"บิ๊กตู่" ปรี๊ดแตก !! บอก "วรชัย" ให้ระวังตัวไว้ เหตุท้า "ทหาร" ลาออก หาก "ร่าง รธน." ไม่ผ่าน - รณรงค์ช่วยกันประหยัดน้ำ-ไฟ (คลิป)

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม www.tnews.co.th

"พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา"  จวกใส่หน้า "วรชัย เหมะ" หลังถ้าให้ลาออก หาห "ร่างรัฐธรรมนูญ" ไม่ผ่าน ลั่น จะพยายามใช้กฎหมาย ปฎิรูปตำรวจ อย่างเต็มที่ รณรงค์คนไทยช่วยกัน "ประหยัดน้ำ-ไฟ ช่วงนี้ให้มากที่สุด

 

 

 

 

 

วันนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงสถานการณ์บ้านเมืองไทยในปัจจุบัน ดังนี้

 

 

 สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน สิ่งแรกที่ผมขอกล่าววันนี้ ในฐานะตัวแทนของประชาชนชาวไทย และประเทศไทยนะครับ ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการบาดเจ็บ และสูญเสียจากเหตุการณ์ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และขอประณามการก่อการร้ายครั้งนี้ รวมทั้งจะร่วมกันต่อตต้านการกระทำดังกล่าว ร่วมกับประเทศอื่นๆ ในโลกวันนี้ด้วยนะครับ
      
       สำหรับประเทศเราเองนั้น ผมได้กำชับทุกส่วนราชการ หน่วยงานทุกภาคส่วนให้ใช้ความระมัดระวังในเรื่องการรักษาความปลอดภัยสถานที่ และบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่สำคัญที่มีชาวต่างประเทศและชาวไทยจำนวนมาก เช่น ท่าอากาศยาน ท่าเรือ ท่ารถ สถานที่ท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนทุกท่านร่วมมือกันเฝ้าระวังนะครับ สังเกต หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือพบบุคคลต้องสงสัยขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็วนะครับ จะได้แก้สถานการณ์ได้ทันก่อนจะเกิดขึ้น
      
       เรื่องต่อไป ผมขอแสดงความยินดีกับทีมฟุตบอลชาติไทย หรือทีมช้างศึกของเราที่ประสบความสำเร็จ ผ่านรอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 2 เป็นผู้นำกลุ่ม F เข้าไปสู่ฟุตบอลโลก 2018 พร้อมทั้งได้สิทธิแข่งขันเอเชี่ยนคัพ 2019 ด้วย ขอบคุณทุกคนนะครับ ขอบคุณโค้ช ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ทีมงาน และที่สำคัญนักเตะไทยทุกคนนะครับ ที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ จนสามารถสร้างความสุขมาสู่คนไทยได้อีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ นอกจากแสดงให้เห็นถึงความสามารถของทีม และความมุ่งมั่นแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่า ไม่มีอะไรที่คนไทยทำไม่ได้นะครับ เราไม่เป็นรองชาติใดในโลกนี้ ถ้าเราพยายามช่วยกัน
      
       วันนี้มีเรื่องดีๆ เป็นเรื่องการร่วมมือของการทำงานร่วมกันในรูปแบบประชารัฐ อันได้แก่ การทำงานของมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิป่าทะเลเพื่อชีวิต สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และการเกษตร สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน และบริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) นะครับ โครงการรักษ์น้ำ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยจะใช้งบประมาณด้าน CSR คือเรื่องประชาสัมพันธ์ของบริษัท ในการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชน ดำเนินโครงการในรูปแบบต่างๆ เช่น การฟื้นฟูแหล่งน้ำ ตามแนวทางพระราชดำริ เช่น การปลูกหญ้าแฝก ป้องกันการกัดเซาะหน้าดิน การกำหนดแนวเขตป่าชุมชนให้คนอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล การบริการจัดการทรัพยากรน้ำ คือการส่งเสริมให้มีการใช้วิวัฒนาการ เทคโนโลยีใหม่ๆ ร่วมกับฝ่ายชาวบ้านในการสร้างฝายชะลอน้ำ แก้มลิง แหล่งน้ำเล็กๆ ของชุมชนที่เก็บน้ำในไร่นา
      
