โมฆะ!!!ศาลพิพากษาประชุมผู้ถือหุ้น NMG ปี58 มิชอบโดยกม.

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม www.tnews.co.th

     ศาลจังหวัดพระโขนง  วันนี้ ( 16 พ.ค.)  ได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 780/2589  ที่ บริษัทนิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปเปอเรชั่น  จำกัด (มหาชน)   เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย  กรุ๊ป  จำกัด  (มหาชน)  เป็นจำเลยในคดีแพ่ง เพื่อเพิกถอนมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 และให้การประชุมดังกล่าวเป็นโมฆะ
     

 

     โดยคำพิพากษาศาลจังหวัดพระโขนง  ระบุว่า   ด้วยจำเลยเป็นนิติบุคคล ประเภทบริษัทมหาชนจำกัด และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  ผู้เข้าชื่อซื้อหุ้น  เป็นผู้ถือหุ้นซึ่งถือได้ว่าเป็นเจ้าของกิจการร่วมกันตามสัดส่วนหุ้นที่ถือยู่  แม้ผู้ถือหุ้นจะไม่ได้เข้าไปดูแลบริหารกิจการโดยตรง  แต่ใช้สิทธิผ่านการเลือกคณะกรรมการ  ดังนั้นสิทธิของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นจึงเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่คณะกรรมการบริษัท ซึ่งเป็นผู้ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนบริหารแทนผู้ถือหุ้น มีหน้าที่ที่จะต้องให้ความสะดวกในการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้น  ให้เป็นไปอย่างสะดวกและเท่าเทียม  ไม่อาจกระทำการใดๆอันเป็นการละเมิด หรือ ริดรอนสิทธิของผู้ถือหุ้นได้  ตามที่ พ.ร.บ.มหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 มาตรา 102  รับรองสิทธิไว้ในการที่ผู้ถือหุ้นจะเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงมติ

 

     เมื่อปรากฏว่าจนถึงวันที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี  2558  โจทก์ทั้งหกก็ยังเป็นผู้มีชื่อในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของจำเลย  ซึ่งจำเลยเองก็ได้ให้การรับรองการเป็นผู้ถือหุ้น และมีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของโจทก์ทั้งหก  โดยได้ส่งหนังสือเชิญประชุมให้โจทก์ทั้งหกกับทั้งมีการจ่ายเงินการจ่ายเงินปันผลประจำปีแก่ผู้ถือหุ้นรวมทั้งโจทก์แล้ว  โจทก์ทั้งหกจึงเป็นผู้ถือหุ้นและมีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558  ของจำเลยในวันที่ 29 เมษายน 2558 

 

     แม้จำเลยจะอ้างเหตุผลว่า โจทก์ทั้งหกร่วมกันเข้าถือหุ้นของจำเลยเกินกว่าร้อยละ 30 ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด เพื่อครอบงำกิจการของจำเลยและการได้มาซึ่งหุ้นของโจทก์ที่ 1 ไม่ชอบ เนื่องจากยังไม่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของโจทก์ที่ 1 ก่อน อีกทั้งการเข้าถือหุ้นอาจขัดต่อหลักเกณฑ์การป้องกันการผูกขาด และแม้นายณิทธิมนจะอ้างว่ามีหนังสือของนายสุทธิชัย ที่ส่งไปถึงคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เป็นหลักฐานสนับสนุน ให้เชื่อถือข้อมูลที่ทราบมาดังกล่าวก็ตาม แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าจนถึงวันประชุมผู้ถือหุ้น  ได้มีคำวินิจฉัยของหน่วยงานใดว่า โจทก์ที่ 1  กับพวกเข้าถือหุ้นของจำเลย โดยไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย เรื่อง การครอบงำกิจการ ตามประกาศ  12/2554  อันจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย 

 

