"สนธิญาณ" ชี้! แจงละเอียดยิบพฤติกรรมทักษิณกับจาบจ้วงสถาบันฯกับคำถามที่ไม่มีคำตอบไปยุ่งกับพวกล้มเจ้าทำไม?

ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ www.tnews.co.th

ยุคล : สวัสดีครับต้อนกลับคุณผู้ชม เข้ามาในช่วงเวลาของรายการยุคลถามตรงสนธิญาณฟันธงตอบ ผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์ที่เรามาพบเจอกับคุณผู้ชม จากสัปดาห์ที่แล้วถือว่าถามไถ่กันเข้ามาเยอะเหลือเกินว่า ภายหลังจากที่นายทักษิณ ชินวัตรได้มอบหมายให้ทนายความไปแจ้งความดำเนินคดีกับผม ยุคล วิเศษสังข์ และคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม จากการนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายของขบวนการโกตี๋ เครือข่ายของกระบวนการการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าจะเดินต่อไปไม่ได้ถ้ามีนายทักษิณ ปรากฏว่าหลังจากที่เราได้นำเสนอเนื้อหารายการเพิ่มเติมออกไป นายทักษิณเองก็ไม่หยุด ล่าสุดได้มอบหมายให้กับทางทนายความไปด้วยความดำเนินคดีกับสำนักข่าวทีนิวส์เพิ่มเติม และรวมไปถึงเปลวสีเงิน และเฟซบุ๊กที่ชื่อว่าปราชญ์สามสี เพราะฉะนั้นทั้งหมดนี้เราก็คงจะได้มาอัพเดทสถานการณ์กันต่อกับคุณสนธิญาณ วันนี้จะอยู่สถานการณ์นี้กับหัวข้อ “ผิดมาตรา 112 5 ปีสูงขึ้น 1500 เท่า ทำไม! ใคร ?” ทำไมคุณสนธิญาณถึงยกเอาหัวข้อนี้มาเชื่อมโยงกันกับสถานการณ์ของคุณสนธิญาณเอง ของผม ของสำนักข่าวทีนิวส์ และนายทักษิณ ก่อนอื่นไปทักทายกับคุณสนธิญาณกันก่อนนะครับ สวัสดีครับคุณสนธิญาณครับ
 
สนธิญาณ : สวัสดีครับคุณยุคลครับ สวัสดีครับท่านผู้ชม สปริงนิวส์ และแฟนข่าวทีนิวส์ทุกท่าน
 
ยุคล : เป็นอย่างไรบ้างครับ คุณทักษิณตอนนี้ก็แจ้งความดำเนินคดีกับสำนักข่าวทีนิวส์เพิ่มเติมในข้อหาเดียวกันกับคุณสนธิญาณและผมที่โดนไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
 
สนธิญาณ : ครับก็มีความจำเป็นที่เราจะต้องทำข้อมูลมาแจกแจงกันให้ชัด ปกติผมจะไม่ค่อยชี้แจงไม่ค่อยตอบโต้ แต่กรณีคุณทักษิณผมก็เขียนเฟซบุ๊กส่วนตัวผม ซึ่งปกติผมจะเขียนแต่เรื่องธรรมะ หรือเอาเรื่องธรรมะมาเผยแพร่ คิดว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนในเฟซบุ๊กของผมมากกว่าเรื่องการเมืองซึ่งมีเรื่องบวกลบได้เสีย แต่กรณีของคุณทักษิณผมก็บอกว่า อย่าได้ห่วงเลยคุณทักษิณ ที่เรียนว่าอย่าได้ห่วงใครทำอะไรไว้ เราต่างรู้แก่ใจของตัวเองไม่จำเป็นจะต้องมีตำรวจ อัยการ ทนายความ ศาล ในการจะมาตัดสินพิพากษาในสิ่งที่เราทำ เพราะระบบกรรมนั้นจะตัดสินเราด้วยความยุติธรรมตามความจริงที่เราทำไว้ ว่ากันแบบนี้ให้ชัด แต่เดี๋ยวจะหาว่าผมมโนหรือว่าไปจิกเอาเรื่องของกรรมซึ่งภาษาของผู้คนโดยทั่วไปเหมือนจะเป็นเรื่องอนามธรรม แต่ความจริงเป็นรูปธรรมและเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม ถ้าเรามาดูความเป็นจริงท่านผู้ชมทั้งหลายก็ลองไปหาข้อมูลในสารานุกรมออนไลน์ ภาษาอังกฤษเรียกว่าวิกิพีเดีย ไปค้นหาข้อมูลเรื่องการกระทำความผิดมาตรา 112 เขาจะบอกว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 ถึง พ.ศ. 2548 ระบบศาลไทย มีคดีความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยเพียง 4 หรือ 5 คดีต่อปี ทว่าระหว่างเดือนมกราคม พ.ศ. 2549 ถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2554 มีการพิจารณากว่า 400 คดีหรือประเมินว่าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1,500 ก็คือ 1,500 เท่านั่นเองเพราะฉะนั้นข้อมูลนี้สนธิญาณไม่ได้หยิบยกขึ้นมาเองไปค้นหาด้วยตัวเองได้ครับ เพิ่มสูงขึ้น
 