       นอกจากนั้น ยังมีการสร้างศูนย์การเรียนรู้ ระบบนิเวศวิทยา การสร้างเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการปรับปรุงกระบวนการผลิตของโรงงาน อุตสาหกรรม ให้ลดการใช้ต้นทุนน้ำลง 28% และเข้มงวดในการบำบัดน้ำทิ้ง ก่อนคืนกลับสู่ธรรมชาติให้อยู่ในระดับที่สะอาด ปลอดภัยต่อสัตว์น้ำนะครับ และสามารถใช้ในการเพาะปลูกได้อีกด้วย มีการตรวจสอบตลอดเวลา ผมเห็นว่าถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน มีน้ำใจต่อกัน ประเทศไทยเราจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้งครั้งนี้ได้ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรักษ์น้ำตามแนวทางประชารักษ์นี้ เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยเฉพาะชุมชนเกษตรกรรมของไทย ซึ่งถือว่ามีสัดส่วนมากที่สุดของประเทศให้เราสามารถยกระดับความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น ในกลุ่มเกษตรกรให้ดีขึ้น มีชีวิตใหม่ มีความหวัง ลดหนี้สิน โดยไม่ต้องเข้ามาเสี่ยงโชคในเมือง ทำงานขายแรงงาน ซึ่งไม่ค่อยเพียงพอ ครอบครัวมีโอกาสอยู่กันพร้อมหน้า ลูกหลานในอนาคตก็กลับไปพัฒนาถิ่นเกิดของตน รัฐบาลทำให้สอดคล้องทั้งหมด การศึกษาที่ต้องกลับไปพัฒนาตนเอง มีทุนการศึกษาให้ อย่างไรก็แล้วแต่ ต้องต่อยอดที่จบไปแล้วไม่มีงานทำ แต่ต้องมีกติกาชัดเจนว่าต้องกลับไปอยู่บ้านของตนเอง พัฒนาบ้านเกิดตนเองให้มั่นคงตลอดไป ทั้งหมดนี้ จะเกิดด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย เพราะประเทศไทยเป็นของคนไทยทั้งหมด ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ทั้ง 70 ล้านคนแล้ววันนี้
      
       สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ผมมีโอกาสลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อไปติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการต่างๆ ตามนโยบายรัฐบาลที่ออกไปนะครับ อย่างยิ่งการสนับสนุนงบประมาณโครงการละ 1 ล้านบาท สร้างความเข้มแข็งและแก้ปัญหาภัยแล้ง ตามแนวประชารัฐ ก็มีตัวอย่าง หรือมีผลสำเร็จที่น่าชื่นชมนะครับ คือโครงการก่อสร้างประตูเปิด-ปิดน้ำ และคลองส่งน้ำหนองมัก ต.จอมศรี อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ที่เป็นการจัดการแหล่งน้ำทางการเกษตร ของชุมชนเอง ช่วยลดความเสี่ยงเกษตรกร 5 หมู่บ้าน 190 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์ 3,000 ไร่ สร้างรายได้แม้ในช่วงหน้าแล้ง ก็จะสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ ทำประมง ปลูกพืชผักสวนครัว พืชน้ำน้อยได้
      
       นอกจากนั้น ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ สามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่า 5 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีคลองส่งน้ำเล็กๆ ลงสู่ไร่นาเกษตรกร ความยาวกว่า 1 กิโลเมตร ที่จริงตื้นเขินแต่เราสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กักเก็บน้ำไว้ดื่มกินได้ นี่คือตัวอย่างระดับล่าง ที่ประชาชนมีความต้องการ กำหนดความต้องการขึ้นมาเอง และร่วมมือกันทำ และรัฐเข้าไปสนับสนุนช่วยเหลือ
      
       สำหรับประชารัฐระดับบน จะมีการประชุมคณะกรรมการ กรอ.ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.ส่วนจังหวัดนะครับ รัฐร่วมเอกชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน คือ จ.อุดรธานี เลย หนองคาย บึงกาฬ และหนองบัวลำภู ผมเป็นประธานการประชุมเอง เพื่อจะรับทราบการจัดการปัญหาภัยแล้ง จัดการน้ำที่มีอยู่ และติดตามความคืบหน้าการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย ตลอดจนกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็ก มีการรับฟังข้อเสนอของประชาชนหลายเรื่องด้วยกันนะครับ ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่ ในกลุ่มจังหวัดดังกล่าว รัฐบาลต้องการสร้างความร่วมมือ มีจุดมุ่งหมายอันเดียวกัน คือตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง สร้างความเชื่อมโยงทั้ง 18 กลุ่มจังหวัดให้สอดคล้องต้องกัน ชูจุดเด่นของแต่ละกลุ่มจังหวัด ของแต่ละภูมิภาค โดยเฉพาะวันนี้ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องสินค้าที่จะต้องบ่งบอกต้นกำเนิด สินค้าใหญ่ๆ ต้องระบุแหล่งที่มา เพื่อจะสร้างจุดสนใจให้กับสินค้าให้มากขึ้น และเป็นไปตามพันธะสัญญา
      
       สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ผมและคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการให้จัดทำงบประมาณเพิ่มเติมเรื่องนี้เร่งด่วน จำนวนเงินกว่า 300 ล้านบาท ตามที่ กรอ.กลุ่มจังหวัดเสนอมา เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ และสามารถจะเกิดได้ทันที ก็ยินดีนะครับที่ทุกคนช่วยกันคิดช่วยกันทำ อย่าให้รัฐต้องคิดเองทั้งหมด
      
       อีกเรื่องคือ ระหว่างการเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วงที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือแม่น้ำโขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 1 และการประชุม Boao Forum for Asia ระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสพบหารือแบบทวิภาคีกับ พณฯท่าน หลี่ เค่อ เฉียง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นเพื่อน เราเป็นมิตรกันอยู่แล้ว มีหลายประเด็นที่พูดคุยกันเรื่องการสร้างสรรค์ ทำยังไง ความสัมพันธ์ไทย-จีนจะพัฒนามากยิ่งขึ้นโดยเร็ว รวมทั้งการร่วมมือในการสนับสนุนประเทศอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะอาเซียนคือกัน ประเด็นสำคัญคือ เราบรรลุถึงข้อตกลง หรือข้อยุติในหลักการเกี่ยวกับเรื่องไทย ความร่วมมือไทย-จีน และจีทูจี คือสรุปผมตัดสินใจแล้วว่า เราจะลงทุนทั้งหมด ทุกขั้นตอน ในลักษณะจีทูจี ไม่มีการให้สัมปทาน ร่วมทุนกับใครทั้งสิ้น เนื่องจากเราพิจารณาแล้วว่า เรามีศักยภาพ สามารถทำได้
      
       ส่วนหลักการของจีนนั้น เขาไม่สามารถร่วมลงทุนได้ในกรณีนี้ หากไม่ได้เป็นเรื่องสัมปทาน เราคงให้เขาไม่ได้อยู่แล้ว เราลงทุนเองดีกว่า ผลประโยชน์ตกกับเราทั้งสิ้น และเราสามารถเริ่มเป็นโครงการแรก ด้วยรถไฟความเร็วสูงเส้นแรก เส้นทางไม่ยาวมากนัก กรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา ระยะทาง 250 กิโลเมตร เราจำเป็นต้องใช้จากจีนเบื้องต้นในการก่อสร้าง และมีการถ่ายทอดความรู้ การก่อสร้าง เรื่องการบริหารจัดการเดินรถ และคนไทยต้องดำเนินการให้ได้เองในระยะเวลารวดเร็ว
      
       ทั้งนี้ รัฐบาลเห็นความสำคัญกับการมีรถไฟความเร็วสูง คือเดิมคิดว่าจะทำรางไว้ก่อน สรุปแล้วมันไม่เหมาะกับสถานการณ์วันนี้ เราไปไม่ทัน และการลงทุน เราลงทุนในประเทศดีกว่า บริการประชาชนเป็นหลักแล้วกัน เชื่อมโยงต่างๆ ค่อยว่าระยะต่อไป เราสามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็วขึ้น อยากให้ถือว่าเป็นรถไฟสู่อนาคต รถไฟความเร็วสูงเส้นประวัติศาสตร์ ก่อนแล้วกัน เพื่อประโยชน์ความสัมพันธ์ไทย-จีนด้วย เพื่อการพัฒนาปฏิรูปประเทศไทย เพราะจากการสำรวจข้อมูลแล้วพบว่า ภาคอีสานที่จำเป็นเกิดก่อน เพราะมีความพร้อม มีศักยภาพหลายด้าน จากที่ไปเยี่ยมเยียนมา เรื่องการค้า การลงทุนต่างๆ มีการขยับขยายดีมากขึ้น ภาคอื่นก็รอนิดหนึ่งนะครับ ไม่ใช่ว่าจะทำให้ภาคใดภาคหนึ่ง เราต้องทำทุกภาคอยู่แล้ว นี่รัฐบาลตั้งใจให้เป็นจุดเริ่มต้นก่อน ให้เอกชนได้เห็น ได้เข้าใจว่าการคมนาคมขนส่งของประเทศจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต ในวันข้างหน้าจำเป็นต้องมีหมดแหละ เพื่อใช้ในการบริการประชาชนเป็นหลัก การสัญจรไป-มาด้วยความรวดเร็ว การเคลื่อนย้ายแรงงาน การเคลื่อนย้ายคนที่จะไปสู่ต่างจังหวัด ไปทำงานต่างจังหวัด และต่างจังหวัดไปทำงานในกรุงเทพฯ ให้เร็วขึ้น เช้าไปเย็นกลับก็ได้ เพราะฉะนั้น เราเริ่มภายในก่อนดีกว่า ไม่ใช่เฉพาะเรื่องรถไฟความเร็วสูงอย่างเดียว ที่เราคิดอยู่ขณะนี้ นโยบายรัฐบาลที่ได้มีการอนุมัติหลักการ และจัดทำโครงการรถไฟทางคู่ตามเส้นทางเดิมให้สามารถสวนกันได้ เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้า และเดินทางที่ไม่รีบร้อน และอยู่ในศักยภาพที่ประชาชนทุกคนสามารถใช้ได้ไปพร้อมๆ กันอีกด้วยเป็นทางเลือก หากเราเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เราผลิตคนขึ้นมาใหม่ๆ ให้มีความชำนาญในเรื่องการบริหารจัดการ เรื่องเทคนิค เทคโนโลยีการควบคุมการบริหารการเดินรถเหล่านี้ เราก็สามารถที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดได้ สิ่งที่ผมเน้นคือ การบริหารจัดการพื้นที่สองข้างทาง โดยคนไทยเอง โดยประเทศไทย รัฐบาลจะหาวิธีการทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์ร่วมกันอย่างสูงสุดกับคนไทยและภาคเอกชน ธุรกิจไทย อาจจะมีความร่วมมือในลักษณะ PPP ร่วมลงทุนได้ ทั้งหมดนั้นเราจะเร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็วตามกำหนดเวลาที่มีอยู่ตาม MOU ที่ลงนามกันไว้แล้วด้วย เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบเท่านั้นเอง ซึ่งทางจีนก็ยินดี
      
