"สนธิญาณ" ชี้ !! การปฏิรูปตำรวจ เที่ยวนี้การมีส่วนร่วมของประชาชนในการแสดงความคิดเห็น ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ!!

"สนธิญาณ" ชี้ !! การปฏิรูปตำรวจ เที่ยวนี้การมีส่วนร่วมของประชาชนในการแสดงความคิดเห็น ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ!!

รายการ สดลึกจริง ช่วง ชนุตราถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ ประจำวันที่ 17 กรกฎาคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณชนุตรา เพชรมูล ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) บรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

ชนุตรา : กลับเข้ามาในช่วงนี้เราจะไปพูดคุยกับคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ตอนนี้อยู่ในสายแล้ว สวัสดีค่ะคุณสนธิญาณ 

 

สนธิญาณ : สวัสดีครับคุณชนุตรา สวัสดีครับท่านผู้ชมไบรท์ทีวีและแฟนข่าวทีนิวส์ 

 

ชนุตรา :  ผลโพลล่าสุดของการปฏิรูปตำรวจ ตอนนี้ประชาชนไม่อยากเห็นตำรวจที่รีดไถรับส่วยแล้ว ไม่อยากเห็นตั้งด่านลอยแล้ว เขาต้องฝากความหวังไว้ที่ปฏิรูปตำรวจค่ะ ว่าจะทำความฝันให้เป็นความจริงได้หรือไม่

 

