"สนธิญาณ" ย้ำ!! ศึก"ธรรมกาย" ใกล้ปิดฉาก เพราะฝ่ายรัฐฯ ต้องเดินหน้าบังคับใช้กม. ฝาก"พระธัมมชโย-ลูกศิษย์"ยิ่งยื้อยิ่งเป็นเครื่องมือทางการเมือง

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 2 มีนาคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

                สนธิญาณ : ก็ดังที่ผมได้เรียนเอาไว้นะครับว่า เวลานี้เนี่ยนะนับถอยหลังเรื่องของวัดพระธรรมกายเอาไว้ได้เลยนะครับ เพราะในความเป็นจริงการจัดประชุมขึ้นของบุคคลสำคัญ 8 คน รวมทั้งท่านนายกรัฐมนตรีเมื่อเย็นวันอังคารที่ผ่านมาเนี่ย ต้องเรียนย้ำนะครับว่า วันนั้นมีการประชุมกัน 2 ช่วงนะ คุณยุคล ตอนเช้าเนี่ย คสช.ประชุมนะครับ และก็พลโทอภิรัช คงสมพง ท่านแม่ทัพภาคที่ 1 ก็เข้าไปในที่ประชุม คสช. ด้วย แต่ตอนเย็นนะครับต้องใช้คำว่าประชุมหัวหน้าหน่วยผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายทั้งหมด หัวหน้าหน่วยที่ว่าประกอบไปด้วย หนึ่งรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงและรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งก็คือรับผิดชอบโดยตรงอยู่ นายกเรียกประชุมเอง ไม่ใช่หมายความว่าท่านรองนายกสั่งการไมได้หรอก แต่ชัดเจนว่าต้องการให้ความสำคัญกับการปฏิบัติการด้วยตัวเองด้วย สองรัฐมนตรีว่าการ  กระทรวงมหาดไทย แน่นอนครับดูแลสายปกครอง และผมย้ำนะ กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดูแลกิจการของมูลนิธิต่างๆนะครับ สามกระทรวงยุติธรรม ดูแล DSI ลงสู่ภาคปฏิบัติครับ ก็คืออธิบดี DSI ผู้อำนวยการสำนักพุทธนะครับ ชัดเจน สัญญาณนี้เป็นอย่างอื่นไม่ได้หรอกครับ ต้องเดินหน้า แต่เดินหน้าเนี่ยผมจะแยกแยะให้เข้าใจก่อนว่า ความหมายที่จะปิดจ๊อบธรรมกายหรือจะดำเนินการเนี่ยนะครับ อย่าได้สับสน คือเรื่องแรกเนี่ยนะ คุณทำให้เกิดปัญหาทั้งสิ้นทั้งปวง ก็คือการจับกุมพระธัมมชโย ตามหมายจับของศาลนะครับ พระธัมมชโยไม่มอบตัว ไม่ยอมให้จับกุมขัดขวาง เข้าไปจับในวัดไม่ได้ ออกหมายค้นมาแล้วครั้งสองครั้ง จึงต้องใช้มาตรา 44 จากนั้นมาตรา 44 ภายใต้ความผิด 300 กว่าคดี นั่นหมายความว่าเรื่องวัดพระธรรมกายมันเลยเถิดจากการเข้าจับพระธัมมชโยในข้อหาฟอกเงินและรับของโจร กลายเป็นความผิดเกี่ยวข้องนะครับเรื่องอาคารสถานที่ การขออนุญาต ไม่ขออนุญาต มากมายมหาศาล นะครับ ความผิดที่เพิ่มมากขึ้นนะครับ จึงนำไปสู่การใช้มาตรา 44 ดังนั้นในวันนี้ความคาดหวังของประชาชน คาดหวังอะไรกัน ว่าปิดจ๊อบธรรมกายคืออะไร คือการบุกเข้าไปให้ได้อย่างนั้นเหรอ หรือการจับพระธัมมชโย ไม่ใช่หรอกครับ แท้จริงเนี่ยนะครับในการที่จะปิดจ๊อบวัดพระธรรมกาย หมายถึงว่าให้เรื่องราวมันยุติลงเนี่ยก็คือสามารถที่จะดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกาย 313 คดีไหมฮะตอนนี้ นั่นก็คือการที่จะต้องดำเนินคดีที่ 313 