ยุคล : ตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นบ่งบอกอะไรครับ
 
สนธิญาณ : บอกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวพันกับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย แล้วเกี่ยวพันกับใครล่ะครับ ทำไมถึงมาเกี่ยวพันและทำไมยอดคดีความผิดตามมาตรา 112 พุ่งสูงขึ้นถึง 1,500 เท่า แล้วทำไมเกี่ยวข้องไหมกับสหพันธรัฐไทยในปัจจุบันที่โกตี๋นำเสนออยู่ เราต้องเริ่มต้นอย่างนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ได้มีการชุมนุมของคนเสื้อแดงในฐานะคนเสื้อแดงอย่างเป็นทางการขึ้นเป็นครั้งแรก
 
ยุคล : พอจะคุ้นแล้วนะครับว่าจัดในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ยิ่งใหญ่มาก
 
สนธิญาณ : เสื้อแดงเต็มอัฒจันทร์หมด นี่คือปฐมเหตุ ปฐมเหตุอันนี้มีความเกี่ยวพันกับคุณทักษิณหรือไม่ ต้องฟังเสียงคุณทักษิณเองซึ่งขณะนั้นนี้อยู่ต่างประเทศและส่งเสียงมายังผู้ชุมนุม
 
ยุคล : เราไปฟังกันดูนะครับ
 
(คลิปเสียงทักษิณ ชินวัตร)
 
ยุคล : นี่ล่ะครับเสียงของคุณทักษิณ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 คุณสนธิญาณต้องการสื่อสารอะไรประโยคคำพูดของคุณทักษิณ
 
สนธิญาณ : คุณทักษิณอยากกลับประเทศไทย นี่คือเหตุปัจจัยทั้งหลายที่นำพาไปสู่การเมืองวุ่นวายเกิดความแตกแยก คุณทักษิณบอกว่าไม่มีใครเอาผมกลับประเทศไทยได้หรอก ผมทวนเสียงเขานะครับ นอกจากพระบารมีที่จะทรงมีพระเมตตาหรือไม่ก็พลังของพี่น้องประชาชน เขาพูดอยู่กับม็อบพูดกับมวลชนคนเสื้อแดงเรื่องนี้จะมีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องที่ต่อเนื่องหรือไม่ หลังจากนั้นก่อนจะมีการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในกรุงเทพฯ พ.ศ. 2552
 
ยุคล : นึกภาพตามนะครับชุมนุมใหญ่ปี พ.ศ. 2552 ในเดือนเมษายน
 
สนธิญาณ : 7-8 ปีที่ผ่านมาครับ แต่ผมต้องทบทวนให้ฟังหลายเรื่องท่านอาจจะไม่เคยรู้ไม่เคยได้ยินมาก่อนวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2552 ก่อนหน้าที่จะชุมนุมคุณทักษิณได้ให้สัมภาษณ์กับเจแปนไทมส์ของญี่ปุ่นว่า เขาได้ขอพระราชทานอภัยโทษต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 แล้วมีถ้อยคำนะครับ
 
ยุคล : บอกว่าได้ส่งจดหมายฎีกาไปถึงพระองค์แล้ว 3 ฉบับเพราะเชื่อในพระมหากรุณาธิคุณและพระราชวินิจฉัยในพระองค์หากได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้ว ผมรู้ว่ากลุ่มผู้สนับสนุนผมจะต้องดีใจและจะไม่ต้องต่อสู้ รวมทั้งไม่ต้องมีการพิสูจน์สิ่งใดอีกขึ้นอยู่กับพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
 
สนธิญาณ : ท่านผู้ชมครับ คุณทักษิณครับ ต้องแปลอีกไหม คุณบอกว่าคุณส่งไป 3 ฉบับคุณเชื่อในพระมหากรุณาธิคุณและพระราชวินิจฉัย คุณเชื่อว่าพระมหากรุณาธิคุณและพระราชวินิจฉัยจะเป็นประโยชน์กับคุณใช่ไหมครับ เพราะคุณบอกว่าหากได้รับพระราชทานพระอภัยโทษแล้ว คุณรู้ว่าผู้สนับสนุนจะต้องดีใจและไม่ต้องต่อสู้รวมทั้งไม่ต้องมีการพิสูจน์ใดๆอีก แล้วต่อสู้กับใครครับ จะต่อสู้อะไร คุณขู่ใคร คำสัมภาษณ์นี้
 
ยุคล : ฟังแล้วรู้สึกได้เลยนะครับ
 
สนธิญาณ : จากนั้นเป็นยังไง พูดอยู่เสมอหลังจากที่เขาได้เริ่มกระบวนการส่งหนังสือถวายฎีกาขอพระราชทานพระอภัยโทษไป 3 ครั้งแล้วก็ต้องกลับมาสู่สิ่งที่ผมเคยเรียนท่านผู้ชมมาเสมอนั่นก็คือ พฤษภาโมเดล คือจะต้องทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นแรงขึ้นให้เห็นว่ามีความแตกแยกมีความเสียหายเพื่อคาดหวังให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ลงมาคลี่คลายสถานการณ์
 
ยุคล : เอาให้เหมือนกับพฤษภาโมเดล เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
 
สนธิญาณ : ถูกต้อง เมื่อคราวปี พ.ศ. 2535 ปรากฏว่าปี พ.ศ. 2552 สงกรานต์ในกรุงเทพฯทุกท่านก็นึกภาพได้ สำหรับคนที่อยู่ในเหตุการณ์ คนที่อยู่ต่างจังหวัดก็เห็นภาพข่าวสารที่กระจายออกไปเกิดวิกฤตเผา เอารถแก๊สมาที่ดินแดง เขาคาดหวังอะไร วันนั้นประกาศเลยว่าการชุมนุมทั้งหลายเพื่อให้คุณทักษิณกลับมา
 
ยุคล : วันที่ 13 เมษายน ตอนนั้นสถานการณ์กำลังร้อนรุ่มมาก คุณทักษิณตามรายงาน คุณสนธิญาณให้พักก่อนตอนนี้กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มเลยนะครับประโยคคำพูดของคุณทักษิณ
 
สนธิญาณ : ตอนจะเข้าด้ายเข้าเข็มต้องตามเบรคเราไปครับ
 
ยุคล : พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงวันนี้ใช้หลักฐานให้เห็นกันจะจะ ในพฤติกรรมของคุณทักษิณนะครับว่าเป็นไปตามที่สำนักข่าวทีนิวส์ของเราได้นำเสนอมาโดยตลอดหรือไม่ช่วงนี้พักกันก่อนสักครู่ครับ
 

 

ยุคล: ตามต่อกันในเบรคที่ 2 นะครับ ช่วงที่แล้วกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ที่ผมกำลังจะอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณทักษิณในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2552 ที่สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่แท้จริงของคุณทักษิณในการนำคนเสื้อแดงออกมาชุมนุม และมีการสื่อสารบางอย่างถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วย ซึ่งเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552 คุณทักษิณตอนนั้นอยู่ที่ดูไบและได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ชื่อว่าสกายนิวส์ของอังกฤษ บอกเลยนะครับว่าไม่มีใครสามารถทำให้ประเทศสงบสุขได้ในตอนนี้นอกจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมขอเรียกร้องให้พระองค์ท่านได้โปรดลงมาคลี่คลายสถานการณ์ เพราะว่าไม่เช่นนั้นแล้วกองทัพและรัฐบาลจะเข่นฆ่าประชาชนเพิ่มขึ้น ถึงตอนนี้พวกเขาปกปิดทุกอย่างหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นล้วนรายงานเรื่องโกหกทั้งสิ้น
 
