ศาลฎีกาสั่งพิพากษาคุก"จตุพร"6เดือนคดีหมิ่น"อภิสิทธิ์"ตีตนเสมอเจ้า-รอลงอาญา2ปี

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่www.tnews.co.th

ศาลฎีกา พลิกกลับคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ สั่งลงโทษจำคุก "จตุพร พรหมพันธุ์" 6 เดือน คดีหมิ่นประมาท "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ตีตนเสมอเจ้า โดยโทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี
     เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (2 มิ.ย.59 )  ที่ ศาลอาญา รัชดา องค์คณะศาลฎีกาได้ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษา  ในคดีดำหมายเลข อ.404/2552 ที่ นาย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  เป็น โจทย์ ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จากคดีฟ้องร้องหมิ่นประมาท 6 กรณี 4 สำนวน  กรณีหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา  ตามประมวลกฎหมายอาญา 326, 328, 332   โดยศาล มีคำให้พิพากษาจำคุก นายจตุพร เป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยรับโทษมาก่อน โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี   รวมทั้ง ให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาย่อในหนังสือพิมพ์ เอเอสทีวี-ผู้จัดการรายวัน และ มติชน  เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน

     คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค.52 จำเลยได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยนำภาพโจทก์ขณะเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้นั่งเก้าอี้เสมอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งการกระทำของจำเลยมีเจตนาหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ว่าไม่ถวายความเคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์ในขณะเข้าเฝ้าฯ ที่ประชาชนพึงปฏิบัติ และทำตัวตีเสมอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งอดีตที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏว่ามีนายกรัฐมนตรีคนใดเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยนั่งเก้าอี้ลักษณะเช่นเดียวกับโจทก์

     ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีว่าไม่ได้กระทำผิดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น    และศาลอุทธรณ์ประชุมตรวจสำนวนแล้วเห็นว่า เมื่อปรากฏภาพโจทก์นั่งเก้าอี้ถวายงาน จำเลยได้กล่าวถึง โจทก์ว่าไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดนั่งเก้าอี้ถวายงานลักษณะเช่นเดียวกับโจทก์ ซึ่งแม้ว่าจำเลยจะกล่าวถึงโจทก์ด้วยความรู้สึกนึกคิดของตนเอง แต่เป็นไปได้ว่าผู้ที่ได้รับฟังจะไม่ได้คล้อยตามความรู้สึกนึกคิดของจำเลยทั้งหมด ขณะที่ทางนำสืบจำเลยเบิกความยอมรับว่าไม่เคยได้เข้าเฝ้าฯ ถวายงานลักษณะเช่นเดียวกับโจทก์ แม้ว่าจำเลยจะเป็น ส.ส. แต่เมื่อไม่เคยเข้าเฝ้าฯ ลักษณะดังกล่าว จึงเชื่อว่าจำเลยไม่ทราบขั้นตอนการเข้าเฝ้าฯ ดังกล่าว และแม้ว่าโจทก์จำเลยจะมีเหตุขัดแย้งในทางคดีมาก่อน ก็ยังไม่มีเหตุขนาดที่จะฟังว่ามีเจตนาให้ร้ายโจทก์ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง