สนธิญาณ ชี้!! ปฏิรูปตำรวจต้องมุ่งแก้การ"ซื้อขายตำแหน่ง" สตช.ต้องย่อให้เล็ก ไม่ใช้ย้ายไปสังกัด ก.ยุติธรรม ถอยหลังเข้าคลอง

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) บรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

                สนธิญาณ : ขออนุญาตนะคุณยุคลวันนี้เนี่ยนะ ขออนุญาตใช้รายการคุณยุคลเนี่ยเป็นข้อร้องเรียนไปยังท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะ คสช.และนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย พลเอกประยุทธ์ได้นำ คสช.และกองทัพเข้ายึดอำนาจมาจนถึงวันนี้จะครบ 3 ปี ในอีกวันสองวันข้างหน้านะครับ ชื่อเสียงเกียรติคุณของพลเอกประยุทธ์ได้รับการยกย่อง ยอมรับจากประชาชน ในฐานะผู้ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติบ้านเมืองที่วิกฤติให้กลับคืนสู่ปกติสุข ประชาชนอยู่กันอย่างมีความสุขเหมือนเดิม มีปัญหาเศรษฐกิจขึ้นมาประปรายบ้าง ประชาชนก็ให้อภัย เพราะเชื่อมั่นในความตั้งใจดีและความสุจริตของพลเอกประยุทธ์ โพลและความเห็นของประชาชนซึ่งมีความนิยมชมชอบพลเอกประยุทธ์เป็นอย่างยิ่ง แต่พลเอกประยุทธ์ย่อมจะทราบอยู่แก่ใจดีว่าสิ่งที่ทำให้รัฐบาล คสช.และตัวพลเอกประยุทธ์ถูกตั้งคำถามมาโดยตลอดและเป็นตัวบั่นทอนเกียรติภูมิของพลเอกประยุทธ์คือเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำนะครับ คือเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปัญหาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปัญหาใหญ่ปัญหาหลักคือการซื้อขายตำแหน่งซึ่งเป็นที่ยอมรับจนปรากฏข่าวสารว่าขนาดระดับผู้กำกับต้องไปปล้นรถขนเงินเพื่อมาใช้หนี้จากการซื้อตำแหน่ง เรื่องราวคนทั้งประเทศรู้และผมเชื่อว่าพลเอกประยุทธ์รู้ การซื้อขายตำแหน่งของตำรวจเป็นปัญหาหลักปัญหาใหญ่ เพราะระบบบริหารจัดการ ตำรวจต้องการตำแหน่งไปลงพื้นที่ที่ดี พื้นที่ที่ดีเนี่ยหมายความว่ายังไงครับ ก็ไปช่วยเหลือประชาชน เพราะประชาชนมีปัญหา ไม่ใช่หรอกครับ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีผลประโยชน์เยอะ นักการเมือง การซื้อขายตำแหน่งกระจายไปเป็นหย่อมๆ เหมือนความกดอากาศ ทำให้มีปัญหา เพราะตำรวจอยู่ภายใต้นักการเมือง วันนี้ตำรวจถูกรวมศูนย์อยู่ภายใต้อำนาจของ คสช. แต่การซื้อขายตำแหน่งและข่าวสารในการซื้อขายตำแหน่งมีมากกว่าในสมัยเลือกตั้ง พลเอกประยุทธ์ต้องตระหนักครับ เป็นเรื่องจริง แตะไปตรงไหนพลเอกประยุทธ์ก็รู้ และรู้ด้วยว่าใครเป็นต้นตอเป็นตัวการ ทำไมรัฐธรรมนูญถึงต้องเขียนให้ปฏิรูปตำรวจก่อนภายใน 1 ปี ทำไมประชาชนคนไทยถึงอยากให้ปฏิรูปสำนักงานตำรวจ เพราะเหตุผลนี้ครับ ปัญหาอยู่ที่โครงสร้างตำรวจใหญ่โต เทอะทะ โยกย้ายตำแหน่งหากิน กลายเป็นมะเร็งร้าย วงจรร้าย ล่าสุดในสมัย คสช.เนี่ยแหละครับ ที่ทุบทำลายตำแหน่งพนักงานสอบสวน หลอกให้เกิดการโยกย้ายเพื่อให้เกิดการลื่นไหลของตำแหน่ง มันเป็นความจริง ท่านดี ดีจริงๆ เรียนด้วยหัวใจอีกครั้ง แต่เรื่องนี้ไม่ได้ครับ ปฏิรูปตำรวจมี พลตำรวจโทบุญเรือง ผลพาณิชย์ เป็นประธาน พลตำรวจโทบุญเรือง เนี่ยเป็นนายตำรวจรุ่นเดียวกับอดีต ผบ.ตร.คนนึงนะคุณยุคล ชื่อพลตำรวจเอกพัชรวาท ก็ไม่แปลกอีกล่ะครับ แต่ตรงนามสกุลของพลตำรวจเอกพัชรวาทไปตรงกับนามสกุลของรองนายก ตรงกับคนที่คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนั้นข้อเสนอในการปฏิรูปเนี่ยนะครับ มันยิ่งลงทะเลครับ ผมเห็นด้วยในการที่จะทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการตำรวจแห่งชาติมีรายได้ดี แข็งแรง สูงขึ้น เพื่อเป็นสวัสดิการ เพื่อมีความมั่นคง เห็นด้วยนะครับ แต่ไม่ใช่ไปสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ใหญ่โตเทอะทะเหมือนเดิม มันตอบปัญหาในการไม่ให้ซื้อขายตำแหน่งตรงไหน สำคัญ ถอยหลังเข้าคลองไป 20 ปี ทำใหม่ คุณยุคลเข้ามาทำข่าวปีไหนนะครับคุณยุคล