สนธิญาณ : เอาล่ะครับคุณผู้ชม วันนี้จะจะกับหลักฐานมีหมด นี่เป็นคำให้สัมภาษณ์ของเขา คำให้สัมภาษณ์นี้เป็นคำให้สัมภาษณ์โกหกเพราะการชุมนุมในปี 52 ไม่มีคนตายครับ แต่มีคนตายเพราะมียิงกันที่นางเลิ้ง ผมยังไปร่วมงานศพในครั้งนั้นด้วย แต่ไม่ใช่มีการล้อมปราบแล้วก็ยิงแล้วเข่นฆ่าจากทหารหรือรัฐบาลเหมือนที่คุณทักษิณได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ เพื่อหวังจะถวายรายงานถึงพระองค์ท่าน มีการใช้คำว่า ผมขอเรียกร้องให้พระองค์ท่านโปรดลงมาคลี่คลายสถานการณ์เป็นแบบนั้น ก่อนที่กองทัพและรัฐบาลจะเห็นฆ่าประชาชนเพิ่มขึ้น แสดงว่าฆ่าไปแล้ว ตามความหมายที่คุณทักษิณพูด สถานการณ์รับกับสิ่งที่ผมเรียกว่าพฤษภาโมเดล ที่เขาเตรียมไว้ไหม ไม่สำเร็จ
 
ยุคล : ดูเหมือนว่าคุณทักษิณก็สร้างสถานการณ์ขึ้นมา คือพยายามปฏิบัติต่อจิ๊กซอให้เข้าล็อคตามที่คุณทักษิณต้องการ
 
สนธิญาณ : ตามพฤษภาคม พ.ศ. 2535 สกายนิวส์ เป็นสื่ออังกฤษ เขายังแสดงความคิดเห็นเลยว่าประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขพระองค์จะไม่ทรงตัดสินชี้ขาดเรื่องประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองมีเพียงปี พ.ศ. 2535 เท่านั้นที่พระองค์ทรงอบรมผู้นำกองทัพและผู้นำประท้วง นั่นคือพฤษภาโมเดลไหมครับ คือ สกายนิวส์ของอังกฤษเขายังรู้เลย ในสถานการณ์แบบนี้ประชาชนขัดแย้งแตกแยกกันเป็น 2 ฝ่าย จะให้พระองค์ท่านลงมาหรือยังไง เมื่อประชาชนทุกคนเป็นพสกนิกรของพระองค์ท่าน ไม่ได้จบแค่นั้นครับ ไม่ได้รุนแรงจริงครับ ไม่ได้มีการฆ่ากันจริง แต่ไม่หยุดพยายามจะลากสถานการณ์ของตัวเองให้เข้ามาพัวพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อไป ปรากฏว่าหลังจากนั้นถอยไปตั้งหลักกันบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงทั้งหลายไปหารายชื่อ เพื่อมาขอพระราชทานอภัยโทษ สร้างกระแสตลอดเวลาว่าตอนนี้เราสามารถที่จะล่ารายชื่อได้ 3.5 ล้านคนคนแสดงว่าทรัพย์คน 3,500,000 คน ต้องการให้มีการพระราชทานอภัยโทษให้ทักษิณ
 
ยุคล : เพื่อยื่นถวายฎีกาผ่านรายชื่อ โดยเอาจำนวนคน
 
สนธิญาณ : ถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ โดยเอาจำนวนคนและปริมาณคนจำนวนมาก มากล่าวอ้างเพื่อให้อะไรครับทั้งๆ ที่การขอพระราชทานอภัยโทษมีกรอบของกฎหมายกำหนดกฎเกณฑ์เอาไว้ชัด กฎเกณฑ์บอกไว้ว่าผู้ที่จะขอพระราชทานอภัยโทษได้ผู้นั้นต้องถูกรับโทษมาแล้วระยะเวลาหนึ่ง
 
ยุคล : มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว
 
สนธิญาณ : การจะขอพระราชทานอภัยโทษจะต้องทำด้วยตัวบุคคลคนนั้นหรือญาติพี่น้อง คำถามง่ายๆ คุณไปล่ารายชื่อมา 3,500,000 คน ทำทำไม คุณต้องการบีบบังคับใคร โดยเจตนาเพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าคนหมู่มากเชียร์คุณอยากไปช่วยคุณ ใช่หรือไม่แล้วไม่ได้ทำกันเงียบๆนะครับ นึกภาพดูสิครับแต่งชุดแดงเอารายชื่อมาหาบเดินรอบสนามหลวงก่อนที่จะไปมอบให้กับสํานักราชเลขาธิการ เจตนาทำให้เรื่องมันใหญ่ขึ้นมาแบบนี้ทำไม
 
ยุคล : ดูเหมือนว่าแสดงให้เห็นตัวอย่าง เหมือนปี พ.ศ. 2551 ต่อเนื่องมาถึงปี พ.ศ. 2552 การชุมนุม และหลังการชุมนุมคุณทักษิณไม่ละวางความตั้งใจในการที่จะเดินทางนี้
 
