได้เล็งเห็นแล้วว่าผู้ที่พระองค์จะเผยแพร่ธรรมะนี้ มีจิตจดจ่ออยู่ที่ธรรมอยู่แล้ว แต่ยังมีมิจฉาทิฐิอยู่การที่จะแสดงฤทธิ์เพื่อที่จะทำให้เกิดความเชื่อ จะทำให้บุคคลเหล่านั้นกลายมาเป็นสาวก และกลายเป็นพระอรหันต์สาวกในการที่จะเผยแพร่พระพุทธศาสนาต่อไป สิ่งเหล่านี้ในพระพุทธศาสนาศาสนาพุทธมี
 
 
ยุคล : แล้วพระธัมมชโยมีญาณหนึ่งในแปดนี้จริงหรือไม่

 
 
สนธิญาณ : ผมเรียนแบบนี้ว่าสิ่งที่ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนพูดเป็นแบบนี้ได้ยินพระองค์ไหนศักดิ์สิทธิ์ก็จะวิ่งไปหา เพราะคิดว่าความศักดิ์สิทธิ์จะช่วยตัวเองได้ แต่ผมเรียนย้ำนะครับ พระพุทธเจ้าเป็นผู้ที่บริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นผู้ที่ดีเลิศประเสริฐกว่าสัตว์ใดๆ ทั้งสิ้นทั้งปวงอุบัติขึ้นในโลก ผู้คนที่ได้กราบไหว้พระพุทธเจ้าพระพุทธเจ้าก็ยังช่วยไม่ได้ พระอรหันต์สาวกความศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนจะมาช่วย ชาวพุทธทั้งหลายได้เมื่อพระพุทธเจ้าสอนว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน อยากจะพ้นจากกฎแห่งกรรมก็ต้องมีสัมมาทิฏฐิ เชื่อในกฎแห่งกรรมเชื่อว่ามีพระพุทธเจ้า เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า ในการที่จะก้าวให้พ้นกฎแห่งกรรม ด้วยธรรมที่พระองค์เอาจากธรรมชาติ เป็นธรรมที่เรียกชื่อว่าโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ เพราะฉะนั้นผู้ที่มีฤทธิ์ไม่ได้หมายความว่าเป็นพระอรหันต์ ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยใครได้ มีผู้ที่เคยมีฤทธิ์ในอดีตผมเคยพูดแล้วต้องทวนซ้ำคือ พระเทวทัต มีฤทธิ์ อิจฉาพระพุทธเจ้า มีฤทธิ์แต่ใจยังมืดบอดยังดำ อิจฉาพระพุทธเจ้า เห็นพระเจ้าพิมพิสารสนับสนุนช่วยเหลือส่งเสริมในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ตัวเองบวชอยู่ในพระพุทธศาสนาเสียด้วยซ้ำไปใช้อิทธิฤทธิ์ไปเบี่ยงเบนจิตของพระเจ้าอชาตศัตรู ซึ่งเป็นพระราชกุศลพระเจ้าพิมพิสาร ให้จับพระเจ้าพิมพิสารมาขังจนสิ้นพระชนม์ กลายเป็นปิตุฆาต ที่ผมบอกว่ากรรมหนักต้องตกนรกหมกไหม้ วันนี้พระเทวทัตยังตกนรกหมกไหม้อยู่ ตกคนเดียวไม่พอ ไปนำเอาพระเจ้าอชาตศัตรู ตอนหลังระลึกรู้สึกตัวเผยแพร่พระพุทธศาสนา แต่ไม่ทันบาปกับบุญทดแทนกันไม่ได้บาปที่รับเป็นบาปหนักเป็นบาป ปิตุฆาตก็ตกนรกโลกันต์ตกนรกหมกไหม้ฉะนั้นเห็นครูบาอาจารย์มีฤทธิ์ เห็นครูบาอาจารย์แสดงอภินิหารก็ให้ขอดูพระเทวทัตกับพระเจ้าอชาตศัตรูไว้เป็นตัวอย่าง
 