       ทางนายกรัฐมนตรีจีนเขาฝากมาว่า ขอให้คนไทยเชื่อมั่นจีนกับไทยนั้นเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ขอให้เชื่อมั่นว่าทางจีนก็มีความปรารถนาดีกับไทย ผมก็ตอบเขาไปว่า เช่นเดียวกันไทยก็มีความปรารถนาเดียวกับจีน เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับประชาชนในประเทศ ซึ่งท่านก็รับปากว่าโอเค ต้องทำเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจนขึ้น ไม่ได้มุ่งหวังแต่เรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียว ในการใช้แรงงานคงใช้แรงงานไทยเป็นหลัก ช่างเทคนิคไทยให้มากที่สุด เพียงแต่ว่าต้องเอาวิศวกร เพราะเราใช้เทคโนโลยีของเขามาแนะนำมาควบคุมการก่อสร้างอะไรต่างๆ ผมก็บอกไปแล้วว่า วัสดุบางอย่างนั้นที่ไทยสามารถผลิตเองก็ต้องใช้ของเรา อะไรผลิตไม่ได้จำเป็นต้องซื้อก็ต้องซื้อ วันนี้โชคดีที่หลายๆ อย่างก็ราคาค่อนข้างจะถูกลง แต่อย่าลืมว่าจำนวนวงเงินต่างๆ มันมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะด้วยเทคนิค และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป คืออย่าเอาตัวเลขเดิมมาพิจารณาวันนี้ ตัวเลขเก่า ตัวเลขใหม่คนละอันกัน คนละสถานการณ์กัน ดูว่าคุ้มค่าหรือเปล่า และเราได้ประโยชน์หรือไม่ อันนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่าไปบิดเบือนกันจนเสียหายไปหมด ทุกอย่างไม่ได้กำหนดด้วยราคาเพียงอย่างเดียว มันต้องกำหนดด้วยประสิทธิภาพ ประสิทธิผลด้วย ผมอยากให้ประชาชนทั้งประเทศเกิดความมั่นใจ
      
       ถ้าทุกคนตระหนักถึงความสำคัญร่วมกันของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนี้แล้ว จะสามารถขยับขยายไปยังภูมิภาค เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก อาจจะมี 3-4 เส้นอีกก็ได้ลักษณะเดียวกันนี้ไป เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ถ้าเรามีศักยภาพที่เพียงพอ และมีรายได้เข้าประเทศมากขึ้น หรือมีการร่วมลงทุนกับคนไทยภายในประเทศให้มากขึ้น ผมคิดว่าน่าจะเกิดขึ้นได้ แล้วแต่ต่อไปเราก็จะเชื่อมเส้นแรกนี้อย่างเช่น ตะวันออกเฉียงเหนือไปโคราช ระยะแรกไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ไปยังแหล่งท่องเที่ยว เขตเศรษฐกิจ เมืองท่า เมืองสำคัญด้วยการใช้รถยนต์ รถไฟฟ้า โมโนเรล หรือทางเรือก็ได้ ให้มันเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน
      
       สำหรับการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านการค้าขายไปสู่ทวีปอื่นๆ นั้นก็เป็นอนาคต เราจะได้ผสมผสานเป็นระบบการขนส่งทางรางของภูมิภาคและเอเซียต่อไป วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องร่วมมือกันเร่งเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงให้ได้ เมื่อมันมีก้าวแรก ก้าวต่อไปก็จะตามมาขอให้ทุกคนมั่นใจ เชื่อใจ ถ้าเราชักช้ากว่านี้ก็จะเสียการเสียงาน เราจะตามใครเขาไม่ทัน เพราะการประชุมทุกประเทศเขาพัฒนาหมด ขอให้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือ ใครที่เดือดร้อนเราก็จะเยียวยาให้ มันต้องมีคนเดือดร้อนอยู่บ้าง แต่ประโยชน์ได้มากกว่าคนเดือดร้อนเราก็จะต้องดูให้มีความสุข หาที่อยู่ที่กินให้กรณีที่อยู่ในเส้นทางดังกล่าว อย่าต่อต้านคัดค้านกันเลย มันทำให้ประโยชน์ของชาติเสียหายไปเยอะ แต่ของตัวเองรัฐบาลก็จะดูแลให้ ขอให้เคารพใน กติกา ในกฎหมาย ผมจะพยายามรักษาผลประโยชน์ของชาติให้ได้มากที่สุด โดยจะกำกับดูแลอย่างละเอียด ทั้งตัวผมเองทั้ง คสช. และ ครม. อย่างรอบคอบ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสมบัติของชาติ มาจากภาษีของพวกเราทั้งสิ้น และเพื่อเป็นอนาคตของลูกหลาน คาดว่าในเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ ในเรื่องของเงินทุนก็คงจะใช้เงินกู้ด้วย ใช้ในการลงทุนเราเตรียมเงินไว้หลายอย่างด้วยกัน ในเรื่องของการลงทุนภาครัฐแต่ใช้ไม่ได้ เพราะว่าติดโน่นติดนี่เยอะแยะ ผมจำเป็นต้องตัดสินใจ ไม่อย่างนั้นก็ไม่เกิดงาน ไม่เกิดการจ้างงาน ไม่เกิดอะไรใหม่ๆ เลย และก็บอกว่ารัฐบาลเราบริหารเศรษฐกิจไม่ได้
      
