"สนธิญาณ" ชี้!! 3 ปี คสช. ขบวนการ"ล้มเจ้า"เปลี่ยนประเทศเป็น"สหพันธรัฐ"ยังไม่เลิกราจัดตั้งซึมลึก"กองกำลัง"ยังเตรียมพร้อม  รัฐบาลที่ผ่านมามี..

"สนธิญาณ" ชี้!! 3 ปี คสช. ขบวนการ"ล้มเจ้า"เปลี่ยนประเทศเป็น"สหพันธรัฐ"ยังไม่เลิกราจัดตั้งซึมลึก"กองกำลัง"ยังเตรียมพร้อม รัฐบาลที่ผ่านมามี..

ยุคล : สวัสดีครับ ต้อนรับคุณผู้ชมเข้ามาในช่วงเวลาของรายการยุคลถามตรงสนธิญาณฟันธงตอบ สัปดาห์นี้เรามาติดตามสถานการณ์ของบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าภาพรวมกำลังจะเดินหน้าด้วยความปกติ แต่สืบเนื่องจากเมื่อค่ำคืนของวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560  ได้เกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกับท้องสนามหลวง ก็เป็นที่ชัดเจนนะครับว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังทำการประกอบระเบิดที่ชื่อว่า ไอทีไทม์เมอร์ ประกอบกับวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็จะครบรอบ 3 ปี การเข้ามายึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือว่า คสช. โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ทำให้ต้องมาเพ่งเล็งสถานการณ์กันอีกสักครั้งหนึ่งว่า ณ ปัจจุบัน และต่อจากนี้ภายใต้การขับเคลื่อนของ คสช. จะเดินหน้าไปสู่ทิศทางไหนอย่างไรต่อไป และแน่นอนบรรยากาศแห่งการครบรอบนี้ ก็มีบรรดานักการเมืองจากแต่ละพรรค ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ของ คสช. ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างที่จะรุนแรงกันเลยทีเดียว  เราไปลองยกตัวอย่างกันดูสักหน่อย อย่างเช่นคุณจาตุรนต์ ฉายแสง บอกว่า "คสช. ล้มเหลวทุกด้าน โรดแมปของ คสช. ที่นำไปสู่การเลือกตั้งนั้น ไม่มีความน่าเชื่อถือ และจะกระทบต่อการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศ" นี่แบบคร่าวๆนะครับ ขณะที่คุณวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย แม้ว่าที่ผ่านมาจะเป็นขาประจำในการโจมตี คสช. อยู่แล้ว แต่โอกาสครบรอบ 3 ปีก็ออกมาซัด คสช. ไม่เลี้ยงเหมือนกันว่า "ยิ่งบริหารประเทศยิ่งเจริญลงทุกด้าน ที่ขยับเป็นพิเศษคือ ขยับหาเหตุผลเลื่อนโรดแมป ทั้งหมดคือความด้อยสติปัญญาของรัฐบาล แต่เป็นหายนะที่เกิดขึ้นกับประชาชนทุกคน รัฐบาลที่มาจากประชาชนย่อมฟังประชาชน แต่เผด็จการคือตัวปัญหาที่ไม่เคยรับฟังประชาชน ทำเพื่อตัวเองและพวกฟ้อง แต่ไม่ยอมรับกระบวนการตรวจสอบ" ขณะเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอกว่า "ใครเชียร์รัฐบาลจนแตะไม่ได้ คนนั้นก็บ้าแล้ว ส่วนใครด่ารัฐบาลเสียทุกเรื่องคนนั้นก็บอแล้ว ตนเองเป็นประเภทบ้าๆบอๆ สิ่งไหนเห็นด้วยก็เชียร์ สิ่งไหนไม่เห็นด้วยก็วิจารณ์ไปตามเรื่อง อย่างความตั้งใจของรัฐบาลให้ผ่าน ส่วนเรื่องเศรษฐกิจให้ตก ส่วนใครจะบอกว่าเศรษฐกิจดีเหลือเกินก็ว่าไป" หรือคุณสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทย บอกว่า "...3 ปีในวันนี้ยังไม่เห็นอะไรเลย  และที่สำคัญทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ยังไม่ส่งสัญญาณเลยว่าจะปฏิรูปอย่างไร มีแต่จะเหนี่ยวรั้งถอยหลังเข้าคลอง..." นี่เป็นเบื้องต้นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ คสช. เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงได้มาคุยกับคุณสนธิญาณในหัวข้อ " 3 ปี คสช. กับ 2 รัฐบาลที่ผ่านมา อะไรคือคำตอบของประเทศไทย" ก่อนอื่นไปพบกับคุณสนธิญาณกันก่อนนะครับ สวัสดีครับคุณสนธิญาณครับ

สนธิญาณ : สวัสดีครับคุณยุคลครับ สวัสดีครับท่านผู้ชมสปริงนิวส์และแฟนข่าวทีนิวส์ทุกท่าน