 
ยุคล
: ฉะนั้นกรณีของพระธัมมชโย คุณสนธิญาณได้เล่ามาแบบนี้  ฉะนั้นเดี๋ยวช่วงหน้าก็ต้องหาข้อสรุปการซักหน่อย ด้วยหลักกฎแห่งกรรมหรือประเมินสถานการณ์กันสักหน่อยว่า เส้นทางต่อจากนี้การบังคับใช้กฎหมายการเผชิญหน้ากัน ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับพระและลูกศิษย์วัดพระธรรมกายจะเป็นอย่างไรต่อไป ช่วงนี้เราพักกันก่อนสักครู่เดียวครับ
 
 

 

ยุคล : กลับเข้ามายังเบรกสุดท้ายยุคลถามตรงสนธิญาณฟันธงตอบ เราจะกลับไปที่ประวัติของพระธัมมชโยกันอีกสักครั้งหนึ่ง หลังจากที่คุณสนธิญาณได้ไล่เรียงตั้งแต่พระธัมมชโยนั้นเริ่มศึกษาสนใจธรรมะที่วัดปากน้ำตั้งแต่อายุ 19 ปี และบวชเข้ามาแล้วตัดสินใจที่จะสร้างวัดขึ้นมา ซึ่งในปัจจุบันก็คือวัดพระธรรมกายนับตั้งแต่ที่คิดว่าจะสร้าง และสร้างวัดพระธรรมกายมาจนถึงปัจจุบันนี้ มีที่มาที่ไปและนัยยะสำคัญอะไรบ้างเชิญต่อเลยครับ คุณสนธิญาณ
 
สนธิญาณ : ก็หลังจากที่ปฏิบัติธรรมสอนธรรมะด้วยสติปัญญาและฤทธิ์บางอย่างที่ติดมาจากของเดิม ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเกิดความศรัทธาเมื่อเกิดความศรัทธาก็คิดที่จะขยับขยายมาสร้างวัดก็เริ่มก่อตั้งที่คลองสามเมื่อปี พ.ศ. 2513 พระธัมมชโยบวชในปี พ.ศ. 2512 เห็นไหมครับอย่างที่บอกว่าด้วยสติปัญญาด้วยฤทธิ์ที่มีด้วยสิ่งที่ลูกศิษย์สัมผัส สอนธรรมะได้
 
