เสื่อมศรัทธา!?!! เตือน "ธรรมกาย" ดื้อดึงปกป้องธัมมชโยผิด ๆ การเมืองจะแทรกจนสูญความเป็นวัด??

ติดตามรายละเอียด www.tnews.co.th

     แม้ว่าล่าสุด  พระมหานพพร ปุญญชโย   ผู้ช่วยสำนักสื่อสารองค์กร  วัดธรรมกาย จะออกมายืนยันว่า  ชายต้องสงสัยซึ่งอาจเกี่ยวข้องทางการเมืองเข้ามาในวัด   ได้ออกจากวัดไปแล้วโดยความสมัครใจ  และย้ำว่าวัดพระธรรมกายมุ่งเน้นการปฏิบัติธรรมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง  แต่ร่องรอยความมัวหมองที่เกิดขึ้นจาก นายกิตติศักดิ์ ศรีสุนทร หรือ แจ็ค   แนวร่วมกองกำลังเสื้อแดงติดอาวุธ   คงยากจะทำให้วัดธรรมกายได้รับความมั่นใจได้ในเจตนาธรรมเช่นในอดีตที่ผ่านมา  และยิ่งกับวัตรปฏิบัติต่อการปกป้องพระธัมมชโย  โดยการบริหารจัดการศาสนสถานให้เป็นเสมือนหนึ่งค่ายรบให้รอดพ้นจากการบุกรุกของศัตรู   ซึ่งในทีนี้ก็คือดีเอสไอ  ก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของวัดธรรมกายในฐานะสถานที่ปฏิบัติธรรมตกต่ำอย่างที่สุด  ???

 

เสื่อมศรัทธา!?!! เตือน "ธรรมกาย" ดื้อดึงปกป้องธัมมชโยผิด ๆ การเมืองจะแทรกจนสูญความเป็นวัด??

 

 

     กับสถานการณ์ขณะนี้  สนธิญาณ  ชื่นฤทัยในธรรม   ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์    ประเมินว่า   ต้องยอมรับว่าวัดธรรมกายวันนี้ได้ถูกลากโยงไปเกี่ยวพันกับการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว   และด้วยสถานการณ์เช่นนี้ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับวัดธรรมกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้   ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับลูกศิษย์ลูกหา ก็คือการนำพระธัมมชโยไปรับทราบข้อกล่าวหาตามข้อเสนอของดีเอสไอ ซึ่งถือว่าได้ยอมอะลุ่มอล่วยให้กับพระธัมมชโยอย่างเต็มที่แล้ว  ด้วยนัดหมายไปพบกันที่โรงพยาบาลศูนย์ธรรมศาสตร์  รังสิต  ซึ่งเพียงเท่านี้เชื่อว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะยุติจบลงทันที   โดยเฉพาะพระธัมมชโยที่จะได้รับการดูแลอย่างดีจากคณะแพทย์ หรือถ้าไม่ไว้ใจคณะแพทย์ก็ยังมีทางเลือกในการนำพระธัมมชโยกลับไปยังวัดธรรมกายได้หลังการประกันตัว 

 

     ในทางตรงข้ามถ้าพระธัมมชโยและวัดธรรมกายยังฝืนดื้อดึงอย่างนี้   ปรากฎการณ์โหนกระแสของพรรคเพื่อไทยและเครือข่ายนปช.ก็จะยังเดินคู่ขนานไปอย่างต่อเนื่อง  ทั้งที่เห็นชัดเจนว่าเป็นการแสดงความเห็นที่ไม่มีความปรารถนาดีใด ๆ เลยต่อพระธัมมชโยและวัดธรรมกาย   แต่เป็นการพูดเพื่อแสวงประโยชน์ใส่กลุ่มตนเองและพวกพ้องทั้งสิ้น   โดยเฉพาะการปลุกเร้าให้พระลูกศิษย์ลูกหาพระธัมมชโยเกิดความไม่พอใจต่อคสช.  และกลายเป็นจุดเชื่อมโยงให้วัดธรรมกายถูกลากดึงไปสู่สถานการณ์การเมืองในวันข้างหน้าในที่สุด   เมื่อถึงขั้นตอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร    ต้องเข้าสู่กระบวนการชดใช้ค่าเสียหายทางการปกครองเป็นหมื่น ๆ ล้านบาทจากผลที่เกิดขึ้นจากการอนุมัติดำเนินนโยบายจำนำข้าว   ซึ่งวันนี้เจ้าตัวก็กำลังเดินสายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อสร้างกระแสทางการเมือง  ที่เครือข่ายทักษิณต้องการนำพากระแสเหล่านี้ไปบรรจบกันเพื่อให้เกิดแรงต่อต้านรัฐบาลและคสช.ที่เข้มข้นมากขึ้น

