"สนธิญาณ" ชี้ชัด!! "ปฏิทิน "แม้วปู เป้าหมายชัดต้องการให้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ย้ำ!! คสช. ตกหลุมพราง ต้องสั่งหยุดกิจกรรมทุกอย่างเท่านั้น

 

 

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 6 มกราคม 2559  ออกอากาศทางช่องทีนิวส์  ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการ บริษัททีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

 

ยุคล : สวัสดีครับพี่ต้อย

 

สนธิญาณ : สวัสดีครับเเฟนข่าวทีนิวส์ทุกท่าน เอาเรื่องปฎิทิน อุทยานราชภักดิ์เล็กๆน้อยๆในข่าวสารอย่างนี้ยังกลายเป็นประเด็นปัญหาอยู่ ผมอยากจะย้ำเรื่องอุทยานราชภักดิ์ว่า มูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ไม่ได้เเค่เปลี่ยนชื่อ เเต่คือการที่วันนี้ได้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช คำว่าอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ถือว่าชัดเเล้วว่ามูลนิธิหรือองค์ใดก็เเล้วเเต่จะได้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์เนี่ยว่าต้องผ่านการตรวจสอบว่าเป็นมูลนิธิที่มีประโยชน์ มีคุณค่ามีความดีมีความงามอย่างเพียงพอถึงได้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์  เมื่ออยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์เเล้ว ถึงได้ไปเปลี่ยนชื่อเพิ่มเติมเข้าไป ฉะนั้นผมจึงขอเรียนไปถึงท่านผู้ชมให้ได้รับทราบตามนี้ ส่วนใครก็ตามเเต่ที่ยังเคลื่อนไหวต่อไป ยังพยายามหยิบเรื่องอุทยานราชภักดิ์ เรื่องมูลนิธิ มาเป็นประเด็นทางการเมืองต่อไปก็ตามเเต่ใจของท่านเถอะครับ เเต่ขอเรียนย้ำให้ชัดเจนอย่างที่เรียนย้ำไปเเล้วว่า ไม่ใช่เเค่เปลี่ยนชื่อ เเต่คือมูลนิธิอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ผมย้ำเลยว่าคนที่ทำให้กลายเป็นประเด็นทั้งหมดคือ พลตรีกับพันเอก ซึ่งมีปัญหาในเรื่องมาตรา 112 จากกรณี "bike for mom" กับหมอหยอง บุคคลเหล่านี้มาเกี่ยวข้องกับมูลนิธิกับอุทยานราชภักดิ์ก็เพราะว่าเป็นคนสนิทของ พล.อ.อุดมเดช ในวันนี้ทั้งสองคนถูกดำเนินคดี ชัดเจนเเล้วว่าถูกดำเนินคดี เเสดงว่าทั้งสองคนไม่ได้มีพฤติกรรมมาเกี่ยวข้องกับมูลนิธิเเละอุทยานราชภักดิ์เเล้ว ดังนั้นมูลนิธิจึงได้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ เเละมีพล.อ.อุดมเดช เป็นประธานเหมือนเดิม เพียงเเต่เพิ่มเติมกรรมการเข้าไป เพื่อทำงานได้คล่องตัวเเละเป็นประโยชน์กับประชาชนมายิ่งขึ้น เรื่องนี้ขอย้ำ

 

 

