สนธิญาณ ชี้!!คสช.ออกคำสั่งฉบับที่ 7/2560 แก้ไขการใช้มาตรา 44 เรื่องการโยกย้ายตำรวจ เท่ากับยอมรับมีการซื้อขายตำแหน่งจริง ย้ำ!! ต้องตรวจสอบว่า

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

รายการ สดลึกจริง ช่วง "สถาพรถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 27 มิถุนายน 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณชนุตรา เพชรมูล ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) บรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ ชี้!!คสช.ออกคำสั่งฉบับที่ 7/2560 แก้ไขการใช้มาตรา 44 เรื่องการโยกย้ายตำรวจ เท่ากับยอมรับมีการซื้อขายตำแหน่งจริง ย้ำ!! ต้องตรวจสอบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ใช้คำสั่งนี้จริงหรือไม่?

ชนุตรา : คงจะเป็นเรื่องการแต่งตั้งตำรวจค่ะ ล่าสุดคุณวิทยา แก้วภราดัยออกมาบอกว่าถ้าจะสอบปากคำเองต้องสอบไปที่ ผบ.ตร.ด้วยเพราะว่ามีข้อมูลดีที่สุดแล้วก็เยอะที่สุดค่ะ

สนธิญาณ : ก็ต้องถือว่าต้องติดตามสถานการณ์นี้นะครับ มันใช้คำว่าเป็นกระแสหรือการโยกย้ายตำรวจระลอก 2 นะครับ เพราะการออกมาเปิดประเด็นของคุณวิทยา แก้วภราดัยต่อเนี่ยนะครับ ก็แสดงว่าเรื่องเนี่ยจะต้องดำเนินการต่อไป และสาระสำคัญเนี่ยนะครับ ที่คุณวิทยา แก้วภราดัยบอกว่าในการสอบข้อเท็จจริงเรื่องการซื้อขายตำแหน่งเนี่ยนะครับ ซึ่งในขณะนี้เนี่ยสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งให้พลตำรวจเอกปัญญา มาเม่นนะครับเป็นประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเนี่ย คุณวิทยาก็บอกว่าต้องสอบปากคำ ผบ.ตร.ด้วย ไม่สอบไม่ได้ เพราะว่าเป็นผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง ทีนี้เราก็ต้องมาย้อนกลับกันดูครับว่าความหมายที่คุณวิทยาบอกว่าจะต้องสอบปากคำของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยมันมาจากประเด็นอะไร คือการโยกย้ายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเนี่ยนะครับ คุณชนุตรา มันมีระเบียบ มีกระบวนการ มีแบบแผนในการโยกย้าย มันมีอยู่ 2 วิธีการ ผมย้ำนะครับ วิธีการแรกเนี่ยนะครับก็คือวิธีการที่ให้หน่วยราชการซึ่งอยู่ในส่วนภูมิภาคเนี่ยนะครับเป็นคนจัดทำแผนโยกย้าย นั่นก็หมายความว่าแต่เดิมมาเนี่ยนะครับการโยกย้ายเนี่ยอยู่ในระดับกองบัญชาการ ทำงานอยู่ในกองบัญชาการ คำว่ากองบัญชาการนั่นก็หมายความว่าในแต่ละกองบัญชาการก็จะมีกองบังคับการนะครับหลายๆจังหวัด นี่ในระดับของที่อยู่ในภูมิภาค ถ้ากองบัญชาการอื่นๆเช่นกองบัญชาการสอบสวนกลางจะมีกองบังคับการปราบปราม ท่องเที่ยว นะครับ ก็ให้ย้ายกันอยู่ในระนาบนะครับ ส่วนระดับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ไปย้ายกันโน่นแหละครับในระดับบน คือระดับผู้บัญชาการขึ้นไป ระดับผู้บังคับการขึ้นไปก็ระดับผู้บัญชาการขึ้นไป ส่วนการย้ายระดับรองผู้บังคับการลงมาจนถึงระดับสารวัตรเนี่ยก็อยู่ในท้องที่ ทีนี้วันดีคืนดีเนี่ยนะครับก็มีคนไปบอกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าเนี่ยย้ายแบบนี้ไม่มีปัญหา ปรากฏว่าพลเอกประยุทธ์ก็ใช้อำนาจตามมาตรา 44 นะครับ ออกคำสั่งว่าการโยกย้ายเนี่ยนะครับให้มารวม