"สนธิญาณ" ชี้ ! พล.อ.ประยุทธ์คุยพล.อ.บุญสร้าง มีธง "ปฏิรูปตำรวจ" จับตาตั้ง 5ประธาน-อนุกรรมการ ไม่มีตำรวจเลยสักคนแถมปชช.จับตาว่าสำเร็จหรือไม่

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

รายการ สดลึกจริง ช่วง "ชนุตราถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 13 กรกฎาคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณชนุตรา เพชรมูล ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) บรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

 

 


ชนุตรา : เข้ามาในช่วงนี้เราจะไปพูดคุยกับคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ซึ่งตอนนี้อยู่ในสายแล้วค่ะ สวัสดีค่ะคุณสนธิญาณ

 

สนธิญาณ : สวัสดีครับท่านผู้ชมไบรท์ทีวีและแฟนข่าวทีนิวส์ทุกท่าน

 

ชนุตรา : คงจะเป็นประเด็นเมื่อวานที่มีการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจที่นำโดย พล.อ.บุญสร้าง  เนียมประดิษฐ์ เมื่อวานมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาด้วยกัน 5 ชุด ใน 5 ชุดนี้ไม่มีตำรวจนั่งเป็นประธานเลยค่ะ การปฏิรูปครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ตามความคาดหวังของพี่น้องประชาชน

 