ยุคล : เป็นอย่างไรครับ วันจันทร์ที่จะถึงนี้แล้วครับ 3 ปี คสช. เข้ามายึดอำนาจ

สนธิญาณ : สนธิญาณก็ไม่สามารถที่จะตอบได้หรอกครับว่า 3 ปีของ คสช. เป็นอย่างไร คนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีจริงๆ ก็คือท่านผู้ชมทุกท่าน เพียงแต่วันนี้มีประเด็นที่เราจะต้องพูดคุยกันว่า ประเทศไทยใน 20 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 มาจนถึง พ.ศ. 2560 ประเทศไทยอยู่ในมือของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย หรือจะเรียกให้ชัดเจนว่า อยู่ภายใต้อยู่ในมือของพรรคของคุณทักษิณ ชินวัตร และพรรคประชาธิปัตย์ มีอยู่ 2 พรรคนี้เท่านั้น โดยมีพรรคการเมืองเล็กๆ อื่นๆ เกาะอยู่ทั้ง 2 ข้าง ข้างไหนขึ้นมามีอำนาจนักการเมืองกลุ่มนี้ก็เกาะติด ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทย พรรคชาติไทยพัฒนา หรือจะชื่ออื่นๆ อย่างไรก็ตามแต่ ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน เพราะเวลาเป็นฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นฝ่ายค้านฝั่งเดียว เวลาพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาลพรรคของคุณทักษิณก็เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวเป็นแบบนั้นครับ ส่วนพรรคเล็กอื่นๆ เกาะหากินทั้งสองข้าง พูดสรุปง่ายๆ 20 ปีที่ผ่านมา บ้านเมืองเราอยู่ในมือนักการเมืองกลุ่มนี้กลุ่มเดียว ชัดเจนไหม ปี พ.ศ. 2540  - 2544 คุณชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ปี พ.ศ. 2544-2549 คุณทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มาขั้นด้วย คมช. โดยพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์  ตามต่อด้วยคุณสมัคร สุนทรเวช ตามต่อด้วยคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนมาถึงคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และถึงยุคของ คสช. เพราะฉะนั้นประชาชนคิดและพิจารณาได้ว่า 20 ปีที่ผ่านมาของประเทศไทย นักการเมืองทำให้ประเทศนี้ดีขึ้นหรือเลวลง เรามาดูกัน ส่วนที่คนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผมยกตัวอย่าง อย่างกรณีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ไปตอบคำถามเรื่องของตัวเองก่อนเถอะ ร่ำรวยผิดปกติ

ยุคล : โดยยึดทรัพย์ไป

สนธิญาณ : ทำไมถึงร่ำรวยผิดปกติ นี่คือกรณีของนายสมศักดิ์ หรืออย่างนายวัฒนาก็เช่นเดียวกัน คดี 82 ล้านบาท โครงการบ้านเอื้ออาทรก็ไปตอบคำถามประชาชนดูหน่อยครับ ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ คสช. แต่การวิพากษ์วิจารณ์นั้นก็ต้องดูด้วยว่าปัญหาของตัวเองที่เกิดขึ้นเพราะการทุจริตคอร์รัปชั่นยังมีศักยภาพพอจะออกมาวิจารณ์และทำให้ประชาชนเห็นคล้อยตามหรือเปล่า ทีนี้เราต้องกลับมาดูกันว่า 2 รัฐบาลที่ผมพูดคือรัฐบาลมาจากพรรคประชาธิปัตย์กับรัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยหรือพรรคของคุณทักษิณ บ้านเมืองเรามาเกิดที่เราเรียกว่าความเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่จริงๆ เกิดในสมัยของทักษิณ ชินวัตร ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเพราะก่อนหน้านี้เป็นนักการเมืองมืออาชีพ การเมืองยังเล็กน้อย

