"สุรพงษ์" เป็นใคร!!! กล้าสรรเสริญทูตสหรัฐ ที่คนไทยรวมใจลุกฮือต้าน ??

     ท่ามกลางกระแสคัดค้านแนวคิดของสหรัฐ   โดยเฉพาะตัวนายนายเกล็น เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย  ที่แสดงความคิดเห็นในเชิงแทรกแซงการบริหารประเทศของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา และคสช. เป็นระยะ  ๆ

 

     ล่าสุดพบข้อมูลว่า  นายสุรพงษ์  โตวิจักษณ์ชัยกุล  อดีตรัฐมนตรีว่าการกกระทรวงต่างประเทศและอดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  ได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิงชมเชย  นายเกล็น เดวีส์    โดยระบุว่า การที่ท่านทูตสหรัฐยืนยันกรณีที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ    ออกมาแสดงความกังวลและข้อห่วงใยที่เกิดขึ้นในไทยเรา อันเกี่ยวเนื่องกับการละเมิดสิทธิเสรีภาพของมนุษยชนนั้น เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศทั้งในยุโรป ออสเตรเลีย และแคนาดา  เป็นเรื่องปกติธรรมดาเนื่องจากสหรัฐเขาเป็นมิตรประเทศกับไทยเรามาอย่างยาวนาน

 

     การที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา  เปิดเผยความจริงโดยไม่จำเป็นต้องโกหกหรือมาแกล้งพูดเอาอกเอาใจกันแบบคนหน้าไหว้หลังหลอก   เป็นสิ่งที่คนอเมริกันและประเทศอเมริกามีความยึดมั่นและคงอยากเห็นประเทศที่อยู่ในโลกเสรีประชาธิปไตยได้ยึดปฎิบัติตามก็เท่านั้นเอง  ตรงข้ามกับสิ่งที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์  ยิ่งน่าสรรเสริญพฤติกรรมของท่านทูตอเมริกาเสียอีก   ที่ทำหน้าที่ได้ตรงไปตรงมาและมีความจริงใจต่อประชาชนคนไทยที่มีหัวใจประชาธิปไตยและประเทศไทยที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

 

     จากบริบทการให้ข้อมูลทางการเมืองของนายสุรพงษ์  ทำให้ถูกตั้งคำถามถึงเจตนาที่ที่ออกมาแสดงความเห็นสวนทางกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น   เนื่องจากเหตุการณ์ในวันนั้น  นายเกล็น เดวีส์    ไม่ได้นำข้อมูลจากการพบปะหารือกับ นาย ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ   มาแสดงต่อสื่อมวลชน  แต่เลือกจะใช้เวทีสัมภาษณ์เปิดฉากวิพากษ์วิจารณ์ประเทศไทย โดยสื่อบางแขนงเจตนาทำให้ประเด็นนี้เกิดขึ้น ???

 

     และถ่้าพิจารณาจากมุมมองของ นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต 5 ประเทศ   ว่า    กรณีที่นายเกล็น เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าพบนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ และมีการแถลงข่าวพร้อมอ่านแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาต่อหน้าสื่อมวลชน ที่มีลักษณะเป็นความกังวลต่อสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยว่า ตนได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามสื่อมวลชน โดยตามหลักการแล้วทราบมาว่านายเดวีส์และนายดอนได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนร่วมกันจะไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติเลย ถ้าไม่เกิดประเด็นที่ไม่ปกติในแง่ของการปฏิบัติตนในฐานะผู้แทนทางการทูต !!!

 

                                                             (ขอบคุณ : ภาพมติชน)

 

     "ถ้านายเดวีส์อ่านโผต่อหน้าคุณดอน อันนี้เป็นที่เข้าใจได้ในหมู่มิตร มีอะไรในใจก็ว่ากันได้ แรงๆ ก็ว่ากันได้ แต่ไม่ใช่ในที่สาธารณะ แบบนี้จงใจไม่ไว้หน้ารัฐบาลไทย ไม่ให้เกียรติไว้หน้าคุณดอน อันนี้ตามที่ผมสังเกตในข่าว และก็มีคนเล่าให้ฟังว่ามีการแย่งไมโครโฟนกัน ถ้าเป็นเรื่องจริงนับว่าน่าเสียใจมาก เราต้องรู้จักสรุปบทเรียนตั้งแต่สมัยคริสตี้ ทูตคนเก่าก็สร้างปัญหาให้เรามาเยอะ พอคนนี้เข้ามาก็ไม่ได้แตกต่างจากคนที่แล้วเลย ทางฝ่ายสหรัฐจงใจวิพากษ์วิจารณ์ทำให้ประเทศไทยเสียหาย ซึ่งมันไม่ถูกต้องอย่างมาก"

 

 

     ทางด้าน    นายวิโรจน์ อาลี อาจารย์ประจำสาขาวิชาการระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ มธ.  กล่าวถึงในประเด็นเดียวกันว่า หากพิจารณาในทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว สิ่งที่นายเกล็นได้ทำลงไปนั้น ก็เป็นเรื่องที่ผิดธรรมเนียมทางการทูตอย่างชัดเจน

     และจากพฤติการณ์ของนายสุรพงษ์  ที่ออกมายอมรับการแทรกแซงทางการเมืองของสหรัฐ    ทำให้ต้องสืบค้นย้อนกลับไปพิจารณาข้อมูลส่วนตัวเพื่อจะทำให้เข้าใจในเจตนาของนายสุรพงษ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น    โดยพบว่า  นาย สุรพงษ์    เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่   และถือเป็นญาติของนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี    เนื่องจากนางสุมาลี โตวิจักษณ์ชัยกุล     น้าของสุรพงษ์ แต่งงานกับนายเสถียร ชินวัตร   อาของนายทักษิณ  !!!

 

 
 

     นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปีที่ 5  จากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น, ปริญญาวิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยยังทาวน์สเตท รัฐโอไฮโอสหรัฐอเมริกา และปริญญาวิศวกรรมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยแห่งแอเคริน รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา  และมีน้องชายชื่อ  นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ

 

     ด้านกิจกรรมการเมือง  นายสุรพงษ์    เริ่มเข้าสู่งานการเมืองโดยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใน พ.ศ. 2529 สังกัดพรรคกิจสังคม แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาย้ายไปสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์  จนได้รับเลือกเป็นกรรมการบริหารพรรค  และตลอดระยะเวลาที่อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์   นายสุรพงษ์เป็นบุคคลหนึ่งมีบทบาทสำคัญในการอภิปรายโจมตี นายทักษิณ ชินวัตร  

 

     ต่อมา นายสุรพงษ์ย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ. 2549 ภายหลังรัฐประหารและพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค จึงย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชาชน และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 ในนามพรรคพลังประชาชน

 

     จากนั้นในปี 2554   ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 20 ของพรรคเพื่อไทย และได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  ควบรองนายกรัฐมนตรีเพิ่มอีกตำแหน่งหนึ่ง

 

     ที่สำคัญนายสุรพงษ์  ถือป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่วมลงนามถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษแก่  นายทักษิณ ชินวัตร  ร่วมกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2552   จวบจนวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557  นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล  ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการโยกย้ายถวิล เปลี่ยนศรี  จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติโดยไม่ชอบธรรม