                ยุคล : ซักประมาณปี 50 ครับ

                สนธิญาณ : ถอยหลังไป 20 ปี เพราะฉะนั้นคุณยุคลยังเด็กอยู่ คุณยุคลเคยรู้ไหม ประเทศไทยเนี่ย เคยมีตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ ทราบใช่ไหม

                ยุคล : ทราบครับ

                สนธิญาณ : สมัยอธิบดีกรมตำรวจก็เพราะตำรวจเป็นกรมหนึ่งในกระทรวง นึกภาพออกไหมครับ เทื่อปี 2541 ทุกคนเห็นกันว่าควรจะปฏิรูปตำรวจ ไม่ไหวแล้ว ตำรวจอยู่ในกรมมันแคบนะ แล้วอยู่ภายใต้อำนาจของนักการเมือง เมื่อก่อน ย้ำนะ เมื่อก่อนเนี่ยเบอร์ 2 ของประเทศไทยคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำไมครับ คุมข้าราชการปกครองตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ภูมิภาค จนถึงส่วนกลาง คุมอัยการ เมื่อก่อนก็เป็นอธิบดีอัยการครับ อยู่ในกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งกรมตำรวจ อัยการ อยู่ในกระทรวงมหาดไทยหมด ผ่าเอากรมอัยการออกมาเป็นสำนักงานอัยการสูงสุด ผ่ากรมตำรวจออกมาเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อธิบดีตำรวจคนสุดท้ายชื่อพลเอกประชา พรหมนอก ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติคนแรกชื่อ พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก นั่นคือยุคที่มีการสับเปลี่ยนเมื่อตุลา 2541 นับตั้งแต่นั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ขยายตำแหน่งมา ผู้ช่วยเพียบ รองจากเมื่อก่อนมีคนสองคน เป็นสิบ แถมไม่พอต้องมีที่ปรึกษาอีก ขยายกันไป จนนายพลจะเดินกันสะดุดกันตายแล้ว ต้องใช้คำแบบนั้น พอวันดีคืนดีบอก สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปขึ้นกับกระทรวงยุติธรรม ถอยหลังเข้าคลอง เอากรมอัยการไปด้วยที จะได้ทำงานครบถ้วนกันเหมือนเดิม ผมไม่ได้ความว่าแยกออกมาหรือไปรวมดีไม่ดีนะ แต่ปัญหาของตำรวจต้องกระจายอำนาจครับ ต้องพาตำรวจในการปฏิบัติการส่วนหนึ่งไปอยู่กับท้องถิ่นครับ คุณจะไปอยู่ยังไงก็ตามแต่ต้องมีกรอบ ระบบ จัดการการโยกย้ายไม่ให้ข้ามจังหวัดใครเป็นอะไร หยิบเลวร้ายออก จ้างเงินเดือนให้สูงได้ มันต้องคิดออกจากกรอบที่มันมีปัญหาอยู่ แต่เมื่อคุณให้ตำรวจไปปฏิรูปตำรวจ ตำรวจที่มีความคิดแบบเดิมอยู่ในกลุ่มเดิม เชื่อมโยงกับกลุ่มอำนาจที่มีอยู่ ถอยหลังเข้าคลอง ตกเหวเสียด้วยซ้ำ พลเอกประยุทธ์ถูกกระทบกระเทือนเพราะเรื่องสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาตลอด  ยืนยันพูดในเรื่องที่จะปฏิรูป ท่านยอมเรื่องพวกนี้ไม่ได้ ผมเรียน ถ้าท่านยอมจะให้เป็นไปตามนี้นะ เดี๋ยวเราจะให้ไปดูกันนะ นี่ถึงประกาศขยาย ต้องไปดูข้อเท็จจริงนะครับ ผมพูดไปครึ่งนึงก่อน ข่าวสารที่ผมมาขยายออกมาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้เท่ากับอัตราจอมพลของทหาร จะได้เหมือนทหาร และมีข่าวด้วยนะต่อไปจะมีตำแหน่งตำรวจประจำ จะประจำไว้ทำไม ทหารก็มีประจำไว้รบ ตำรวจก็ไม่มีหน้าที่ทำก็ออก ก็ปลด ต้องจ่ายเงินชดเชยไป เลย์ออฟไป ทำโครงสร้างให้เล็กลง กระจายอำนาจ ดูแลสวัสดิการ เลือกในการที่จะป้องกัน แก้หลักการให้ถูกต้อง ตำรวจไทยนะคุณยุคล เคยมีสโลแกนว่าไงรู้ไหม ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์ที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ ในสมัยพลตำรวจเอกเผ่า เป็นไงครับ ปฏิรูปตำรวจเหมือนกันสมัยนั้นหลังการรัฐประหาร 2490 มีตำรวจรถถัง มีตำรวจม้า มีตำรวจเรือ มีตำรวจทุกอย่างที่ทหารมี เนี่ยแหละครับ ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเดินถอยหลังกลับไปหมด ทั้งสิ้นทั้งปวงไม่ใช่เพื่อการตอบสนองการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชน เพราะฉะนั้นผมเรียนพลเอกประยุทธ์ด้วยหัวใจ ผมเนี่ยมิตรแท้ครับ เชียร์ท่านทุกวันเรื่องที่ถูกต้อง ไม่เคยได้รับผลประโยชน์อะไร ไม่ได้มาทวงด้วย แต่เรื่องนี้ครับ พาท่านลงเหวแน่นอน