ยุคล : เหมือนในอดีตก่อนหน้ายุคคุณทักษิณ

สนธิญาณ : ถูกต้อง มีคนๆ หนึ่งที่เดินเข้ามาสู่การเมืองอย่างมีวัตถุประสงค์แฝงเร้นอย่างแน่นอน ก็เพราะเคยไปเป็นนักการเมืองอยู่พรรคพลังธรรม ไปอยู่พรรคความหวังใหม่ ต้องได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีการต่างประเทศ รัฐมนตรีศึกษาธิการ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรมไม่เอาเพราะสั่งการไม่ได้ก็เลิกมาตั้งพรรคของตัวเอง ตอนมาตั้งพรรคของตัวเองบุคคลที่เคยผ่านงานธุรกิจอันฉ้อฉล  แสวงหาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว สร้างเครือข่ายการทุจริตคอร์รัปชั่น เชื่อมโยงกับบรรดาข้าราชการประจำ พวกรัฐวิสาหกิจ เผอิญเป็นนักเรียนเตรียมทหาร เป็นนักเรียนนายร้อย มีเพื่อนทั้งทหาร ตำรวจ กำลังเบ่งบานอำนาจต่างๆ ในประเทศอย่างเต็มที่ ตัวเองโดดมาเป็นนักการเมืองมีพร้อมหมด ทุน เครือข่ายค้าขาย เครือข่ายข้าราชการระดับสูง โดยเฉพาะทหารตำรวจ และพรรคการเมืองที่เป็นของตัวเอง ประเทศจึงเกิดวิกฤตขึ้น เพราะการใช้อำนาจอย่างมากมายของทักษิณ ชินวัตร นี่ลืมไม่ได้นะครับ ประเทศเกิดปัญหาขึ้นอย่างมากมายเพราะการใช้อำนาจอย่างเกินเลยของทักษิณ ชินวัตร ชัดเจนครับไม่สามารถที่จะพูดเป็นอย่างอื่นได้ ประกาศปราบยาบ้า ฆ่าคนเสียชีวิตมากมาย บีบคั้นปราบปรามเข่นฆ่าคนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จนเกิดเหตุร้ายลุกฮือขึ้น เพราะผู้คนไม่พอใจในการถูกเก็บถูกฆ่า กลายเป็นเหตุร้าย ทักษิณประกาศว่าเป็นโจรกระจอก ไม่นับการใช้อำนาจในการบีบคั้นสื่อ เอา ปปง. ไปตรวจสอบสื่อ ทั้งสิ้นเพื่ออะไรครับ เพื่อการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นอย่างอื่นไม่ได้ครับ คำพิพากษาของศาลที่ตัดสินเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 คือข้อพิสูจน์อย่างชัดเจน คดียึดทรัพย์ ทักษิณขายหุ้นไปได้ 70,000 ล้านบาท ศาลสั่งยึดกลับมา 46,000 ล้านบาท เพราะหลักฐานปรากฏชัดว่าคุณไปแก้สัมปทานเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทชินคอร์ป  คุณไปแก้ไขสัญญาเชื่อมต่อสัญญาณโรมมิ่ง ทำให้บริษัทเอไอเอสได้ประโยชน์ ไปแก้ไขสัมปทานดาวเทียมเอื้อให้กับชินคอร์ป ไปปล่อยเงินกู้พม่าเพื่อให้บริษัทชินคอร์ปได้ประโยชน์ เขายึดมา 46,000 ล้านบาท เป็นประเด็นที่เป็นปัญหาและค้างคาใจทักษิณมาโดยตลอด คล้ายๆเหมือนกับว่าถูกรังแกถูกกระทำ แต่ความจริงไม่ใช่หรอกครับ เพราะมีประชาชนจำนวนหนึ่งซึ่งมากพอสมควรออกมาขับไล่ในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเกิดการยึดอำนาจขึ้น เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ทักษิณไม่จบ

ยุคล : เดี๋ยวเรากลับมาตามต่อกันในเบรคหน้านะครับ คุณสนธิญาณเหมือนจะพยายามจะบอกว่า 3 ปีของ คสช. ลองไปเปรียบเทียบกับ 2 รัฐบาลก่อนที่ คสช. จะเข้ามาดู เผื่อจะมองเห็นภาพในอดีตเทียบกับปัจจุบันและทำให้มองเห็นอนาคตมากยิ่งขึ้น กำลังไล่เรียงมาถึงที่มาของอำนาจของนายทักษิณ ชินวัตร และนำพามาสู่สถานการณ์ในช่วงของการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 เดี๋ยวมาตามกันต่อว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง (พักช่วง) ตามกันต่อในเบรคที่สองของยุคลถามตรงสนธิญาณฟันธงตอบ ช่วงที่แล้วคุณสนธิญาณกำลังลำดับถึงการบริหารประเทศของทักษิณ ชินวัตร ผ่านพรรคไทยรักไทย จนนำมาสู่เหตุการณ์ยึดอำนาจวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 หลังจากนั้นเกิดอะไรกันต่อ และเกี่ยวโยงอะไรกับครบรอบ 3 ปี คสช. ไปพบกับคุณสนธิญาณกันต่อ เชิญครับ