สนธิญาณ : ผมก็เรียนอย่างนี้นะครับ ประเด็นที่คุณชนุตรายกมานั้นดีมากทีเดียวครับ การที่ไม่มีตำรวจมาเป็นประธานอนุกรรมการทั้ง 5 ชุด ผมเห็นว่านั่นล่ะครับคือหนทางที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการปฏิรูป ก่อนหน้านี้มีผลการศึกษาของการปฏิรูปตำรวจจาก พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ นำเสนอแนวทางการปฏิรูปตำรวจจะต้องขยายองค์กรตำรวจเข้าไปอยู่กระทรวงยุติธรรม ต้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีชั้นยศจอมพลเท่ากับผู้บัญชาการทหารบก แบบนั้นล่ะครับเวลาตำรวจเข้ามาทำทิศทางจะนำพาไปสู่การขยายองค์กร แต่การปฏิรูปตำรวจที่แท้จริงแล้ว หากจะปฏิรูปกันหลักการข้อแรกคือต้องย่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เล็กลง เพื่อที่จะมุ่งโฟกัสไปที่การดูแลรักษาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในระดับชุมชน ในระดับพื้นที่ หรือในภาษาของ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ก็คือควรที่จะให้ตำรวจโฟกัสอยู่ที่โรงพัก เพราะโรงพักจะเชื่อมโยงกับประชาชน โรงพักจะเชื่อมโยงกับพื้นที่รักษาความสงบในพื้นที่ เข้าใจพื้นที่ ทุกความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ใครโจรใครคนดี ตำรวจทุกโรงพักรู้แบบนี้หมดก็จะเชื่อมโยงกันได้หมดครับ แต่ข้อเท็จจริงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติวันนี้ใหญ่เหลือเกินนะครับ จะมีกองบังคับการที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง แต่เป็นงานเฉพาะกิจเฉพาะด้าน เช่น ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจป่าไม้ อย่างนี้เป็นต้น เอามาไว้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำไม วันดีคืนดีก็ย้ายคนย้ายพรรคพวกเครือข่ายไปอยู่ที่ตำรวจป่าไม้ อยู่ปีสองปีเป็นผู้บังคับการหรือในระดับล่างลงมาก็ย้ายหนีไปอีก ตำแหน่งตรงอื่นก็เช่นเดียวกัน อยู่ท่องเที่ยวปีสองปีก็ย้ายอีก ในที่นั้น ๆ สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ ตำรวจป่าไม้ควรที่จะรู้เรื่องป่าไม้ ใกล้เคียงกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ คือรู้ตัวผู้กระทำผิดติดตามสอบสวนดำเนินการอยู่ในกลุ่มในเรื่องราวของตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ต้องคิดพิจารณาคือต้องย่อและขยาย ทีนี้ผมบอกว่าแนวโน้มจะนำพามาสู่การชัดเจน เพราะว่า พล.อ.บุญสร้าง ชัดเจนแล้วท่านนายกเลือกมาเอง ภาษาง่าย ๆ การปฏิรูปตำรวจครั้งนี้ที่ผมบอกว่าจะสำเร็จเพราะมีธงมาแล้วด้านบวก เราต้องย้อนรอยกลับไปสิ่งที่ท่านนายกพูด จะต้องติดตามใกล้ชิดไหม จะต้องปรับระบบการบริหารบุคคลการแต่งตั้งโยกย้ายใช่หรือไม่ สำนักงานตำรวจแห่ง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติเที่ยวไล่ฟ้องคนนู้นคนนี้ ดำเนินคดีกับคนนู้นคนนี้ที่พูดเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง ในคำสั่งการปฏิรูปพูดชัดเลย  ปัญหาหนึ่งต้องแก้ได้คือเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง ถามว่าทำไมต้องพูดเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้ที่นำพามาสู่การปฏิรูปตำรวจ เรื่องนี้กลายมาเป็นประเด็นของสังคมในขณะนี้ เพราะโครงสร้างที่ใหญ่เทอะทะ ทุกคนก็วิ่งขยับขยายมุ่งเข้าสู่ปลายทาง พอจะทำแบบนี้ก็ทำให้ปัญหาอย่างอื่นยุ่งไปหมด เริ่มวิ่ง ตำรวจล่างๆก็จะวิ่งตรงที่มีผลประโยชน์เยอะๆ มีอาบอบนวด มีบ่อน มีคาราโอเกะ มีโน่นมีนี่ นี่ราคาเริ่มสูง ตำรวจไม่มีเส้นไม่มีสายมีฝีมือก็ไปอยู่ไกล ๆ ที่มีเส้นมีสายฝีมือกลางๆ ก็ได้ขึ้นนะ ขยับอยู่นั่นแหละ เพราะฉะนั้นเราดูได้เลย คนที่ได้เป็น ผบ.ตร. ส่วนใหญ่ก็วิ่งปรูดปราดมาทั้งนั้น ขึ้นมาเป็นรอง พล.ต.อ. พล.ต.ท. ดังนั้น พล.อ.บุญสร้างน่าจะมีธงที่รับมาจากท่านนายก วันนี้การแต่งตั้งอนุกรรมการ 5 ชุด ด้านบริหารบุคคลชัดเจนเลยนะครับ พล.อ.บุญสร้างมานั่งเป็นประธาน นี่เรื่องการโยกย้ายโดยเฉพาะนะครับ ดูแลนะปัญหาใหญ่เกิดขึ้นกับตัวเองในการที่จะจัดการ ก็บังคับใช้กฎหมาย ให้ท่านธานิศ เกศวิพิทักษ์ ประธานศาลฎีกามาเป็นคนดูแลจัดการ ดำเนินการว่าจะดูทางด้านกฎหมายอย่างไร คนที่สามก็ไม่ธรรมดาอนุกรรมการด้านหน้าที่และภารกิจของตำรวจ ท่านมนุษย์ วัฒนโกเมร ท่านนี้เป็นคนที่ผมสนิทสนมตั้งแต่ยังเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี, ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร จนเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นนักวิชาการที่เกาะติดและทำงานมาอย่างดี ด้านรับฟังความคิดเห็น พล.อ.สิทธิพร อุดมชาติ อนุกรรมการด้านวิชาการ ก็มี ดร.ศุภชัย ยาวะประภาษ ดูแบบนี้วันนี้สังคมจับจ้องมองเรื่องนี้สำคัญถึงขนาดเอาไปบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญว่าต้องทำให้เสร็จภายในหนึ่งปี การปฏิรูปตำรวจมีความสำคัญอันเกี่ยวเนื่องและเชื่อมโยงจากความนิยมชมชอบและการอยู่ได้ของรัฐบาล คสช. งานนี้นะครับล้มเหลวไม่ได้ ถ้าล้มเหลวพล.อ.ประยุทธ์เสียหายแน่นอน สะเทือนแน่นอน ความนิยมเสื่อมทรุดแน่นอน นี่คุยกับแบบตรงไปตรงมาถ้าไม่เอาจริงเอาจัง แต่รูปการณ์อย่างนี้เห็นว่าเอาจริงเอาจังแน่