คดี กระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอนต้องดำเนินไปได้ นั่นหมายความว่าอย่างนั้น เป็นการบังคับใช้กฎหมายด้วยกระบวนการยุติธรรมขั้นต้นเดินไปได้ แต่ตัวอาคารสถานที่นะครับของวัดพระธรรมกายและมูลนิธิเนี่ยเป็นปัจจัยเหตุอันนึงนะครับ ซึ่งพระและบรรดาศิษยานุศิษย์ออกมาขัดขวางไว้ครับ จึงไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ความหมาย ณ วันนี้เนี่ยนะครับมันจะเดินไป เพราะฉะนั้นใจเย็น อย่าเอาแต่สะใจ นะครับ เที่ยวนี้เนี่ยนะครับ มันจะต้องสะสาง ถึงขั้นเรียกว่าสังคายนาพระพุทธศาสนาในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ครับ ทางโลกดำเนินการไป มหาเถรสมาคมก็จะต้องดำเนินการอย่างแน่นอน เราเห็นได้อย่างชัดเจนครับ เห็นอะไรนะครับ ความเปลี่ยนแปลงของการออกแก้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ทำให้สถาปนาสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่นะครับ การใช้มาตรา 44 เปลี่ยนผู้อำนวยการสำนักพุทธนะครับ นั่นคือสัญญาณที่เห็นมาตั้งแต่ต้น ว่าแนวรบทุกแนวต้องเดินนะครับ พระสงฆ์และศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายยื้อไปผมเรียนนะครับ ก็เป็นเครื่องมือของพวกทางการเมือง จะปกป้องหลวงพ่อผู้มีพระคุณของท่านซึ่งต้องทำความเข้าใจว่าเป็นเรื่องของความหลงโดยแท้ ความมุ่งหมายเนี่ยนะครับ ผมจะเรียนต่อดังท่านผู้ชมทุกท่าน พระธัมมชโยนะครับไม่ได้ผิดเพราะโลภ เพราะอยากได้เงินมาใส่ย่ามเพื่อความร่ำรวย ไม่ใช่ พระธัมมชโยเนี่ยนะครับอยู่ด้วยความรวย เพราะฉะนั้นผมเรียนนะครับ ให้ฟังว่าปฏิบัติธรรม 4 ปีในฐานะนักศึกษา ผู้คนก็เข้าห้อมล้อม ยกย่องให้เป็นครูบาอาจารย์ เรียนจบปั๊บ บวช สามารถสร้างวัดได้เลย ความศรัทธาที่มาจากฤทธิ์นะครับมันทำให้เกิดความหลง ความหลงในวันนี้คือหลงอะไร หลงว่าจะเป็นผู้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ยิ่งใหญ่ไปทั่วโลก และการทำนุบำรุงนั้นเน้นในการที่จะหาปัจจัยเหมือนที่คุณยุคลเปิดคลิปของคุณอนันต์เนี่ย ชักชวนคนเอาเงินมาทำบุญในการที่จะขยายพระพุทธศาสนาให้กว้างออกไปทั่วโลก ให้มากที่สุด ให้มีศาสนสถานอันยิ่งใหญ่ ใหญ่โต ลูกศิษย์ลูกหาภาคภูมิใจ เป็นเหมือนเมกกะ มีคนมาทำบุญเป็นแสนเป็นล้าน ไม่เข้ามาวัดจะเห็นหรือว่าจะเกิดความภาคภูมิใจอะไรในการก่อสร้าง ผมก็เรียนต่อนะครับว่า พระพุทธศาสนาไม่สามารถดำรงคงอยู่ได้ด้วยศาสนสถาน มีปัจจัย 2 เรื่องที่ผมอยากจะเรียนท่านผู้ชมนะครับ เมื่อพระพุทธองค์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศาสดาของเรา จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ท่านนะครับเรียกพระอานนท์เข้ามา และก็บอกกับพระอานนท์ว่าเมื่อพระองค์ท่านปรินิพพานแล้วนะครับ ให้พระธรรมและพระวินัยเป็นศาสดาของพระพุทธศาสนา โดยมีพุทธบริษัท 4 