สนธิญาณ : ผมไม่ได้ฟื้นฝอยหาตะเข็บ แต่จู่ๆ เราจะละเลยรากฐานอันเป็นปัญหาของบ้านเมืองในปัจจุบันไม่ได้หรอกครับ ทักษิณและเครือข่ายคือปัญหาของบ้านเมืองในปัจจุบัน ผมต้องการจะชี้ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้ยังเป็นปัญหาและยังดำรงอยู่ พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ชื่อพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมา แม้ไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายแต่เมื่อมาเป็นรัฐบาลก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ทักษิณก่อเอาไว้ได้ และเมื่อเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ก็พ่ายแพ้ไม่สามารถที่จะเอาชนะทักษิณและเครือข่ายได้ ดังนั้นวันนี้บ้านเมืองเราผมต้องการที่จะชี้ให้เห็นว่ายังอยู่ที่เดิม ปัญหาเดิมๆ ยังเป็นอยู่ เรามาดูสิครับยึดอำนาจที่เราเรียกว่ายึดเสียของ ทำไมเราถึงต้องเรียกว่าการยึดอำนาจเสียของ ก็ดังที่ผมได้สรุปครับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะคนๆ หนึ่งอุบัติขึ้นในทางการเมือง เป็นนักธุรกิจที่ฉ้อฉลทุจริตคอร์รัปชั่น มีเพื่อนเป็นทหารตำรวจ มีพรรคการเมืองของตัวเอง รวมอำนาจทั้งหมดเอาไว้ได้ ใช้อำนาจจนเกินเลย แสวงหาทุจริตผลประโยชน์ เพื่อตัวเอง พวกพ้อง และครอบครัว ไม่เพียงพอหลังจากการเข้ามาแก้ไขปัญหาของกองทัพด้วยการยึดอำนาจ คุณทักษิณก็ไม่เสียชีวิต เพราะการยึดอำนาจในอดีตที่ผ่านมาหลังจากที่หัวหน้ารัฐบาลเก่าหนีไปต่างประเทศก็เสียชีวิตหมด แต่คุณทักษิณไม่เสียชีวิต เพราะคุณทักษิณเป็นคนที่มีเงิน และไม่ได้มีเงินในประเทศไทย เครือข่ายการเงินคุณทักษิณเชื่อมโยงออกไปทั่วโลก ไปอยู่ต่างประเทศเงินทองก็ยังมากมายมหาศาล เมื่อเปิดเลือกตั้งใหม่ขึ้นมา จึงเกิดพรรคพลังประชาชน โดยมีคุณสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรค คุณสมัครเป็นหัวหน้าพรรคและได้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมเรียนเลยว่าสิ่งที่คุณสมัครได้เป็นหัวหน้าพรรคในขณะนั้นเพราะคุณทักษิณเห็นว่าคุณสมัครเป็นผู้มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน คุณทักษิณตั้งข้อสงสัยต่อสถาบันหวังจะใช้คุณสมัครเป็นสะพานเชื่อม คุณทักษิณถูกยึดอำนาจจากกองทัพ คุณสมัครมีความสัมพันธ์อันดีกับกองทัพ ตั้งคุณสมัครขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่าคุณสมัครได้เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นนายกรัฐมนตรีมาได้ 8 เดือน ถึงวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551 ก็หลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อย่าได้ลืมนะครับ การหลุดออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของคุณสมัคร ทำให้คนในตระกูลสุนทรเวชเจ็บช้ำหัวใจ ผู้คนที่ใกล้ชิดกับคุณสมัครเจ็บช้ำหัวใจจากการกระทำของคุณทักษิณ  เพราะเมื่อคุณสมัครมาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ทำตามที่คุณทักษิณต้องการ คุณสมัครไปดีกับกองทัพ กองทัพแก้กฎหมายมาในการโยกย้ายนายพลตอนที่ยึดอำนาจให้ข้าราชการประจำประกอบไปด้วย ผบ.สส. ผบ.ทบ. ผบ.ทร. ผบ.ทอ. ปลัดกลาโหม 5 คน บวกกับรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ เป็น 7 คนในการจะโยกย้ายมีมติ คุณทักษิณมีปัญหาอยากจะแก้กฎหมายฉบับนี้เพื่อให้การเมืองเข้าไปมีอำนาจในกองทัพ แต่คุณสมัครไม่ทำ แถมตอนเที่ยงบางวันก็ไปทานข้าวกับผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้นคือพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังชุมนุมถล่มคุณสมัครอีก คุณสมัครประกาศภาวะฉุกเฉิน กองทัพไม่ดำเนินการอะไรให้ คุณสมัครไม่ได้ว่าอะไรกองทัพ คุณทักษิณขัดใจมากอย่างยิ่ง ในขณะนั้นเกิดกระแสแก๊ง 4 คนขึ้นในรัฐบาลสมัคร 1.คุณสมัคร สุนทรเวช 2.ธีรพล นพรัมภา เลขาธิการของคุณสมัคร 3.เนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน 4.นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ปรากฏว่าในกลุ่ม 4 คนนี้ คนที่ทำให้คุณสมัครโดดเด่นขึ้นก็คือคุณเนวิน เพราะฐานเสียงอยู่ในมือเนวินขนาดใหญ่ จนก้าวล่วงจากฐานที่อยู่ในภาคอีสานล้วงไปทางภาคเหนือ ทำให้ไม่สบอารมณ์ของเจ๊บางคน ที่คุมฐานเสียงอยู่ทางภาคเหนือ สิ่งเหล่านี้สะท้อนกลับไปที่ทักษิณก็เจ็บจำอย่างยิ่ง เก็บความรู้สึกอันนี้ไว้ คุณสมัครหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเสียง 9 ต่อ 0 ทำขัดต่อรัฐธรรมนูญ คุณสมัครซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีจึงหลุดจากตำแหน่ง แต่กฎหมายไม่ได้ห้ามไม่ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อนะครับ