สนธิญาณ : ความจริงไม่จำเป็นต้องทำโพลเลย เป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วเรื่องรับส่วย เรื่องความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อตำรวจเป็นเรื่องที่รู้กันในสังคม รับรู้กันได้อยู่แล้ว ทีนี้ถามว่าวันนี้การปฏิรูปจะทำให้ความฝันเป็นความจริงได้หรือไม่ ย้อนรอยกลับไปดูที่อาจารย์สังศิต พิริยะรังสรรค์ สัมมนากันน่าสนใจตรงประเด็นนี้ ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือการเข้าไปมีส่วนร่วมของประชาชน คือเรื่องตำรวจมีอยู่ 2 เรืองใหญ่ ถ้าทำ 2 เรื่องนี้ให้จบ เรื่องอื่นก็จะคลี่คลายตาม เรื่องแรกก็คือย่อองค์กรตำรวจเสีย เรื่องตำรวจสัมพันธ์กับชุมชน ตามที่ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ พูดและทุกหน่วยงานที่ศึกษางานปฏิรูปตำรวจก็ต้องย่อ ตำรวจตรวจชุมชน ตำรวจตรวจโรงพัก ตำรวจตรวจชาวบ้าน รู้ปัญหาในพื้นที่ในชุมชน จะให้ตำรวจคิดไกลไปกว่านั้นจะนำพาไปสู่การวิ่งเต้น จะนำพาไปสู่การซื้อขายตำแหน่งเพื่อที่จะยกฐานะตัวเองให้สูงขึ้น ดังนั้นข้อเสนออันแรกที่ทุกสายพูดเหมือนกันหมดคือ ตำรวจควรอยู่กับจังหวัด ตำรวจควรขึ้นกับผู้ว่าราชการจังหวัด ตอนนี้ไม่ต้องมาอ้างนักการเมือง นี่ให้ชัดเจนเลยว่าตำรวจต้องอยู่กับจังหวัดนี่เป็นประเด็นแรก ประเด็นถัดมาก็คือแยกงานสอบสวนออกจากงานจับกุมและปราบปราม งานสอบสวนเป็นงานยุติธรรมมีประเด็นอันสลับซับซ้อน เช่น เมื่อก่อนตำรวจหมายจับ ตำรวจออกหมายจับเองได้เลย ฉะนั้นตำรวจจะจับใครก็จับเลย ตำรวจกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง จับไว้ก่อน ผู้บังคับบัญชาสั่ง นักการเมือที่เป็นผู้บังคับบัญชาที่เป็นเจ้านายสั่ง จับก่อน ต่อมาเป็นการถ่วงดุลว่าศาลจะต้องเป็นผู้ออกหมายจับ ตำรวจจะจับใครต้องไปขอต่อศาล จะต้องไปดำเนินการต่อศาลว่าคนนั้นเป็นคนร้าย ซึ่งสอบสวนแบบเดียวกัน  ซึ่งสอบสวนเมื่อก่อนมีการแยกกันนะครับ มีทั้งตำรวจและฝ่ายปกครอง  ฝ่ายปกครองหมายความว่าอยู่ที่อำเภอ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ เพื่อที่จะอำนวยความยุติธรรมและดำเนินการในเรื่องให้กับประชาชนในการถ่วงดุล ไม่ให้ตำรวจใช้อำนาจ เมื่อจับกุมก็สอบเอง เพราะฉะนั้นตำรวจอยากไปแกล้งใครแล้วสอบมาสร้างหลักฐานพยานเองได้หมด ไม่มีการที่จะทำให้เกิดระบบการตรวจสอบในงานยุติธรรมก็ต้องแยกงานสอบสวนออกมา ถึงพูดกันมาก งานสอบสวนจะเอาไว้ที่ไหน จะขึ้นเป็นสำนักงานสอบสวนแห่ชาติเลยได้ไหม หรือเอาไปไว้ความหมายที่เอาตำรวจไปไว้กระทรวงมหาดไทยก็คล้าย ๆ แบบนี้ หรือเอาตำรวจไปไว้กระทรวงยุติธรรม ก็เพื่อที่จะแยกงานสอบสวนออกมาเป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง ก็จะมีกรมการปกครองกับกรมสำนักงานตำรวจอย่างนี้ล่ะครับ ในส่วนของตำรวจเองที่ทำงานทางด้านการสอบสวนเขาก็อยากแยกออกมา ยกตัวอย่าง พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร ซึ่งเป็นที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขามีองค์กรนะครับ ตำรวจที่มาจากสายสอบสวนเขาอัดอั้นตันใจคับแค้นใจ อยากจะแยกออกมา อยากจะทำงานเพื่อที่จะตรวจสอบฝ่ายจับกุม ปรากฏว่า เมื่อก่อนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเองแยกเป็น 2 ส่วน วันดีคืนดีการโยกย้ายตำแหน่งอุดตันเคลียร์ไม่ได้ เขาบังคับคำสั่งให้ย้ายตำรวจฝ่ายงานอื่นเข้าไปในงานสอบสวนได้ ไปเปิดช่องเปิดประตูปรากฏว่า งานสอบสวนซึ่งเป็นงานเฉพาะตำรวจก็ไปก็มาอยู่ได้ ตำรวจโรงพักก็มาอยู่ได้ ตำรวจป่าไม้ก็มาอยู่ได้ ทั้ง ๆ ที่ความจริงก็ต้องย่อตำรวจป่าไม้กับกรมป่าไม้ กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทรัพยากรไปนู่น ตำรวจท่องเที่ยวก็ไปอยู่กระทรวงท่องเที่ยว อย่าว่าแต่ตัวใหญ่ ๆ เอาเล็ก ๆ แบบพนักงานสอบสวน นี่สองเรื่องซึ่งเป็นเรื่องหลักไปแน่นอนอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องที่อาจารย์สังศิตว่า เอาให้ชัดเจนเที่ยวนี้ ระหว่างของการปฏิรูปถามว่า พอมีอนาคตไหม ก็พอมีอนาคต พล.อ.บุญสร้าง มา พล.อ.ประยุทธ์เลือกเอง สองดูนะครับประธานเขาย้ำชัดเจนตรงที่ว่าไม่ได้เป็นตำรวจ กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญนะครับ แต่ประธานอนุกรรมการ 5 ชุด เขาก็ไม่เอาตำรวจนะครับ สิ่งที่ทำให้มีความหวัง แต่สำคัญที่สุดที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เที่ยวนี้ถ้าไม่สำเร็จ ผมเรียนเลยนะครับที่ผ่านมาถูกยื้อโดยตำรวจมาโดยตลอด ปฏิรูปที่ทำไม่สำเร็จ ตำรวจนักการเมืองโยงใย ผู้มีอำนาจทั้งหลาย เที่ยวนี้ปฏิรูปไม่เสร็จ แต่ตำรวจเสร็จนะครับ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ย้ายตามระบบอาวุโส 100 เปอร์เซ็นต์ กว่าจะแก้รัฐธรรมนูญได้ไม่รู้จะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าพล.อ.บุญสร้างจะทำเสร็จ จะได้ดังใจประชาชนหรือไม่นี่ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนจะต้องช่วยกัน เหมือนที่อาจารย์สังศิต พยายามจะทำ ทำให้เหมือนฝ่ายเลขาฯระดุมความเห็น เพราะพล.อ.บุญสร้างบอกว่าจะรับฟังความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เที่ยวนี้ช่วยกันออกความเห็นครับ ให้การปฏิรูปตำรวจสำเร็จให้ได้