สนธิญาณ : ต้องการลากเอาสถาบัน เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองเพื่อช่วยเหลือตัวเอง เป็นอย่างไรต่อล่ะครับก็ทำไม่ได้ครับ พระองค์ท่านก็อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ผมถามว่าการที่พวกคุณมาทำกันแบบนี้คุณทักษิณมาทำแบบนี้ ชาวบ้านเขาเข้าใจไหมครับตอนนั้นคุณต้องการให้ชาวบ้านคิดอย่างไรคุณเอาคน 3,500,000 คนมาทำแบบนี้เพื่ออะไรครับ มาดูกันต่อครับว่าที่หนักๆหน่วงๆ ยังเดินต่อไหม เมื่อไม่ได้ผล เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2552 มีผู้สื่อข่าวชื่อ ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่ จากนิตยสารไทมส์ คุณยุคลก็ติดกับข่าวนี้มาตลอดปรากฏว่าได้มีการจัดสัมภาษณ์พิเศษ รอยแพรี่สัมภาษณ์พิเศษคุณทักษิณ คุณทักษิณได้ให้สัมภาษณ์ 11 หน้ากระดาษ
 
ยุคล : คือเป็นลักษณะถามและตอบ
 
สนธิญาณ : อย่างละเอียด เอาบางหัวข้อ
 
ยุคล : ก็เป็นที่สุ่มเสี่ยงมากนะครับ คำพูดของคุณทักษิณ
 
สนธิญาณ : จากเรื่องที่คุณทักษิณพยายามเรียกร้องมาโดยตลอด ให้พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ลงมาคลี่คลายสถานการณ์ให้ตัวเอง ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่ ก็ถามคุณทักษิณว่า พระมหากษัตริย์จะทรงทำอะไรได้บ้างในสถานการณ์แบบนี้ คุณทักษิณบอกว่าจะต้องนำสองฝ่ายมาร่วมกันและเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง นั่นก็คืออภัยโทษให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
 
ยุคล : นี่เขาคิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551- 2552 เลยนะครับ การนิรโทษกรรม
 
สนธิญาณ : ก็บอกแล้วว่าอยู่ในโครงแผนการที่ดำเนินการเรื่องนี้ มีอยู่ประเด็นหนึ่ง ซึ่งคุณริชาร์ด ลอยด์ แพรี่ ได้ถามจากกรณีที่คุณทักษิณพูด ถ้ามีเสียงปืนดังขึ้นทหารยิงประชาชนเมื่อไหร่ ผมจะกลับประเทศไทยในทันทีและจะเป็นผู้นำเดินขบวนเข้ากรุงเทพ ประโยคนี้ที่ทักษิณพูดจำได้ไหมครับ ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่ ก็เอาคำถามนี้มาทวนว่าเมื่อเดือนเมษายนคุณเคยพูดว่าแบบนี้ กัมพูชาจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมไหมที่จะเริ่มเดินขบวน หมายความว่าจะตั้งขบวนมาจากกัมพูชาแล้วเดินเข้ามาในประเทศไทยไหม ทักษิณตอบว่าถ้าทำผมก็จะทำแบบนั้นผมจะต้องผ่านด่านเข้าประเทศไทย สามารถเข้าจากทางลาว กัมพูชา พม่า ผมมาทางของผมได้ แต่ผมจะไม่ทำอย่างนั้นหรอก ผมมีวิธีการ การชนะเลือกตั้งสำคัญแต่ไม่ใช้วิธีการแก้ปัญหาที่แท้จริงของประเทศไทยเราอาจจะแก้ปัญหาผมได้ แต่ไม่ใช่ปัญหาประเทศไทย ปัญหาของประเทศไทยจะต้องแก้โดยการนำทั้งสองฝ่ายมานั่งกันแล้วให้ลืมทุกอย่าง เพื่อความสมานฉันท์ของชาติแบบนั้นครับ ปรากฏว่าขอส่งท้ายเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์อีกเครื่องแต่จะได้รู้จักตัวตนของคุณทักษิณ
 