ยุคล : สามารถเป็นได้อีกครั้งถ้าได้รับการโหวต

สนธิญาณ : ถูกต้อง ก็เตรียมการโหวต คุณเนวินก็เต็มที่เชียร์คุณสมัครไปรอเฝ้า ทักษิณเฝ้าดูอยู่แล้ว หักคุณเนวิน หักคุณสมัคร โดยการโทรไปล็อบบี้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ให้ไปประชุมสภาในวันที่จะโหวตเลือกคุณสมัคร ภาพวันนั้นคุณสมัครนักการเมืองคนหนึ่งที่สร้างสมชื่อเสียงตัวเองมาจะทางไหนก็ตามแต่ สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเสือสิ้นลายออกจากสภาวันนั้น แล้วลาออกจากหัวหน้าพรรคพลังประชาชนเจ็บช้ำน้ำใจจนต้องเสียชีวิตไป จึงได้สมชาย วงศ์สวัสดิ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป สมชายเป็นน้องเขยของคุณทักษิณ ที่เป็นคนนี้เพราะคุณทักษิณสั่งได้แน่นอน ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน สิ่งที่ได้ทำไปพร้อมๆคือลดบทบาทของคุณเนวิน ชิดชอบ ท้ายที่สุดวันหนึ่งสมชายก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากให้ยุบพรรคพลังประชาชน เพราะมีการทุจริตเลือกตั้งที่ จ.เชียงราย โดยนายยงยุทธ พรรคยุบมีเงื่อนไขอันสำคัญคือ ส.ส.ที่อยู่ในพรรคแตกไปสังกัดที่อื่นได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในพรรคเดิมนะครับ นายสมชายหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่างูเห่าภาค 2 ขึ้น คุณเนวินไปจับมือกับสุเทพ เทือกสุบรรณ และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชูอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี หักทักษิณ ทักษิณเจ็บปวดมากลูกน้องเครือข่ายของทักษิณบอกว่า คุณเนวินเนรคุณ คุณเนวินแถลงทั้งน้ำตา

ยุคล : มีวลีอมตะที่เกิดขึ้นในตอนนั้นว่า "มันจบแล้วครับนาย"

สนธิญาณ : แต่นอกเหนือจากคำว่า "มันจบแล้วครับนาย" เอาสาระสำคัญที่คุณเนวินพูดวันนั้นมาขยายความให้ฟังสักหน่อย "...ผมเรียนยืนยันว่าผมและเพื่อนๆ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เราจะไม่ปกป้องและไม่มีเจตนาที่จะปกป้ององคมนตรีหรือใคร แต่การออกมาแสดงความคิดเห็นของพวกผมวันนี้ เป็นการออกมาแสดงความคิดเห็นด้วยความเป็นห่วงต่อการก้าวล่วงในพระราชอำนาจและพระราชอัธยาศัย ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คำพูดบางคำของแกนนำแม้นจะบอกว่าไม่มีเจตนาให้กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่พฤติกรรมและสิ่งที่สะท้อนมาจากพฤติกรรมของบุคคลบางคนที่อยู่บนเวทีมันฟ้องว่าอะไรเป็นอะไร แล้วนายกฯ ทักษิณที่พวกผมเคยรักก็ไปร่วมกับขบวนการนี้..." นี่คือคำที่คุณเนวินพูดนะครับ ไม่ใช่สนธิญาณพูด วันนั้นคุณเนวินบอกว่า "..อยากฝากถามไปยังท่านนายกทักษิณและแกนนำผู้ชุมนุมว่า  พวกคุณคิดว่าคุณรู้ดีกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรืออย่างไร พวกคุณคิดว่าพวกคุณเป็นใคร มีวินิจฉัยที่ดีกว่าพระบรมราชวินิจฉัยของพระองค์ท่านหรืออย่างไร..." "...คุณไปก้าวล่วงพระราชอัธยาศัยของพระองค์ท่านได้อย่างไร พวกคุณมีสิทธิอะไร..." "...พวกเราอยากทำความดีถวายพระเจ้าอยู่หัว สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดและเร็วที่สุดในการจงรักภักดี คือ การทำให้บ้านเมืองสงบสุข" นี่คือสิ่งที่คุณเนวิน ชิดชอบ พูดว่าสำหรับคำที่ถูกกล่าวหาว่าเนรคุณ "ผมถูกกล่าวหาว่า หักหลัง ทรยศ เนรคุณ ผมเรียนว่า กรณีผมกับนายกฯ ทักษิณ ไม่ใช่การหักหลัง แต่เป็นเรื่องของคนที่คิดต่างกันในทางการเมือง แยกกันเดินคนละทาง.. " ไม่ต้องพูดหรอกครับว่าเรื่องที่คุณเนวินบอกว่าต่างกันนั้น เพราะเรื่องที่คุณเนวินสรุปเป็นเบื้องต้น ณ เวลานั้น ว่าทักษิณไปร่วมกับขบวนการล่วงขบวนการสถาบันฯ ไปถึงขลวนการล้ม จึงเกิดรัฐบาลอภิสิทธิ์ขึ้น จึงเกิดการชุมนุมที่สนามรัชมังคลากีฬาสถาน ก่อกำเนิดของคนเสื้อแดงอย่างเป็นทางการ เกิด นปช. นำมาสู่การชุมนุมประท้วงในปี พ.ศ. 2552 และใน ปี พ.ศ. 2553 จนหลอกพาคนมาชุมนุมแล้วฆ่าเพื่อให้เกิดเหตุขึ้น โดยมีนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้หรือไม่ได้ ประชาชนคนไทยก็เห็นกัน กองทัพทหารกระโดดเข้าไปภายใต้รัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่ท้ายที่สุดน่าแปลกใจ อภิสิทธิ์ยุบสภาเลือกตั้ง ขนาดคนเสื้อแดงก่อเหตุอย่างนั้น พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่สามารถที่จะเอาชนะพรรคเพื่อไทยได้ เลือกตั้งใหม่พรรคเพื่อไทยโดยคุณยิ่งลักษณ์ จึงกลับมาเป็นรัฐบาล