    

      นอกจากนี้สิ่งลูกศิษย์ลูกหาวัดธรรมกายจะต้องพิจารณาให้ถ่องแท้   ก็สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากกระแสข้อเท็จจริงและนำไปพิจารณาว่าควรยินยอมให้พระธัมมชโยได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเหมาะสม   ก่อนที่ปัญหาจะบานปลายไปกว่านี้หรือไม่   ก็คือสิ่งที่ปรากฏจากข้อมูลข่าวว่าด้วย การเข้าไปอยู่วัดธรรมกายของ  นายกิตติศักดิ์  หรือ แจ็ค  ซึ่งมีข้อเท็จจริงประการสำคัญว่าเป็นผู้มีความชำนาญเรื่องการใช้อาวุธมาตั้งแต่ปี  2553     เพียงแต่ยังไม่ชัดเจนว่านายกิตติศักดิ์มีเจตนาจะเข้าไปปกป้องพระธัมมชโย   เพราะมีความศรัทธาต่อพระธัมมชโยจริง ๆ   หรือ   เข้าไปเพราะมีการจัดส่งกองกำลังติดอาวุธเข้าไปในวัดธรรมกายโดยใครบางคน  ซึ่งถ้ามองด้วยความเป็นจริงคำถามนี้ย่อมมีคำตอบในตัวเองอยู่แล้ว  ว่านายกิตติศักดิ์เข้าไปอยู่ในวัดธรรมกายด้วยเหตุผลใด !!

 

     ดังนั้นประเด็นที่ลูกศิษย์ลูกหาวัดธรรมกายทุกคน   จะต้องร่วมกันฉุกคิดและเร่งแก้ไขสถานการณ์โดยเร็ว  ด้วยความปรารถนาดีของผู้ติดตามข่าวนี้มาโดยตลอด   มีคำถามว่าทุกท่านจะยังคงปกป้องพระธัมมชโยโดยวิธีการอย่างนี้ต่อไปอีกหรือไม่   เพราะสิ่งที่เป็นข้อมูลหลักฐานของทางราชการขณะนี้    ถ้าวันหนึ่งเริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ  ว่าภายในวัดธรรมกายมีกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับกองกำลังติดอาวุธเข้าไปแฝงตัวอยู่   และถ้าลูกศิษย์ลูกหา   รวมถึงครูบาอาจารย์ยังไม่ชัดเจนถึงแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักธรรมมะ  และปล่อยให้สถานการณ์สุกงอมเมื่อฝ่ายความมั่นคงมั่นใจว่าภายในวัดธรรมกาย  มีแนวทางการปกป้องพระธัมมชโยในลักษณะเป็นภัยต่อความมั่นคง  ทั้งจากการเคลื่อนไหวในเชิงต่อต้านอำนาจรัฐ  และการเชื่อมโยงกับกองกำลังติดอาวุธ  เมื่อนั้นก็คงจะยากที่ลูกศิษย์ลูกหา และครูบาอาจารย์จะยังสามารถรักษาวัดธรรมกายให้พ้นจากความเสียหายที่เกิดขึ้น  จากการตัดสินใจในลักษณะนี้ต่อไปได้     ??