       เพราะฉะนั้นผมจึงอยากขอร้องว่าอะไรที่จะเกิดประโยชน์ขอให้ช่วยกัน อย่าคัดค้านกันเลย มีปัญหาอะไรอยากให้รัฐแก้ปัญหาให้ เราก็แก้ปัญหาให้ แต่ต้องเดินหน้าให้ได้ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงการคลัง ซึ่งควบคุมในเรื่องค่าใช้จ่าย เงินงบประมาณภาครัฐ ก็ดูแลในภาพรวมอยู่แล้ว กระทรวงคมนาคมก็ต้องทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดคุ้มค่ากับเม็ดเงินทุกบาททุกสตางค์ จะต้องมีการดำเนินการให้เกิดความโปร่งใส ถ้าใครเห็นว่าไม่โปร่งใสก็ร้องเรียนมาเลย ผมตรวจสอบให้ทันที และจะต้องให้เกิดประสิทธิภาพโดยเร็ว
      
       สำหรับภาคเอกชนของไทยก็ขอเชิญชวน ไม่ใช่เฉพาะเส้นทางเส้นนี้ มีอีกหลายอย่างที่อยากจะให้ร่วมมือนะครับ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นทางมอเตอร์เวย์ อะไรก็แล้วแต่ เราก็มีนักธุรกิจขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากพอสมควร ถ้าเรามาร่วมลงทุนกันในส่วนตรงนี้ได้ ผลประโยชน์ก็จะอยู่ในประเทศเราเอง ในเรื่องที่จะแบ่งปันกันอย่างไรก็ว่ากันมาให้เกิดความเป็นธรรม แต่ข้อสำคัญคือ ขอร้องให้ทุกคน ทุกบริษัทที่มีสตางค์ ช่วยประเทศชาติในช่วงนี้แล้วกันนะครับ ไม่อย่างนั้นไปไม่ได้แน่นอน วันหน้าก็เกิดไม่ได้อีกจะทำอย่างไร ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจในหลักการ ในข้อเท็จจริง และก็ฟังข้อมูลของรัฐบาลที่ถูกต้องด้วย มันจะได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งใดๆ แน่นอนว่าทำอะไรก็ตามต้องมีความขัดแย้ง สำคัญคือข้อมูลถูกต้องหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นประเทศของเราติดกับดักของตัวเองอยู่แบบนี้ ขอให้มองอนาคตของประเทศไว้เป็นสำคัญ
      
       ในเรื่องของความคืบหน้าในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลและ คสช. ในการแก้ปัญหาที่ผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ซึ่งเราต้องปฏิรูปไปด้วย แต่คำว่าปฏิรูป คือปฏิรูประยะที่ 1 ของเรา ซึ่งมันไม่ได้ง่ายนัก เพราะฉะนั้นแผนปฏิรูปทั้งหมดที่เขียนมากันเยอะแยะไปหมด มันทำไม่เสร็จ ยังไงก็ไม่เสร็จ เพราะฉะนั้นทุกกิจกรรมต้องเอาระยะที่ 1 มาทำก่อน อะไรที่ทำไม่ได้ติดไว้ก่อน ทำที่ทำได้ก่อนเลย ทันที เรียกว่าปฏิรูปทันที ที่มีปัญหากันขณะนี้ คือเรื่องตำรวจ ต่าง ๆ มันต้องมีทันทีบ้าง อะไรทำต่อต้องทำต่อ
      