ยุคล : เอาล่ะครับ คุณผู้ชมครับให้เห็นจากปี พ.ศ. 2540 เรื่อยมาจนถึงขมวดปมสำคัญก็คือคุณยิ่งลักษณ์ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองนี้จน คสช. ต้องเข้ามายุติปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งหมด จนล่วงเลยจนถึงปัจจุบันนี้ เดี๋ยวมาตามกันต่อในเบรคหน้า ช่วงนี้พักกันก่อนสักครู่เดียวครับ (พักช่วง)  เอาล่ะครับกลับมายังเบรคสุดท้าย เราพอเห็นภาพว่าสิ่งที่คุณสนธิญาณกำลังพูดถึงสถานะหรือบทบาทเส้นทางทางการเมืองที่อยู่ในมือของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ มาจนถึงพรรคเพื่อไทย ล้วนก่อให้เกิดปัญหาและเกิดวิกฤตต่อบ้านเมืองนี้เป็นอย่างยิ่ง นี่หรือไม่ที่ทำให้เป็นเหตุเป็นผลทำให้ คสช. หรือพลเอกประยุทธ์ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญยุติปัญหาคาราราซังทั้งหมดเหล่านี้ จนเดินมาถึงโอกาสครบรอบ 3 ปีของ คสช. ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เราไปฟังคุณสนธิญาณฉายภาพสิ่งที่เกิดขึ้นกันต่อครับ