 
ยุคล : ไม่เคยมีมาก่อนนะครับ พระที่บวชปีเดียวแล้วคิดจะสร้างวัด
 
สนธิญาณ : บอกแล้วว่าท่านมีของเก่า ก็มาสร้างวัด แต่ตอนสร้างวัดก็มีประเด็นเพราะวัดที่เริ่มสร้างมีอาจารย์วรณี สุนทรเวช เป็นผู้ถวายที่ดิน อาจารย์วรณีเป็นลูกศิษย์ของพระที่มีชื่อเสียงในอดีตนั้นก็คือ “หลวงปู่ฤาษีลิงดํา” วัดธรรมกายเมื่อตั้งขึ้นตอนแรกชื่อว่า “สวนพุทธจักรปฏิบัติธรรม” ต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดวรณีธรรมกายาราม” ให้เกียรติกับอาจารย์วรณีซึ่งเป็นผู้ถวายที่ดิน สร้างวัดในตอนต้น ต่อมาถึงมาเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดพระธรรมกาย” หลังจากนั้นตอนจะก่อสร้างได้สร้างวัดซึ่งมีเหตุการณ์อาจารย์วรณีเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ฤาษีลิงดำ ก็ไปนิมนต์หลวงปู่ฤาษีลิงดำมาเพื่อที่จะเตรียมการสร้างวัดขึ้นมา มีการวางศิลาฤกษ์ ปรากฏว่าเมื่อนิมนต์หลวงปู่ฤาษีลิงดำมาแล้วได้เกิดการขัดขวาง มีการแสดงการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ไม่มีสถานะของความเป็นพระสำหรับผู้ที่เตรียมการในการจัดสร้างวัด ผมต้องเรียนก่อนว่าหลวงปู่ฤาษีลิงดํา อาจารย์ทั้งหลายทุกคนก็ล้วนพูดว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ซึ่งมีความโดดเด่นมากก็คือการสอนธรรมะเพื่อการหลุดพ้น ผมเรียนท่านผู้ชมที่สนใจพระพุทธศาสนาไปหาฟังในยูทูป ท่านได้สอนให้เป็นบท ท่านที่ปฏิบัติธรรมแล้วไม่เข้าใจจุดไหนตั้งจิตอธิษฐานแล้วก็ค้นหา สิ่งที่ท่านจะเจอ จะเจอกับคำสอนที่ตรงกับข้อกังขาหรือข้อสงสัยของท่าน ซึ่งหลวงปู่ฤาษีลิงดำก็มาในวันนั้นเพราะอาจารย์วรณีนิมนต์มา ปรากฏว่าถูกกีดกัน อีกทั้งยังมีเสียงที่พูดถึงคณะพระที่จัดการในวันนั้น ท่านใช้ศัพท์ค่อนข้างจะรุนแรงมาก ใช้คำว่าจัญไร ผมคิดว่าไปฟังเสียงของท่านเองแล้วกัน ชัดเจนครับในการที่ท่านเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นเพราะว่า หลังจากที่ท่านมาก็มีการจัดการไม่ต้องการให้ท่านทำอะไร เรียกว่าใช้กระบวนการต่างๆกีดกัน นี่เป็นการก่อกำเนิดวัดพระธรรมกาย จากวันนั้นจนถึงวันนี้วัดพระธรรมกาย มี 27 อาคาร เงินก่อสร้างนับเป็นแสนล้านบาท จำนวนเงินทั้งหลายมาจากความศรัทธาต่อพระธัมมชโย ซึ่งลูกศิษย์เชื่อว่ามีฤทธิ์ และจะนำพาพวกเขาไปสู่สวรรค์ชั้นดุสิต คนที่วัดพระธรรมกายเวลาสวดมนต์ไหว้พระเสร็จ ก็จะพูดว่าเราจะมุ่งหน้าสู่ดุสิตธานี ความหมายของคำว่าดุสิตธานี คือ สวรรค์ชั้นดุสิต ชั้นที่ 4 เป็นสวรรค์ที่พระโพธิสัตว์ซึ่งจะอุบัติมาเป็นพระพุทธเจ้าจะต้องไปเกิด เป็นมหาเทวะ อยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิตก่อน คนที่อธิษฐานว่าจะไปอยู่สวรรค์ชั้นดุสิตจะไปปฏิบัติธรรม และเพื่อที่จะอยู่คนรายล้อมกับพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งองค์ใดลงมาอุบัติ บรรดาลูกศิษย์ที่เตรียมรายล้อมอยู่ก็จะได้มาเกิดจะได้บรรลุธรรมนี้คือความหมายที่เวลาวัดพระธรรมกายเขาสวนกัน ดังนั้นสิ่งที่เขาพูดจึงว่าสร้างบารมี สร้างเงินสร้างทองเอามาทำบุญ แต่เขาจะพูดแบบนี้ซึ่งในความเป็นจริงการปฏิบัติธรรมในกฎแห่งกรรมทำสิ่งใดได้สิ่งนั้น สร้างธรรมไปเยอะสร้างทานเยอะไม่ต้องเกี่ยวกับว่าทำกับพระธัมมชโยหรือทำกับใครแต่ความหมายที่บอกว่า รวย รวย รวย เกิดกระบวนการที่คนทำทานเห็นผลขึ้นมาก็ปรากฏว่ายิ่งหลงใหลต่อพระธัมมชโยเมื่อคืนแต่ท้ายที่สุด ความหลงใหลทั้งหลาย กิเลสของผู้ที่ยังไม่บรรลุธรรมพระธัมมชโยไม่ใช่ผู้ที่บรรลุธรรม เพราะอยู่ในกระแสที่ตั้งใจจะอุทิศตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า คือ จะเป็นได้ไม่ได้นั่นก็เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องที่ผมเกินที่จะรู้ แต่ด้วยเหตุนี้กฎแห่งกรรมจำได้ไหมครับจะมีกรรมตัดรอนเมื่อปี พ.ศ. 2541 พระลูกวัดของวัดธรรมกายเองชื่อพระอดิศักดิ์ วิริยะสักโก ได้กล่าวหาพระธัมมชโยว่ายักยอกเงินและที่ดินของวัด กลายเป็นคดีความ
 