     หรือการที่โจทก์ที่ 1 เข้าถือหุ้นของจำเลยโดยยังไม่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุม อันจะเป็นผลให้โจทก์ที่ 1 รับโอนหุ้นมาโดยไม่ชอบ จึง  ต้องถือว่าโจทก์ทั้งหกเป็นผู้ถือหุ้นของจำเลย ซึ่งเป็นผลให้โจทก์ทั้งหกมีสิทธิเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงมติในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของจำเลย  เมื่อปรากฏว่าการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี  2558  เมื่อวันที่ 29  เมษายน 2558 ดังกล่าว ได้ห้ามโจทก์ทั้งหกมิให้เข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงมติในที่ประชุม จึงมีผลทำให้การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของจำเลยในวันดังกล่าวเป็นการประชุมโดยมิชอบโดยกฎหมาย และมีผลทำให้มติต่าง ๆ ของที่ประชุมสามัญของจำเลย และมีผลทำให้มติต่างๆ ของที่ประชุมสามัญของจำเลยในครั้งนี้ไม่มีผลใช้บังคับได้

 

     พิพากษาให้การประชุมและการลงมติต่าง ๆ ทั้งหมดในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 ในวันที่ 29 เมษายน 2558 ตกเป็นโมฆะ

     ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรณีที่   นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ตัวแทนบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 6 คน พร้อมด้วย นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ได้ยื่นฟ้องบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยในคดีแพ่ง เพื่อเพิกถอนมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 และให้การประชุมดังกล่าวเป็นโมฆะ
 

 

โมฆะ!!!ศาลพิพากษาประชุมผู้ถือหุ้น NMG ปี58 มิชอบโดยกม.       
 

      โดยคำฟ้องโจทก์ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2558 จำเลยได้ออกหนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 ส่งไปยังผู้ถือหุ้นทุกคนรวมทั้งโจทก์ทั้ง 6 คนด้วย โดยกำหนดหัวข้อการประชุมหรือวาระการประชุมเป็น 9 วาระ โดยกำหนดการประชุมวันที่ 29 เมษายน 2558 เวลา 14.00 น. ณ ห้องแลนด์มาร์คบอลรูม ชั้น 7 โรงแรมเดอะแลนด์มาร์ค เลขที่ 138 ถนนสุขุมวิท แขวงและเขตคลองเตย กทม. และวันนัดประชุมดังกล่าว มีผู้ถือหุ้นทั้งกลุ่มเก่าและกลุ่มใหม่จำนวนมากได้เดินทางไปเข้าร่วมประชุมที่โรงแรมแลนด์มาร์ค ย่านสุขุมวิท ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ปรากฏว่าฝ่ายลงทะเบียนของจำเลยไม่รับลงทะเบียนผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ทั้งหมดรวมทั้งโจทก์ทั้ง 6 คนด้วย เพราะเป็นบุคคลที่มีรายชื่อถูกห้ามเข้าประชุม โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของประธานคณะกรรมการบริษัทจำเลย กลุ่มผู้ถือหุ้นที่ถูกกีดกันและถูกปฏิเสธไม่ให้ลงทะเบียนจึงไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าห้องประชุมชั้น 7 เพื่อขอเข้าร่วมประชุมตามสิทธิ แต่จำเลยไม่ยอมให้เข้าร่วมประชุม โดยมีชายฉกรรจ์หลายคนที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของจำเลยขัดขวางไม่ให้ผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่เข้าร่วมประชุม
      

 

     ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเพื่อเข้าเจรจากับชายฉกรรจ์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ขัดขวางกลุ่มผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ไม่ให้เข้าร่วมประชุม บรรยากาศภายนอกห้องประชุมวันนั้นเกิดความวุ่นวาย มีเสียงตะโกนจากผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมและไม่พอใจดังมาเป็นระยะ และมีความพยายามผลักดันหน่วยรักษาความปลอดภัยของจำเลยเพื่อให้เปิดประตูให้แต่ไม่เป็นผล
      

 