       วันนี้ต้องให้สามารถดำเนินคดี จับกุมได้ ให้เหลือตำรวจน้ำดีอยู่เพื่อจะไม่ให้มีตำรวจที่ไม่ดีในองค์กร มีทุกองค์กร ข้าราชการก็มี ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่ผมพยายามทำแต่ที่ แต่ต้องเห็นใจเพราะมีจำนวนมาก ถ้าเราไปรื้อเร็ว ๆ รื้อทีเดียว งานมันก็เดินไม่ได้อีก วันนี้มันต้องเดินหน้าประเทศไปด้วย ถ้าไม่มีความขัดแย้ง ไม่ต้องปฏิรูป ไม่ต้องเดินหน้าประเทศ ผมรื้อทันทีทุกวัน แต่มันเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ขอความร่วมมือของผู้บังคับหน่วย ปลัดกระทรวง อธิบดี ดูตัวเองด้วยนะครับ ว่าทำงานได้ตรงตามนโยบายของรัฐบาลหรือยัง ตามวิสัยทัศน์ที่รัฐบาลกำหนดหรือยัง และผมจะดูท่านอีกที อันนี้่ก็ขอให้ความสำคัญกับโครงการที่สำคัญ ในเรื่องการสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศ ที่สำคัญ เช่น โครงการบ้านประชารัฐ อันนี้เรามีความมุ่งหวัง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน ที่มีรายได้น้อยและปานกลาง ข้าราชการด้วย ก็ถือว่ารายน้อย รายได้ไม่แน่นอน ก็มีอีกพวกหนึ่ง พวกอิสระ ประกอบอาชีพค้าขาย ขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง มันใช่เลย คืออาชีพอิสระ ต้องดูคนทุกพวก ข้าราชการต้องเห็นใจเขาถึงทุกคนบอกว่าเขาจะต้องมีเงินเดือนแต่เขาต้องเสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ว่าจะขึ้นเงินเดือนเท่าไรก็ตาม พอขึ้นเงินเดือนเสร็จ มันเป็นไปตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.สิทธิของเขา ต้องขึ้นปีไหนขึ้นได้ ปีไหนขึ้นไม่ได้ ก็ต้องคอยก่อน แต่บางครั้งจำเป็นต้องขึ้น ไม่ใช่เอาเงินไปให้เขา ถ้าเพิ่มให้เขาไป ภาษีจะกลับมา อันที่ 1 อันที่ 2 ก็มีแรงจับจ่ายใช้สอยในข้างล่าง ผมไม่ได้มุ่งหวังว่าต้องซื้อของมากขึ้น ผมมุ่งหวังให้มีการผลิต ถ้าไม่มีใครซื้อเลย ประชาชนซื้อไม่ไหว รายได้น้อย ยังไปไม่ถึงตรงนั้น ก็ต้องเอาข้าราชการไปนำร่องก่อน วงจรผลิตต่างๆ จะได้ไม่เลิกผลิต ไม่อย่างนั้นโรงงานประกอบการต่อไปได้ไม่หมด อยากให้คิดให้เป็นระบบแบบนี้ อะไรที่เราเริ่มได้ก็เริ่มก่อน
      
       เพราะฉะนั้นในส่วนของที่อยู่อาศัย อยากให้ดูนะครับว่าเราคิดเป็นระบบระยะยาว เราจะทำให้คนที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อนเลยให้สามารถมีบ้านเป็นของตนเอง และก็จะมีสถานที่ค้าขายประกอบการแถวๆ นั้น จะได้ไม่ลำบาก เชื่อมโยงกับระบบคมนาคมขนส่งอีกเป็นภาพรวม
      
       ระยะแรกในมูลค่าไม่เกิน 1.5 ล้านบาทต่อหน่วย โดยมีหลายอย่างด้วยกัน ก็คือจัดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโดยมีธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสินจัดทำโครงการวงเงิน 40,000 ล้านบาท มีระยะเวลาเงินกู้ไม่เกิน 30 ปี อีกอันหนึ่งก็คือ สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย วงเงินสินเชื่อประมาณ 30,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ระยะเวลาเงินกู้ไม่เกิน 2 ปี ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนสินเชื่อให้เอกชนผู้ประกอบธุรกิจในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการเคหะแห่งชาติ ได้เข้าร่วมพัฒนาโครงการฯ จะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในเรื่องการก่อสร้าง ในเรื่องของการจ้างแรงงานต่างๆ ด้วย เป็นภาพรวมของประเทศ