ยุคล : คือต้องบอกคุณผู้ชมก่อนนะครับว่าตอนที่ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่ ไปสัมภาษณ์คุณทักษิณเป็นการนำเสนอแบบถามตอบใครใครกับบทสัมภาษณ์แบบ exclusive คุณสนธิญาณก็พยายามจะแจกแจงทีละประเด็น หรือเมื่อสักครู่บอกว่าเป็นคำถามและคำตอบที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ของคุณทักษิณ แต่มีอีกคำถามแต่คุณสนธิญาณขอเก็บเอาไว้ในเบรคหน้าส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น เดี๋ยวเรากลับมาตามกันต่อช่วงนี้เราพักกันก่อนสักเดียวคู่เดียวครับ

 

ยุคล : กลับเข้ามายังช่วงสุดท้ายมีคำถามอีกหนึ่งคำถามของริชาร์ด ลอยด์ แพรี่ และคำตอบที่คุณสนธิญาณบอกว่ามีความน่าสนใจนั้นคือเรื่องอะไรเชิญต่อเลยครับคุณสนธิญาณ
 
สนธิญาณ : คือสุ่มเสี่ยงมากเลยครับ ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่ ถามคุณทักษิณได้รับความนิยมมากกว่าสถาบันหรือไม่ ผมไม่สามารถที่จะพูดคำถามและคำตอบทั้งหมดได้ คุณทักษิณตอบว่าเป็นคนละอย่างกัน ถ้าเป็นผมผมไม่ตอบแบบนั้นครับผมจะตอบว่า ผมไม่สามารถจะไปบังอาจเปรียบเทียบตัวเองกับพระองค์ท่านได้หรอกครับผมคิดว่าคนที่มีจิตสำนึกทั่วไปก็ควรจะตอบแบบนี้ปรากฏว่าการให้สัมภาษณ์กับไทมส์ออนไลน์ 11 หน้าในครั้งนี้ หลังจากที่ข่าวสารได้ตีพิมพ์ออกมา กลายเป็นประเด็น คือทักษิณเต้นเลย
 
ยุคล : ต้องออกมาชี้แจงโดยบอกว่า การนำเสนอเนื้อหาทั้ง 11 หน้ากระดาษของไทมส์เป็นการบิดเบือนและสร้างความสับสนความเข้าใจผิดในหมู่ผู้อ่านและคนไทย
 
สนธิญาณ : ในทวิตเตอร์ของคุณทักษิณบอกว่า ผมรู้สึกเสียใจมากที่ไทมส์ออนไลน์พาดหัวข่าววันนี้บิดเบือน คำให้สัมภาษณ์ของผม ผมจะออกแถลงการณ์ด่วนให้พี่น้องได้รับทราบในวันนี้ ไทมส์ออนไลน์คำให้สัมภาษณ์บิดเบียนอย่างสิ้นเชิงการเสนอข่าวที่เป็นความเท็จดังกล่าวทำให้เกิดความสับสนเข้าใจผิดในหมู่ผู้อ่านข่าวและบุคคลใดตามมา การพาดหัวข่าวดังกล่าวเป็นการกระทำของไทมส์ออนไลน์ที่เป็นเท็จทั้งสิ้นผมไม่เคยให้สัมภาษณ์เช่นนั้น แล้วเป็นอย่างไรครับ ไทมส์บิดเบียนหรือครับ
 
ยุคล : ไทมส์ออนไลน์ก็ออกมาตอบโต้
 
สนธิญาณ : ไทมส์ตอบโต่ว่าอย่างไรครับคุณยุคล
 
ยุคล : ไทมส์ก็บอกว่า ไทมส์ได้มีการบันทึกเสียงและถอดออกมาเป็นเทปและที่สำคัญบอกว่าเนื้อความนั้นทีมงานของคุณทักษิณได้มีการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อย
 
สนธิญาณ : แปลว่าอย่างไรครับคุณผู้ชม ไปแปลกันเอาเองนี่เป็นข้อเท็จจริงทั้งสิ้น สิ่งที่ผมกำลังนำเสนออยู่นะครับ เรื่องไม่จบไม่บรรลุเป้าหมาย
 