อยู่ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นี่แหละครับที่มาของคำสั่งมาตรา 44 คำสั่งแรกเนี่ยนะครับ ผมย้ำว่าเป็นคำสั่งแรก อลหม่านอลเวงกันเลยล่ะครับ ปีแรกปีนั้น เพราะว่าปกติที่ผ่านมาเนี่ยแต่เดิมระดับกองบัญชาการเนี่ยมันก็เป็นการจัดทำบัญชีระดับกองบัญชาการอยู่แล้วว่า คนนี้จังหวัดนี้ คนนี้อยู่จังหวัดนี้ ย้ายอยู่ในจังหวัด หรือจะย้ายข้ามจังหวัดในภาคใกล้เคียงกัน ก็ทำกันมานะครับ แต่ละภาคะนึงนะครับ กองบัญชาการมีอยู่สิบกว่ากองบัญชาการนะครับ ก็จะมีกองบัญชาการที่โยกย้ายครั้งนึงก็ประมาณ 300-400 ตำแหน่ง มันก็ทำง่าย นึกภาพออกไหมครับ พอมาจัดรวบคนที่โยกย้ายเข้าด้วยกันทั้งหมด ปรากฏว่าทีนี้ล่ะครับ สามสี่ห้าพันตำแหน่งก็มารวมกันอยู่ที่ศูนย์กลางศูนย์เดียว จำได้ไหมครับ ย้ายไม่เสร็จในปี 58 ย้ายคนตาย ย้ายซ้ำย้ายซ้อน ย้ายโน่นย้ายนี่ อลหม่านอลเวง กลายเป็นปัญหาหลักของการโยกย้าย แล้วก็นั่นแหละครับทำให้เกิดเสียงกระหึ่มว่าเกิดการซื้อขายตำแหน่งในส่วนกลางอย่างรุนแรง เพราะว่าเมื่อเอามารวมศูนย์ อำนาจอยู่ที่ส่วนกลางนะครับ วงจรก็อยู่ที่นี่ที่เดียว ใครๆก็ต้องวิ่งมาที่ศูนย์กลาง ต่อมาจึงทำให้พลเอกประยุทธ์ออกคำสั่งมาอีกครั้งนึงนะครับ เนี่ยเพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 นะครับ ทีนิวส์ก็ได้รายงานข่าวไปแล้ว ที่ชัดเจนนะครับตอนที่บอกก็บอกว่าการโยกย้ายตำรวจเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ทั้งมิให้ผู้ใช้การแต่งตั้งเป็นช่องทางการเรียกรับผลประโยชน์อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย และปราศจากการธรรมาภิบาล แล้วก็ยิ่งก่อให้เกิดคับแค้นใจกับผู้ได้รับผลกระทบและอาจเป็นการผลักภาระให้กับประชาชน กลายเป็นวัฐจักรแห่งการทุจริตในวงราชการ ความไร้ประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายและการอำนวยความยุติธรรม จำเป็นต้องปฏิรูประบบบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจ ซึ่งรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ดำเนินการในบางเรื่องบางประเด็นไปแล้ว เนี่ยผมพูดว่าในคำสั่งนะครับของ คสช.ฉบับที่ 7/2560 นะครับ เคยใช้มาตรา 44 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 เนี่ยมันเท่ากับเป็นการยอมรับอยู่แล้วว่า มันมีการโยกย้ายจริง คำสั่งในครั้งนี้เนี่ยนะครับ แก้ออกมาเนี่ยให้นำการโยกย้ายเนี่ยกลับไปสู่ระดับกองบังคับการ ให้มีการตั้งรองผู้บังคับการมาติดตามดู ว่าการโยกย้ายทำบัญชีเนี่ยถูกต้องหรือไม่ แล้วถ้ามาในระดับกองบัญชาการก็ให้มีระดับรองผู้บัญชาการ ซึ่งนั่นหมายความว่าจะมีการสวมอำนาจกัน เพราะฉะนั้นในการเปิดประเด็นรอบสองเนี่ยนะครับ ในการที่จะลงไปดูเนี่ย วันนี้เนี่ยนะครับ นอกเหนือจากดูว่าข้อเท็จจริงมีการซื้อตำแหน่งในการโยกย้ายแล้วหรือไม่เนี่ยนะครับ ไปดูว่าคำสั่งที่ 7/2560 ของ คสช.เนี่ยนะครับได้ถูกใช้ปฏิบัติจริงหรือไม่ นี่เป็นประเด็นนึงนะครับที่ต้องติดตาม เพราะว่าถ้าใช้ปฏิบัติจริงการซื้อขายตำแหน่งลดลงอย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่ได้รับการปฏิบัติจริง อันนี้แหละครับเป็นประเด็นที่จะต้องรื้อการโยกย้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วก็ต้องดำเนินการตามที่คุณวิทยาว่า ให้รอไว้ก่อน ให้ปฏิรูปก่อน