 
ยุคล : เป็นจุดเปลี่ยนใน พ.ศ. 2542
 
สนธิญาณ : เป็นจุดเปลี่ยนอันสำคัญปรากฏว่าเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการของกฎหมายรวมคดีความทั้งสิ้น 5 คดีปรากฏว่าเดินมาในกระบวนการขั้นตอนอยู่ที่ทำมา 7 ปีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2542 มาถึง พ.ศ. 2547 เหลือการสืบพยานจำเลยอีก 2 นัดในวันที่ 23-24 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ในวันที่ 21 อัยการสั่งถอนคดีเพราะทักษิณสั่งให้ถอนสถานการณ์การเมืองขณะนั้นกำลังคุกรุ่น พันธมิตรในขณะนั้นกำลังทิ่มแทงรัฐบาลทักษิณ หลังจากนั้นจึงได้เห็นว่าบรรดาศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกายเป็นมาชุมนุมที่ท้องสนามหลวง สนับสนุนรัฐบาลทักษิณ และนั่นคือสิ่งที่ก่อเหตุทำให้เกิดความสัมพันธ์ กันอย่างลึกซึ้งระหว่างวัดพระธรรมกายกับระบบทักษิณ มาถึงตอนนี้ สิ่งที่เราได้เห็นตลอดมาก็คือการที่วัดพระธรรมกาย สนับสนุนกิจกรรมของคนเสื้อแดงหรือกิจกรรมใดใด ในการไม่ว่าจะการมาอบรมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทั่วไปขัดขวางการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยเจ้าหน้าที่ป่าไม้อ้างว่าเข้ามาในวัดธรรมกาย อ้างว่ามาฝึกธรรมะ แต่ปรากฏว่าเคลื่อนกำลัง ไปในตอนกลางคืนไปที่สวนสัตว์ดุสิต หน้ารัฐสภาอย่างนี้เป็นต้น เกิดคดีความกฎหมายของพระธัมมชโยขึ้น กรณียักยอกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ถูกคดีพร้อมเงินในเที่ยวนี้แน่นอนครับ พระธัมมชโยไม่ยอมรับประกาศจะตายคาผ้าเหลืองโดยการขัดขืนหมายศาลที่ออกมาในการจับกุม จึงกลายเป็นเหตุที่กำลังรุนแรงกันอยู่ในขณะนี้ ในแง่ของผมเรียนย้ำว่าท้ายที่สุด ผู้ที่เดินตามเส้นทางพระพุทธศาสนา ต้องมีสัมมาทิฏฐิ ต้องเชื่อกฎแห่งกรรม แม้เราจะถูกกลั่นแกล้งต้องเชื่อว่าเพราะเราเคยแกล้งคนอื่นมาก่อน ผมไม่สามารถเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับพระธัมมชโยได้หรอกครับเพราะว่าเป็นคนกระจอกๆ ต้องเรียนรู้อีกมาก เพราะไปเคลื่อนไหวทางการเมือง ผมเคลื่อนไหวเพราะผมคิดด้วยจิตบริสุทธิ์ว่า ช่วยเหลือประเทศชาติ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำให้ประเทศชาติเสียหาย