สนธิญาณ : เรื่องปฎิทินพูดกันไปพูดมา ผมจะย้ำว่า สาระมันไม่ได้อยู่ที่เรื่องปฎิทิน ปฎิทิน 3 เเสนฉบับ ไม่ก่อเรื่องสั่นสะเทือนทางการเมือง ไม่สามารถที่จะทำให้คนที่เอาปฎิทินไปรักคุณทักษิณ-คุณยิ่งลักษณ์มากขึ้น เเต่คนทำปฎิทินรู้อยู่เเล้วว่าทำปฎิทินมาเเล้วเอาไปเเจกจ่ายมันต้องกลายเป็นประเด็นเป็นปัญหาทางการเมือง คือรู้อยู่เเล้วว่าไม่เหมาะสม นักโทษหนีคดีเอาตัวเองมาทำเป็นปฎิทิน มันไม่เหมาะสม รู้อยู่เเล้วว่า คสช. ต้องห้าม เเละยิ่งเอาไปเเจกในหน่วยราชการระดับอำเภออย่างนี้เป็นต้น เเสดงว่าที่ทำมาต้องการให้เป็นประเด็นทางการเมือง ทำให้เกิดประเด็นถกเถียง วิพากวิจารณ์ ผมย้ำนะท้ายที่สุด การที่รักษาความรู้สึกมวลชนที่สนับสนุนอยู่ การรักษาฐานมวลชนที่สนับสนุนอยู่ก็จะหล่อเลี้ยงกระเเสนี้ต่อไป กระเเสการถูกรังเเกก็เหมือนที่คุณจตุพรมาพูด "อะไรปฎิวัติมาจะมีปัญหากับปฎิทิน" การเล่นคำนี้เพื่อจะนำพาการไปสู่ความตอกย้ำในเรื่องของมวลชนที่ถูกรังเเก ก้จะได้เป็นประเด็นทางการเมืองที่จะได้รักษางื่อนไขการเคลื่อนไหวให้เป็นประเด็นต่อไปหมดจากเรื่องปฎิทินจะมีเรื่องอื่นมาเลี้ยงกระเเสอีก เพราะฉะนั้นตอนนี้ ผมก็กลับไปที่เดิมที่เคยน้ำเสนอว่า คสช. ต้องสรุป เพราะตัวเองเป็นคณะปฎิวัติ  การปฎิวัติมาล้มรัฐธรรมนูญการมาจากการโน้นนี้นั่นก็เป็นเรื่องของเผด็จการอยู่เเล้ว เผด็จการต้องเผด็จการให้จริงเเต่ต้องตอบประชาชนให้ได้ว่าเป็นการเผด็จการเพื่อประชาชนไม่ใช่พาพาบ้านเมืองไปสู่ความวุ่นวาย มีโอกาสไปเเลกเปลี่ยนข้อมูลกับคนให้พรรคเพื่อไทยที่เป็นเเหล่งข่าวผมมีเรื่องน่าสนใจเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง ความจริงนักการเมืองที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยก็เบื่อหน่าย นปช. เต็มที่เเล้วเหมือนกัน เรื่องนี้ผมไม่ได้เสี้ยมนะ คือบอกว่าจะเคลื่อนไหวไปทำไมหนักหนา เพราะไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวอะไร เพราะเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยก็ชนะอยู่เเล้ว ไปสร้างไปก่อกวนไปสร้างประเด็นขึ้นมา เเต่จะหมายถึงคุณทักษิณด้วยหรือเปล่า ผมไม่รู้ ?  เเต่ชัดเจนคือนักการเมืองที่อยู่ในระบบเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ไม่อยากเห็นความเคลื่อนไหวของ นปช. เพราะเค้ามั่นใจว่าเลือกตั้งไปเค้าก็ชนะพรรคประชาธิปปัตย์ ฉะนั้นเมื่อชนะอยู่เเล้วไม่ควรจะไปสร้างเเรงเหวี่ยง เเรงเกลียดชังในทางการเมือง เเต่ควรนำเสนอเรื่องสร้างสรรค์อย่างนี้เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้นเค้ายังเชียร์คุณอภิสิทธิ์ด้วยนะว่าให้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปอย่าไปเอาคนอื่นมา เพราะถ้าเอาคนอื่นมาเค้าอาจจะเพรียงพล้ำได้ เรื่องนี้ผมไม่ได้มุขเลยนะ เค้าบอกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ลงรับเลือกตั้งชิงตำเเหน่งนายกฯ  ชิงความเป็นรัฐบาลในครั้งหน้า ต้องคุณอภิสิทธิ์เท่านั้น เพราะเป็นผุ้ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยให้ได้ไปสู้ชัยชนะ พูดจริงนะครับ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย หรือ นปช. ก็เอาข้อนี้ไปไตร่ตรองดู ถือว่าเป้นเเหล่งข่าวระดับสูงในพรรคเพื่อไทยที่นั่งเเลกเปลี่ยนสถานการณ์การเมืองกัน เอามาเล่าให้ฟัง