ยุคล : อันนี้เป็นช่วงสิ้นปี พ.ศ. 2552 แล้วนะครับ
 
สนธิญาณ : ถูกต้องครับ พอต้นปี พ.ศ. 2553 การเคลื่อนไหวของบรรดาพี่น้องคนเสื้อแดงที่ถูกน้ำด้วยแกนนำก็เริ่มเคลื่อนขบวน วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553 มีการจัดชุมนุมที่หน้ากองทัพบกวันนั้นครับที่เราได้ยินกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เป็นวันแรกเป็นการพูดของคุณอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง บอกว่าถ้าใครเล่นงานคนเสื้อแดงทหารตำรวจ จะมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายออกมาปกป้องคนเสื้อแดง ตอนนั้นทุกคนก็คิดว่าคุณอริสมันต์คึกคะนองก็พูดไป แต่ปรากฏว่าก่อนการชุมนุมอีกครั้งหนึ่งในปีพ.ศ. 2553 ตั้งแต่เดือนมีนาคม ปรากฏว่ามีระเบิดไปขว้างที่หน้าบ้านคนโน้นบ้านคนนี้ บ้านประธานศาลฎีกา ท้ายที่สุดก็คือการไปปิดราบ 11 แล้วเกิดระเบิด ระเบิดก็ค่อยๆดังขึ้นในกรุงเทพฯภายใต้การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่รุนแรงที่สุด เป็นบาดแผลมาจนถึงปัจจุบันก็คือ วันที่ 10 เมษายน ซึ่งจนถึงทุกวันนี้แกนนำคนเสื้อแดงยืนยันนั่งยันนอนยันบอกว่าเหตุการณ์เมษายนต่อเนื่องพฤษภา 53 มีผู้คนตายเป็นร้อยกว่าคน ทหารและรัฐบาลในขณะนั้นพร้อมปราบเข็นฆ่าประชาชน จากปี พ.ศ. 2552 ไม่มีคนตาย เที่ยวนี้ต้องมีคนตายจริงๆ ซึ่งใครวางแผนให้คนตายจริงๆ ต้องไปดู เราไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 เมษายน ท่านผู้ชมที่ไม่ได้ติดตามสถานการณ์อาจจะไม่ได้เห็นภาพเหมือนกับที่ผมเห็นวันที่ 10 เมษายน หลังจากขวัญชัย ไพรพนา พามวลชนมาท้าทายทหารกองทัพภาคที่ 1 ให้ทหารเคลื่อนกำลังตามเหมือนกับล่อเสือออกจากถ้ำเข้าสู่สี่แยกคอกวัว ผมย้ำนะครับทหารที่ไปปฏิบัติหน้าที่วันนั้นเป็นลูกๆหลานๆอายุ 20 - 21 ปีเพราะเป็นทหารเกณฑ์ถือกระบองกับโล่ เพื่อหวังที่จะเข้าไปสลายการชุมนุมหรือจะเรียกว่าไปขอคืนพื้นที่ อย่างไรก็ตามแต่โดยมีทหารชั้นประทวนและทหารชั้นสัญญาบัตรกำกับ มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการอยู่ ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว เหมือนกับการรอกองทัพให้เข้าไปอยู่ในวงล้อม หลังจากนั้นชายชุดดำ ที่ยิงเอ็ม 79 กระหน่ำยิงตายมีระเบิด และเอ็ม 79 ที่ยิงโดยไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ชุมนุมยิงใส่เต็นท์บังคับบัญชาจนทำให้พลเอกร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิต ท่านผู้ชมเชื่อไหมครับในขณะเวลาเดียวกันนั้นได้มีการไปวางระเบิดเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงที่จังหวัดอยุธยา เสาส่งไฟฟ้าแรงสูงสองต้นนั้นเกี่ยวพันกับสายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่เข้าสู่กรุงเทพฯ เดชะบุญวันนั้นเสาสองต้นนั้นไม่ล้มลง ถ้าล้มจะเกิดอะไรขึ้นครับคุณผู้ชม
 
ยุคล : หมายถึงไฟฟ้ามีโอกาสดับ ในพื้นที่การปะทะ
 
สนธิญาณ : ทั้งกรุงเทพครับ คิดนะครับวันนั้นถ้าไฟดับทั้งกรุงเทพ  อะไรจะเกิดขึ้น ที่ยิงกันมีแสงไฟอยู่นะครับชายชุดดำที่ยิงใส่เข้ามา แต่ถ้าดำมืดจะเป็นอย่างไร ผมบอกแล้วว่าประเทศนี้ศักดิ์สิทธิ์ มาดูกันต่อไม่บรรลุเป้าจนการชุมนุม ได้ถูกสลายลงในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 หลังจากนั้นก็จะมีเรื่องของการโจมตีสถาบันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่หมายความว่าทำกันแบบเป็นชาวบ้านๆ เรียกว่า ทำกันเป็นระบบกระบวนการที่เชื่อมโยงมาจนถึงสหพันธรัฐ ตอนนั้นน่ะครับ ไปออกการ์ตูนเรื่องสงครามอภิมหาอมตะยุทธ์ระวังเทวดากับไพร่สารขัณฑ์ มีทำรูปต้นไม้มีทำรูปอะไรต่างๆ อย่างมากมายมหาศาล ต้นไม้ประชาธิปไตย มีหน่วยจรยุทธต่อสู้กับเทวดา มีการชุมนุมต่อรองติดอาวุธปืน ถ้าอ่านในนี้ทั้งเล่มจะรู้เลยเขียนถึงขนาดว่ารายละเอียดจะต้องโค่นล้มสถาบันซึ่งทำได้อย่างไรทำไปๆ นี่ก็คือในด้านลึกด้านลับ  มาดูด้านวงกว้างกันครับพูดกำกวมเพื่อไม่ให้ผิดกฎหมาย เอาเกาะแก้วพิกุลทอง ให้คนไทยปลดรูปที่มีทุกบ้านลง รูปใครครับ
 
