"คสช." เตือน "เต้น" หยุดพล่ามสร้างความสับสน -หลังจิก "บิ๊กตู่" อยู่เหนืออำนาจอธิปไตย !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

"พ.อ.วินธัย สุวารี" ออกโรงเตือน "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" หยุดสร้างวาทะกรรมให้สังคมปั่นป่วน สับสน - ลั่น คสช.ไม่เคยดูหมิ่นความเห็นของประชาชน !! - ชี้ปมเหน็บ "พล.อ.ประยุทธ์" แค่แสดงความเห็นเชิงการเมือง ...

 

วันนี้ (28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แสดงความเห็นกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.มีข้อสรุปอยู่ในใจถึงการแก้ปัญหาประเทศ หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการทำประชามติ เท่ากับเป็นการเน้นย้ำอำนาจของตัวเองอยู่เหนืออำนาจอธิปไตยของประชาชน ว่า น่าจะเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคลในเชิงการเมือง และทัศนคติส่วนตัวที่มีต่อ คสช.ซึ่งเนื้อหาเหมือนต้องการชี้นำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิด ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับเพียงหัวหน้า คสช.ซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น และเชื่อว่าสังคมทั่วไปก็ไม่ได้เข้าใจเช่นนั้น ถือเป็นความพยายามที่จะสร้างวาทะกรรมชี้นำความรู้สึกสังคมเช่นกัน เพราะในความเป็นจริงไม่มีใครจะมีอำนาจเหนือประชาชน โดยที่ผ่านมา คสช.และรัฐบาล ดำเนินการทุกอย่างในสถานะผู้ดูแลให้บริการประชาชนมาตลอดอยู่แล้ว
         

 

พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า ส่วนที่นายณัฐวุฒิระบุว่า หากการโหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้นกินความไปถึงการไม่ยอมรับกระบวนการอำนาจของ คสช.นั้น การร่างรัฐธรรมนูญคงไม่ได้เป็นกระบวนการทางอำนาจใดๆ ของใคร การร่างรัฐธรรมนูญมีองค์กรที่มีหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการโดยตรงอยู่แล้ว และในกระบวนการทำงานนั้น ก็มีลักษณะที่เป็นเอกภาพปราศจากการแทรกแซงจากบุคคล หรือองค์กรใด ไม่ควรนำไปเป็นประเด็นผูกโยงให้สังคมสับสน
         

 

"คสช.และรัฐบาล ไม่ก้าวล่วงและหมิ่นความเห็นของประชาชน พร้อมกันนั้นยังพร้อมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเสมอ แต่ความเห็นนั้นควรมีเจตจำนงค์ที่บริสุทธิ์เพื่อคนทั้งประเทศ และต้องไม่มีเรื่องใดผลหรือผลประโยชน์ใดแอบแฝง โดยเฉพาะเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือพวกพ้องใดพวกพ้องหนึ่ง อยากให้ข้อคิดถึงการที่มีผู้ออกมาแสดงวาทะกรรม หรือพยายามให้ข้อมูลจนอาจทำให้สังคมสับสน หรือเกิดความหวาดระแวงในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น จึงอยากให้ใช้ระมัดระวังด้วยในการเสนอข้อมูลด้วย" พ.อ.วินธัย กล่าว