แม่พูดทั้งน้ำตา นอนเจ็บท้องแทบขาดใจ ตะโกนเรียกพยาบาลกลับนอนเฉย สุดท้ายรกพันคอลูกดับคาท้อง

แม่พูดทั้งน้ำตา นอนเจ็บท้องแทบขาดใจ ตะโกนเรียกพยาบาลกลับนอนเฉย สุดท้ายรกพันคอลูกดับคาท้อง

เมื่อวาน(6 ธ.ค.) ได้รับเรื่องร้องจากสามีภรรยาคู่หนึ่ง เสียลูกชายที่กำลังจะเกิด ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้เห็นหน้าลูกน้อย แต่กลับได้รับข่าวร้าย เมื่อได้รับแจ้งว่าลูกได้ถูกรกพันคอและได้เสียชีวิตคาท้อง เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งแทนที่จะได้อุ้มลูกน้อยกลับบ้านครอบครัวมีความสุข แต่ต้องมาเจอข่าวร้ายทำหัวอกคนเป็นพ่อแม่สลาย

แม่พูดทั้งน้ำตา นอนเจ็บท้องแทบขาดใจ ตะโกนเรียกพยาบาลกลับนอนเฉย สุดท้ายรกพันคอลูกดับคาท้อง

 

เมื่อได้ตรวจสอบ พบกับ น.ส.ปริชาติ อายุ 41 ปี และนายวิเชียร อายุ 34 ปี หมู่ที่ 9 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี  ซึ่งเป็นพ่อแม่ของ ด.ช.อภิวัฒน์ เด็กน้อยในครรภ์ 9 เดือน ที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก ที่ยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้า หลังเพิ่งทำพิธีฌาปนกิจศพลูกชายได้เพียงวันเดียว โดย น.ส.ปริชาติ ได้เล่าว่า เช้าของวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 09.00 น. จู่ๆ ก็ปวดท้อง จึงรีบพามาโรงพยาบาล พยาบาลห้องคลอดเวรเช้าบอกว่าปากมดลูกเปิดไม่เยอะ แต่ตนเองรู้สึกเจ็บท้องถี่มากขึ้น ทุก 15 – 20 นาที โดยที่พยาบาลก็เข้ามาตรวจ และบอกว่าปากมดลูกยังเปิดไม่เยอะต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน

รอจนถึง ตี 3 ซึ่งตนเองก็รู้สึกว่าเจ็บท้องมากขึ้นน้ำเริ่มเดินแล้ว ซึ่งลูกก็ยังปกติ ดิ้นดี จนตี 4 ตนรู้สึกน้ำเดินมากขึ้นและเริ่มมีความรู้สึกผิดปกติของลูกที่ดิ้นแรงมากขึ้น และท้องเกร็งแข็ง ก่อนจะค่อยๆ เงียบลง ตนก็ได้ตะโกนบอกพยาบาล ซึ่งตนจะเรียกพยาบาลคนนี้ว่าหมอ"หมอหนูเจ็บมากแล้วนะหนูไม่ไหวแล้วนะ ส่งตัวหนูไปโรงพยาบาลราชบุรีที" ซึ่งพยาบาลคนดังกล่าวก็ตอบกลับมาว่า"ใบส่งตัวไม่ได้กันมาง่ายๆ หรอก เพราะโรงพยาบาลราชบุรีไม่ได้รับคนง่ายๆ และนี่มันก็ดึกแล้ว" และทีนี้ตนก็เลยบอกว่า"หนูเจ็บไม่ไหวแล้วนะ"

 

แม่พูดทั้งน้ำตา นอนเจ็บท้องแทบขาดใจ ตะโกนเรียกพยาบาลกลับนอนเฉย สุดท้ายรกพันคอลูกดับคาท้อง

 