สนธิญาณ : เราก็ต้องกลับมาตรงนี้ครับว่า พฤษภา53 ในขณะที่ นปช. และคนเสื้อแดง ป่าวร้องเรื่องการถูกเข่นฆ่า แต่ในข้อเท็จจริงได้เกิดเชื้อร้ายที่ต้องเรียกว่าเป็นมะเร็งร้ายของประเทศไทยอยู่มะเร็งหนึ่ง นั่นก็คือกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการฝึกฝนและจัดตั้งอย่างเป็นระบบในรูปแบบของกองทัพปลดแอก นายกรัฐมนตรีที่ชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะนั้นจะรู้หรือไม่ ผมก็ไม่รู้แต่คนที่มาบัญชาการในการแก้ไขปัญหาไม่ใช่ตัวนายกรัฐมนตรี แต่คือรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง คือ คุณสุเทพ เทือกสุวรรณ ที่มาทำงานร่วมกับกองทัพ นายกรัฐมนตรีลอยอยู่ข้างบน ปรากฏว่า เชื้อร้ายเหล่านี้แพร่กระจายอยู่ในประเทศไทยและเมื่อรัฐบาลหมดอายุลงด้วยการยุบสภา ไม่ได้หมดตามวาระ ในทางการเมืองต้องมีการประเมินว่าน่าจะชนะเขาแล้ว ถึงจะยุบสภา แต่กลับเลือกตั้งแพ้ ทำไมถึงแพ้ครับ แพ้เพราะว่าพรรคเพื่อไทยยังชนะอยู่ในภาคอีสาน ภาคเหนือเหมือนเดิมเหมือนที่เคยชนะมาทุกครั้ง ในกรุงเทพฯแม้จะเกิดเหตุอันมากมายมหาศาลเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้าแต่พรรคเพื่อไทยก็ยังรักษาฐานคะแนนของเขาเอาไว้ได้ ถือว่ารัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ล้มเหลว ถ้าไม่ล้มเหลวคนต้องเทเสียงให้ แต่นี่เทไม่ได้ เพราะว่าอะไรครับ เพราะระบบการเมืองของเรายังอยู่ในระบบจัดตั้งระบบอุปถัมภ์ แม้จะเลือกอีกกี่ครั้งผมเรียนนะครับว่าพรรคเพื่อไทยก็ชนะพรรคประชาธิปัตย์อยู่ดี เลือกตั้งปี พ.ศ. 2550 พรรคพลังประชาชนได้ ส.ส.มา 232 คน ประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. 165 คน ต่อมาเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554 พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. 265 คน เพิ่มขึ้นอีก พรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. 159 คน คุณอภิสิทธิ์เป็นคนนำในการเลือกตั้งนะครับ ตอนนี้ประกาศตัวจะลงสมัครหัวหน้าพรรคอีกครั้ง ต้องดูครับเลือกตั้งปี พ.ศ. 2550 ภาคเหนือพรรคประชาธิปัตย์ได้ 16 คน พรรคพลังประชาชนได้ ส.ส. 47 คน ภาคอีสานพรรคพลังประชาชนได้ ส.ส. 101 คน พรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. 5 คน ดูปี พ.ศ. 2554 ภาคเหนือ พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. 49 คน พรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. 13 คน ส่วนภาคอีสาน พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. 104 คน พรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. 4 คน ถามว่าคุณทำงานไหมตอนคุณเป็นรัฐบาล คุณได้ลงไปจัดตั้งไหม ได้ลงไปทำงานเคลื่อนไหวไหม ไปทำให้พี่น้องประชาชนในภาคอีสานเขารักเขาชอบคุณขึ้นมาไหม ไม่ได้ไปทำ เพราะถ้าทำผลการเลือกตั้งจากปี พ.ศ. 2550 - 2554 คุณเป็นรัฐบาลต้องดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้น โอกาสที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งทำให้เชื้อมะเร็งร้ายที่เป็นกองกำลังติดอาวุธขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพราะมีตำรวจอุ้มชู มีการฝึกซ้อมอาวุธกันตามสถานที่ต่างๆ นักการเมืองในระดับท้องถิ่นใช้บ่อดินฝึกอาวุธเพื่อไว้เตรียมการต่อสู้กับกองทัพ เพราะเขาเห็นภาพมาแต่ต้นแล้วว่า กองทัพไม่เอากับระบบทักษิณมาตั้งแต่คุณสมัครเป็นหัวหน้าพรรค จัดตั้งกองกำลังต่างๆ ก่อเหตุ เงินทองไหลมาเชื่อมโยง ผลปรากฏชัดตอนออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เห็นไหมในทางการเมืองหลายคนพยายามคัดค้านว่าทำไม่ถูกอย่าเลย เอาในพรรคเพื่อไทยเอง ทุบเปรี้ยงเดียวนิรโทษกรรมสุดซอยออก จึงเกิด กปปส. ขึ้น แล้วผลที่ปรากฏคือกองกำลังติดอาวุธที่ฝึกฝนอย่างดี ออกมาถล่มผู้ชุมนุม กปปส. อย่างยับเยิน ผมบอกนะครับว่าในขณะนั้นมีการเตรียมการในการที่จะต้านปฏิวัติ ถึงขนาดเอารถกระบะไปดามเหล็กเตรียมการจัดยึดยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพื่อเอาไว้ต่อสู้กับกองทัพ เกิดสงครามกลางเมืองหากกองทัพยึดอำนาจ และผมเรียนย้ำนะครับ เขาอยากให้ยึดอำนาจ แต่พลเอกประยุทธ์ฉลาดกว่า จึงไม่เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น  แต่หลังจากยึดอำนาจแล้วสิ่งเหล่านี้ยังมีต่อ  เกิดปรากฏการณ์ของนายมหาหิน ขุนทอง ที่ไปขว้างระเบิดหน้าศาลอาญา เมื่อโดนจับได้นายมหาหินบอกว่าเขาทำกันเป็นขบวนการเป็นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มละ 9-10 คน มาพูดคุยปรึกษาหารือกัน แสดงว่าไม่ได้มีกลุ่มนายมหาหินกลุ่มเดียว แต่มีอีกเป็น 100 กลุ่ม 1,000 กลุ่ม เราไม่รู้เพราะขบวนการนี้เป็นขบวนการปิดล้อมปิดลับอยู่ข้างในแบบเดียวกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่เคยทำ นายมหาหินเป็นประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่งสามารถพูดศัพท์อันลึกซึ้งทางการเมืองทางปกครองว่าต้องการเปลี่ยนประเทศเป็นสหพันธรัฐ นายมหาหินมาพูดสอดคล้องกับโกตี๋ ซึ่งเวลาห่างกัน 2-3 ปี ศัพท์เดียวกันครับ คำถามง่ายๆว่าทำไมนายมหาหินไม่พูดว่า เราจะเปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐ คือไม่ว่าจะเป็นสหพันธรัฐหรือสาธารณรัฐคุณต้องการล้มสถาบัน เขาคิดกันแบบนี้ เนื้อร้ายนี้แผ่กระจายไปทั่ว นี่คือความจริงที่ปรากฏขึ้น การจัดตั้งอันลึกลับซับซ้อนนับตั้งแต่จากมหาหินไปจนถึงโกตี๋ ยังดำรงคงอยู่ในปัจจุบัน รอที่จะจุดไฟ รอที่จะพร้อมขึ้นอย่างที่ขอนแก่นโมเดลที่ไปจับได้

