หนุ่มแค้นใจ ! ผูกคอตายประชดรัก หลังแฟนเก่าคบหาเพื่อนตัวเอง

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.Tnews.co.th


หนุ่มก่อเหตุเผาจยย. - กระบะและทำร้าย รปภ.อพาร์ตเมนต์ย่านบางเขน เขียนตัดพ้ออย่าเชื่อใจผู้หญิง ก่อนผูกคอตายภายในหอพัก ตำรวจคาดว่าคับแค้นใจเรื่องความรัก เพราะแฟนเก่าคบหากับเพื่อของตัวเอง

 

วันนี้  (19 ม.ค.)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.ของวานที่ผ่านมา ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธาภิรมย์ ผกก.สน.บางเขน พร้อมด้วย พ.ต.ต.สราวุธ บุตรดี พงส.ผนก.สน.บางเขน พ.ต.ท.เสน่ห์ มนีฉาย สว.สส.สน.บางเขน พ.ต.ท.สมชัย ทองสุข สวป.สน.บางเขน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบหอพักไม่มีชื่อ เลขที่ 14/461 ห้อง 402 ชั้น 4 ซอยรามอินทรา 19 แยก 15 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. หลังสืบทราบว่า นายปฐพี ธนะวิบูลย์ศิริ อายุ 34 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีวางเพลิงได้มาหลบซ่อนอยู่ที่ห้องดังกล่าว

 

สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 02.00 น. วันเดียวกันที่ผ่านมา เกิดเหตุมีผู้บุกรุกเข้าไปวางเพลิงรถจักรยานยนต์ รถกระบะ ได้รับความเสียหาย จำนวน 3 คัน และทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บภายในสินทวี อพาร์ทเม้นท์ เลขที่ 21 ซอยรามอินทรา 23 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.

 

น.ส.ฐิติพร สาแขม อายุ 35 ปี ให้การว่า นายปฐพี ธนะวิบูลย์ศิริ อายุ 34 ปี อาจจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.ฐิติพร เคยคบหากับนายปฐพีแล้วเลิกรากันไปเมื่อประมาณ 5 เดือนก่อน นอกจากนี้ เคยเกลี้ยกล่อมให้นายปฐพีที่พยายามฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2558 ด้วยการกระโดดตึกจากอาคาร SCB สำนักงานใหญ่ จนยอมลงมาเป็นผลสำเร็จ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า บริเวณหน้าห้องน้ำ สภาพสวมเสื้อกีฬาสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ใช้เชือกสีขาวผูกกับขื่อห้องน้ำ ใกล้กันพบเก้าอี้ล้อเลื่อน บริเวณฝาผนังห้องพบข้อความถูกเขียนด้วยลายมือลงในกระดาษ A4 ติดอยู่จำนวนมากกว่า 10 แผ่น โดยข้อความส่วนหนึ่งได้สั่งเสียถึงญาติไม่ให้ประกอบพิธีศพ ขอขมาพ่อแม่ที่ทำให้เสียใจ พร้อมทั้งได้ตัดพ้อเรื่องความรักที่ถูกหักหลัง ใจความหนึ่งระบุว่า “รักต้องฆ่า แค้นต้องชำระ...” “อย่าเชื่อใจผู้หญิงคนไหน นอกจากแม่ของตัวเอง...” นอกจากนี้ ยังได้เขียนข้อความขอโทษ รปภ. ที่ได้ทำร้ายร่างกายไป

 

ทั้งนี้  เจ้าหน้าที่ สันนิษฐานว่า สาเหตุดังกล่าวเกิดจากความเครียดเรื่องความรักและกลัวความผิดที่ก่อเหตุไว้ จึงตัดสินใจจบชีวิต ก่อนที่จะประสานให้ทางญาตินำศพผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

 

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณ http://manager.co.th/