     ขณะเดียวกัน ในที่ประชุมมีผู้ถือหุ้นพยายามซักถามเหตุผลที่ตัดสิทธิผู้ถือหุ้น แต่ประธานที่ประชุมไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นซักถาม แม้ผู้ถือหุ้นจะซักถามถึงหลักธรรมาภิบาลและความชอบธรรมโปร่งใส แต่ประธานที่ประชุมกลับดำเนินการประชุมไปอย่างเร่งรีบ ไม่เปิดโอกาสให้มีการอภิปรายและซักถาม โดยรีบทำการสรุปเพื่อขอมติที่ประชุมอย่างเร่งรีบ การกระทำดังกล่าวของจำเลยจึงไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 มาตรา 102 และ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 89/26 และหลักการบริหารจัดการหรือธรรมมาภิบาลที่ดีตามประกาศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าด้วยการจัดประชุม การส่งหนังสือนัดประชุม และการลงมติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียน ภายหลังการประชุมผู้ถือหุ้นของจำเลย จำเลยได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า มีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองและโดยการรับมอบฉันทะ รวมทั้งสิ้น 936 ราย นับจำนวนหุ้นได้ 1,377,958,516 หุ้น คิดเป็น ร้อยละ 41.55 ของหุ้นชำระแล้วของบริษัท โดยตัดสิทธิ์ผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่จำนวน 50 ราย รวมเป็นหุ้นทั้งหมดประมาณ 1,478,765,400 ล้านหุ้น คิดเป็น ร้อยละ 44.59 ของผู้ถือหุ้นทั้งหมด

 

     การประชุมผู้ถือหุ้นจึงมิได้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ถือหุ้นทุกรายทราบถึงความเป็นไปและติดตามผลการดำเนินงานหรือแนวโน้มหรือแผนงานในอนาคตของบริษัทจำเลยและให้โอกาสผู้ถือหุ้นอภิปรายซักถามข้อสงสัยกับผู้บริหารและคณะกรรมการบริษัทและให้สิทธิผู้ถือหุ้นใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเพื่อมีส่วนร่วมตัดสินใจในเรื่องสำคัญของบริษัทอย่างเท่าเทียมกัน   แต่การเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 ได้กระทำไปเพื่อผลประโยชน์ของประธานกรรมการ กรรมการ และผู้บริหารของบริษัทจำเลย มิใช่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นโดยรวมเป็นการทั่วไป จนปรากฎเป็นข่าวอย่างครึกโครม จนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีหนังสือถึงบริษัทจำเลยให้ชี้แจงต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 ของจำเลยที่ไม่อนุญาตให้ผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่เข้าร่วมประชุมโดยให้ชี้แจง 3 ประเด็น คือ

 

โมฆะ!!!ศาลพิพากษาประชุมผู้ถือหุ้น NMG ปี58 มิชอบโดยกม.


      
       1. ขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีที่ปรากฏข้อมูลว่าประธานในที่ประชุมไม่อนุญาตให้ผู้ถือหุ้นบางรายเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558

 

      
       2. ขอให้ชี้แจงว่า ผู้ถือหุ้นบางรายที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าว เป็นผู้ถือหุ้นที่มีชื่อปรากฏในทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นตามที่คณะกรรมการกำหนดหรือไม่ อย่างไร

 

      
       3. ขอให้ชี้แจงเหตุผลที่ประธานในที่ประชุมไม่อนุญาตให้ผู้ถือหุ้นบางรายเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นและขอให้ชี้แจงว่าการกระทำดังกล่าวได้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือข้อบังคับของบริษัทข้อใดหรือไม่ อย่างไร
      
      

      จากนั้นวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 จำเลยได้มีหนังสือชี้แจงกรณีไม่อนุญาตให้ผู้ถือหุ้นบางรายเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 ถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีใจความสำคัญว่า มีข้อเท็จจริงเปิดเผยแพร่หลายจนก่อให้เกิดข้อสงสัยอันสมควรว่าหุ้นของผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่เป็นหุ้นที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หากอนุญาตให้ผู้ถือหุ้นกลุ่มดังกล่าวเข้าประชุมและใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมได้ตามปกติโดยอาศัยหุ้นที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายนั้น จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัท   ดังนั้นโจทก์เห็นว่าการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558  เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 และมติที่ประชุมวาระ 1 ถึง 9 วาระ  ดังกล่าวเป็นโมฆะ