ยุคล : รูปที่มีทุกบ้านอันนี้ไม่ต้องบอกหรอกครับ เพราะว่าคุณผู้ชมก็น่าจะรู้
 
สนธิญาณ : การสร้างสถานการณ์ต่อเนื่อง ต่อมาเรื่อยๆ ปี พ.ศ. 2554 ในวันที่ 10 เมษายนครบรอบ 1 ปี คุณจตุพรขึ้นอภิปรายบนเวทีเรื่องกระสุนจุดจุดจุด ทหารเสือจุดจุดจุด จะด้วยเจตนาอย่างไรก็ตามแต่ในสมัยนั้นคุณธาริต เพ็งดิษฐ์ ยังเป็นอธิบดีดีเอสไอ ตั้งข้อหาคุณจตุพรกระทำความผิดต่อมาตรา 112 เพียงต่อมาหลังจากคุณยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลคุณธาริตก็บอกว่า คำพูดของคุณจตุพรให้นักวิชาการทางด้านภาษาศาสตร์ ทางด้านนิเทศศาสตร์ ทางด้านกฎหมายดูแล้วไม่ผิดแต่ตอนที่พรรคประชาธิปัตย์ มีอำนาจเหนือคุณธาริตบอกว่าใครที่ตบมือโห่ร้องวันนั้น การที่คุณจตุพรพูดผิดหมดเข้าข่ายสนับสนุนด้วยกิริยาท่าทาง มาถึงวันนี้คุณทักษิณจะดิ้นรนแจ้งความแจ้งความคุณยุคล แจ้งความผม แจ้งความใครๆ ก็แจ้งความไป แต่ผมฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่อยครับ ผมยังสงสัยจนถึงทุกวันนี้ไม่ได้กลัวครับกลับขึ้นศาล พยานหลักฐานก็ต้องขึ้นไปพิสูจน์กัน แต่ผมแปลกใจเลยสงสัยคุณรู้ได้อย่างไรว่าลายมือที่มอบอำนาจเป็นลายมือคุณทักษิณจริง
 
ยุคล : การให้ทนายความไปต้องมีการมอบอำนาจถูกไหมครับ
 
สนธิญาณ : ถูกต้องครับ เปรียบเทียบว่าพิสูจน์ได้อย่างไร เวลาเสียงคุณทักษิณที่พลเอกบุญเลิศ เสธอ้าย เอามาเปิดที่กล่าวร้ายสถาบัน หรือเสียงที่ณัฐวุฒิพูดคราวอริสมันต์ไปบุกพัทยา คุณก็บอกว่าตัดต่อ แล้วนี่คุณรู้ได้อย่างไรว่าเป็นลายเซ็นต์ทักษิณจริงๆ ไม่ได้พูดกันด้วยความกลัว แต่ว่ากฎหมายอย่าให้โอกาสคุณทักษิณทำได้แต่ในขั้นตอนกระบวนการวิธีการแบบนี้ ก็เป็นคำถามที่ถามทางกลับไปบ้างกับสิ่งที่ผมพูดในวันนี้ คุณลองไปทบทวนกับสิ่งที่ผมพูด และความหมายของคำว่ากรรม ในรายละเอียดเหตุการณ์หลักฐานต่างๆชัดเจนจริงหรือไม่
 
ยุคล : เอาล่ะครับวันนี้ก็ชัดเจนตามแบบฉบับของยุคลถามตรงสนธิญาณฟันธง วันนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณสนธิญาณมาก ขอบคุณมากครับ ลาคุณผู้ชมแต่เพียงเท่านี้กลับมาพบกันใหม่สัปดาห์หน้าสวัสดีครับ