ก่อนที่พยาบาลคนดังกล่าวพูดกับตนเองว่า “ทำยังไงได้ก็ต้องทนเอาสิ” ซึ่งก็นอนพูดอยู่กับเตียงที่เขานอนอยู่ ซึ่งก็อยู่ตรงข้ามกับเตียงของตนเอง พอมาจนถึงเวลา 05.00 น. พยาบาลคนดังกล่าวได้เดินเข้ามาตรวจดูปรากฏว่าเด็กไม่หายใจ พยาบาลจึงรีบไปตามหมอเข้ามาดู เมื่อแพทย์เข้ามาและอัลตราซาวด์ดูพบว่าเด็กไม่หายใจแล้ว จนเวลา 06.00 น. หมอได้ตามให้สามีเข้ามาและแจ้งว่าเด็กเสียชีวิตแล้วในครรภ์ ตนจึงถามหมอกลับไปว่า “ทำไมตอนตี 4 ตนเจ็บท้องหนักทำไมไม่ส่งไปที่โรงพยาบาลราชบุรี ทำไมไม่ลุกขึ้นมา ทำไมไม่ช่วยหนู แล้วเอาแต่นอน ห่วงนอนทำไม” ตนก็ว่าตามนี้ จนกระทั่งนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านและเวลาเพียงแค่ 3 คืน ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจศพเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.61

 

แม่พูดทั้งน้ำตา นอนเจ็บท้องแทบขาดใจ ตะโกนเรียกพยาบาลกลับนอนเฉย สุดท้ายรกพันคอลูกดับคาท้อง

 

เมื่อสอบถามผู้เป็นพ่อ นายวิเชียร ผู้เป็นสามีของน.ส.ปริชาติ ยอมรับว่าตนเห่อมาก กะว่าจะตั้งชื่อลูกชายว่า "น้องโฮม" ชื่อจริงว่า "อภิวัฒน์"  ไม่นึกว่าจะไม่มีโอกาสแม้แต่ได้เรียกชื่อลูก ตอนนี้พูดไม่ออกได้แต่เครียด “แทนที่จะได้อุ้มลูก ต้องมาอุ้มโลงศพลูกแทน”

ล่าสุด ด้าน นพ.ประเสริฐ ฉัตรวิชชานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปากท่อ กล่าวว่า ตามปกติแล้ว หากมีกรณีคลอดผิดปกติ แพทย์จากโรงพยาบาลปากท่อจะปรึกษาสูติแพทย์ของโรงพยาบาลราชบุรีก่อนทุกราย แต่สำหรับคนไข้รายนี้ เกิดอัตราการเต้นของหัวใจของเด็กแปรปวน โดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนภาวะสายสะดือพันคอทารกนั้น ถือเป็นเหตุสุดวิสัย ส่วนเรื่องที่ไม่ได้ส่งตัวผู้ป่วยไปโรงพยาบาลราชบุรีนั้น เพราะเห็นว่าผู้ป่วยมีการคลอดปกติ ประกอบกับการส่งตัวจะต้องทำตามขั้นตอนและพิจารณาว่า อาการของผู้ป่วยนั้นเข้าเกณฑ์หรือไม่ ส่วนช่วงจัดงานศพนั้น เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก็ไปร่วมงานด้วย แต่ในวันสุดท้าย เจ้าหน้าที่ไม่ได้ไปเพราะติดงาน แต่ทั้งนี้ โรงพยาบาลก็จะดูแลเรื่องของความช่วยเหลือต่าง ๆ เท่าที่สามารถช่วยได้ และจะพยายามดูแลอย่างดีที่สุด

 

แม่พูดทั้งน้ำตา นอนเจ็บท้องแทบขาดใจ ตะโกนเรียกพยาบาลกลับนอนเฉย สุดท้ายรกพันคอลูกดับคาท้อง

 

ซึ่งในช่วงบ่ายของวันนี้ คุณวิเชียร ปานดาทอง อายุ 34 ปี คุณปริชาติ บัวทอง อายุ 41 ปี พ่อแม่ และญาติ เดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ที่ศาลากลางจังหวัดราชบุรี