ยุคล : คงจำกันได้นะครับคุณผู้ชมหลังจากที่ คสช. ยึดอำนาจ ซึ่งตอนนั้นมีการวางแผนโดยกองทัพเพื่อไปควบคุมกำลังของฝ่ายกลุ่มเสื้อแดง ตามต่างจังหวัดต่างๆ ก็คือพื้นที่ จ.ขอนแก่น ที่มีนายมีชัย ม่วงมนตรี เป็นแกนนำคนสำคัญ ซึ่งต่อมาก็มีการตรวจสอบพบหลักฐานเชื่อมโยงกับกองกำลังชุดดำในส่วนต่างๆ เช่นที่ จ.ชลบุรีจะเห็นภาพชัด ไปจับตอนนั้นได้หลักฐานชิ้นสำคัญก็คือใบเสร็จของนางเมย์ อียู หรือมนัญชยา เกตุแก้ว และอีกคนคือเปิ้ล กริชสุดา คุณะแสน พบรายการการส่งอาวุธให้กับกองกำลังชุดดำและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ดูแลกองกำลังติดอาวุธติดอาวุธเหล่านี้ปรากฏหลักฐานชัดเจน

สนธิญาณ : ข้อมูลที่คุณยุคลเล่าออกมาเป็นกระบวนการต่อเนื่องเชื่อมโยงกันมาโดยตลอด นั่นคือความจริงที่ปรากฏขึ้น ภายใต้ข้อมูลเชื่อมโยงแสดงว่าเชื้อร้ายของกองกำลังติดอาวุธ และพวกที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองยังดำรงคงอยู่ ถูกไหมครับ ภายใต้สิ่งที่ดำรงคงอยู่เราได้เห็นว่าพวกนี้ไม่ได้ยอมแพ้และยิ่งเหิมเกริมหนักขึ้น เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ไประเบิดที่ด้านหน้าโรงละครแห่งชาติซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่ท้องสนามหลวง เขาเจตนาต้องการตามที่ผมยกตัวอย่าง นั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ท้องสนามหลวง ที่ขอนแก่น ต้นแบบของขอนแก่นโมเดล วันนี้ครบ 3 ปี คสช. เดี๋ยวจะเลือกตั้งตามโรดแมป ผมมีคำถามกับท่านผู้ชมครับว่า พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในสองพรรคที่เป็นรัฐบาลใน 20 ปีที่ผ่านมาตามที่ท่านผู้ชมได้เห็น นายอภิสิทธิ์เสนอตัว แน่นอนถ้านายอภิสิทธิ์เสนอตัวโอกาสคงจะเป็นนายอภิสิทธิ์ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ เหมือนกับที่เราเห็นตัวเลือกแล้วหนึ่งคน อีกหนึ่งคนก็ต้องเป็นตัวแทนของทักษิณ ชินวัตร ไม่เจอแบบสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ต้องเจอแบบยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือเที่ยวนี้อาจจะเป็นพานทองแพ้ ชินวัตร ซึ่งออกมาพูดจาแสดงบทบาทในการออกความเห็นเรื่องบ้านเมือง ไม่ได้พูดจาหรอกครับ ขอโทษ ไม่รู้ว่ากล้าพูดหรือเปล่า ถ้ากล้าพูดอยากให้เชิญผมได้พูดกับพานทองแท้ที่วอยซ์ทีวีสักหน่อย แล้วไม่ใช่เป็นเรื่องข้ามช่องนะครับ ผมไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสปริงนิวส์ ผมมาจัดรายการในนามทีนิวส์ ทางเลือกของประเทศไทยมีอยู่เท่านี้ล่ะครับ เพราะฉะนั้นเราจะทำอย่างไรกันดี ถ้าท่านเห็นว่าพลเอกประยุทธ์บริหารบ้านเมืองมา 3 ปี ดีกว่า 2 พรรคที่ว่า ประชาชนก็ต้องไปคิดว่าจะต้องทำอย่างไรให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ไม่เช่นนั้นก็ปล่อยวางให้เป็นไปตามปกติ พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยสู้กันต่อไป แต่ผมเรียนนะครับเชื้อร้ายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศสหพันธรัฐได้ขยายตัวแทรกซึมในฐานะองค์กรลับ องค์กรเปิดเผยทำงานไม่ได้ ใช้องค์กรแนวร่วมขยายไปนักศึกษา ขยายไปยังนักวิชาการเชื่อมโยงไปต่างประเทศ เขาไม่เลิกครับ ใครจะไปต่อสู้กับพวกนี้ นี่เป็นคำถามที่ทิ้งเอาไว้ให้ประชาชนคนไทยได้คิด

ยุคล : เอาล่ะครับคุณผู้ชมครับ 3 ปี คสช. เป็นอย่างไร เบื้องต้นคุณสนธิญาณทิ้งท้ายเอาไว้ว่าอยู่ที่คุณผู้ชมจะเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ถ้าลองเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ของบ้านเมืองตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราเห็นโอกาสของคุณทักษิณ, คุณยิ่งลักษณ์, คุณสมชาย, คุณสมัคร, คุณอภิสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารบ้านเมืองแล้วเกิดอะไรขึ้น นั่นคือสิ่งที่คุณผู้ชมต้องเปรียบเทียบในโอกาสที่จะให้คำตอบกับครบรอบ 3 ปี ของ คสช. วันนี้ขอขอบคุณคุณสนธิญาณเป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณมากครับ ลาคุณผู้ชมแต่เพียงเท่านี้กลับมาพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้า สวัสดีครับ