และอย่างไรก็ตามแต่จะเกิดมามีพระธัมมชโย จะเผยแพร่พระพุทธศาสนากว้างขวางใหญ่โตเพียงใดก็ตามแต่เนี่ยนะครับ พระพุทธศาสนาก็จะต้องสิ้นสุดลงในระยะเวลา 5000 ปี ตามพุทธพยากรณ์ ความตั้งใจอันดีในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาเป็นความตั้งใจที่ดีนะครับ แต่ความตั้งใจดีและก็ติดยึดในความดีในสิ่งที่ตัวเองทำ เพราะเมื่อดูบทเรียนอันสำคัญประเด็นหนึ่ง คุณยุคล เมื่อประมาณปี พ.ศ.1147 นะครับ ได้เกิดมหาวิทยาลัยทางพระพุทธศาสนาที่ใหญ่ขึ้นมาชื่อมหาวิทยาลัยนาลันทา อยู่ที่ประเทศอินเดียนะครับในแคว้นมคธ ความยิ่งใหญ่นะครับของนาลันทานะครับในยุคสมัยนั้นนะครับผมเรียนเมื่อ 1400 ปีก่อน ย้ำนะ 1400 ปีก่อน นักศึกษาพระพุทธศาสนาจากทั่วโลก ต่างหลั่งไหลไปเรียนที่มหาวิทยาลัยนาลันทา ด้วยความยิ่งใหญ่ เป็นศูนย์กลาง มีนักศึกษาในยุคนั้นเนี่ยนะครับ ประมาณหมื่นกว่าคน มีอาจารย์เป็นพัน ได้ยินชื่อพระถังซัมจั๋งไหม ผมจะเรียกชื่อถูกไม่ถูก ภาษาอาจจะอ่านออกยาก เวลาเรามาดูละครมีเห้งเจีย ตือโป๊ยก่าย นึกออกไหมฮะ นั่นมีจริงนะครับ นั่นเดินทางไปเรียน ไอ้เห้งเจีย ตือโป๊ยก่ายจะมีจริงไม่มีจริงอะ แต่ในประวัติศาสตร์ พระถังซัมจั๋งนี่เดินทางไปเรียนที่นาลันทา ปรากฎว่าในปี พ.ศ.1742 อีก 600 ปีถัดมา มุสลิมเกิดปฏิบัติการนะครับ ยึดประเทศอินเดียนะครับ มหาวิทยาลัยนาลันทาเป็นส่วนหนึ่งที่มุสลิมเปิดทำลาย ศูนย์กลางในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา องค์ความรู้ ถูกเผา พระพุทธศาสนาก็ยังยั่งยืนมาได้จนถึงทุกวันนี้ ผมหยิบยกเรื่องนี้มาพูดไม่ได้อะไร เฮ้ยเราต้องรังเกียจพี่น้องอิสลามนะ เพราะผมจะพูดว่าประเด็นที่วัดพระธรรมกายพยายามที่จะขยายเรื่องอิสลามกับพุทธเนี่ย โดยข้ออ้างบอกว่าเพื่อจะรักษาพระพุทธศาสนาไว้เป็นเรื่องเหลวไหล เป็นเรื่องความหลง เป็นเรื่องที่จะทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติบ้านเมืองและมนุษยชาติ ย้ำนะฮะ มนุษยชาติ ศาสนาพุทธไม่มีการสร้างความเกลียดชัง มีแต่ความเมตตากรุณา มุทิตา อุเบกขา พรหมวิหาร 4 เป็นธรรมที่เลือกปฏิบัติ ทำตามคำสอนพระพุทธศาสนาแล้ว จึงหยั่งลงในใจของบุคคลนั้น อันนี้เป็นข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้นความพยายามบิดเบือนถึงขนาดพลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีออกมาพูดด้วยตัวเอง ชัดเจนนะ พูดว่าการแก้พระราชบัญญัติสงฆ์ มี สนช. นะครับที่เป็นมุสลิม คุณสมชาย ในฐานะเลขาวิปก็ออกมาแจกแจงแล้ว เลขาธิการวุฒิสภาซึ่งเป็นเลขาธิการของ สนช. ก็ออกมาแจกแจงตอบความจริง ความหลงอันนี้ล่ะครับ จึงทำให้เกิดปัญหา เป็นปัจจัยแห่งเหตุ เป็นความเสียหายของประเทศชาติ บ้านเมืองที่เป็นอยู่ ขออาราธนาเถอะครับ มอบตัวเสีย และสงฆ์ทั้งหลายเนี่ยนะครับ ก็พิจารณาตัวเองว่ายังมีสถานะของความเป็นสงฆ์อยู่หรือไม่