หากกฎหมายนิรโทษกรรมผ่านบ้านเมืองวิบัติ แม้วันนี้ผมโดนจับผมอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ผมไม่เคยออกมาเรียกร้องให้ตัวเองเป็นวีรบุรุษ ไม่เคยออกมาตีโพยตีพายว่าไม่ได้รับความยุติธรรม ทั้งๆที่ผมถูกกลั่นแกล้งแน่นอน และครูบาอาจารย์ผมก็บอกว่าเพราะในชาติก่อนผมทำอะไรไว้ ผมยอมรับในสิ่งนั้นสิ่งที่กำลังทำ ภายใต้กฎแห่งกรรมที่ผมจะสรุปให้ฟัง ครุกรรมเป็นกรรมหนัก หมายถึงกรรมที่จะให้ผลตามกาล ที่กรรมที่ให้ผลในชาตินี้ มันสัมพันธ์กัน สมมุติว่าคุณยุคลเกิดมาจะตายตอนอายุ 80 ปี ไปชอบหลงไหลในอาชีพฆ่าสัตว์รับจ้างตีหัวหัววัวแทงคอวัว อายุสั้นร่นระยะเวลาลงทันที เพราะคุณยุคลทำกรรมหนัก กรรมจะส่งผลในชาตินี้เลย และกรรมในชาตินี้ทำท่าจะดีจะอายุยืน แต่ต้องมาตายกลางคัน กรรมนี้ อุปฆาตกรรม สิ่งที่พระธัมมชโยทำสิ่งที่ ศิษย์ยานุศิษย์ห่มเหลืองทำอยู่ในวัดพระธรรมกายวันนี้ เป็นความเดือดร้อนในสังคม หากท่านยอมเข้าใจในกฎแห่งกรรมและทำทุกอย่างอยู่ในใจท่าน คือธรรมที่เราเรียกว่า พรหมวิหาร 4 ซึ่งเป็นธรรมที่เหนือจากธรรมดา คือ จิตใจที่เราอ่อนน้อมความอ่อนโยน ปรากฏภาพทั้งหลายจะไม่เกิดขึ้นในสังคม ท่านคิดว่ายอมตายเพื่อครูบาอาจารย์ดูเหมือนว่าจะเป็นการทำดีเพื่อทดทนคุณของครูบาอาจารย์ แท้ที่จริงแล้วตรงไปพิจารณาว่าในเส้นทางที่จะเดิน จะเหมือนกับพระเทวทัตและพระเจ้าอชาตศัตรูหรือไม่ หากผมพูดผิดแน่นอนครับไม่ต้องมีใครพิพากษากฎแห่งกรรมจะพิพากษาผมเอง
 
 
ยุคล : ชัดเจนครับปิดท้ายท่านผู้ชมครับไม่ว่าสถานการณ์ต่อจากนี้จะเดินอย่างไรอนาคตของพระธัมมชโยจะเป็นอย่างไรหรือแม้กระทั่งคุณสนธิญาณเองที่พูดปิดท้ายเมื่อสักครู่
 
สนธิญาณ : หรือแม้กระทั่งคนยกคนเอง หรือแม้กระทั่งทีมงานสำนักข่าวทีนิวส์เอง ก็ตามแต่มันเป็นไปตามกฎแห่งกรรมทั้งสิ้น
 
 
ยุคล : ขอบคุณที่ชมครับหมดเวลาลงแล้วสำหรับรายการยุคลถามตรงสนธิญาณฟันธงตอบ วันนี้ต้องขอขอบคุณคุณสนธิญาณอย่างสูงเลยนะครับ ที่มาให้ความรู้เรื่องกฎแห่งกรรม ไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องพระธัมมชโยเท่านั้น แต่สำหรับพวกเราทุกคนด้วย ขอบคุณมากครับ ลาคุณผู้ชมเพียงเท่านี้พบกันใหม่สัปดาห์หน้าสวัสดีครับ