อุทธรณ์ยกฟ้อง!! ศาลอาญาชี้สนธิลิ้มกับพวกไม่ผิดปราศรัยหมิ่นทักษิณ??

ติดตามรายละเอียด www.tnews.co.th

     วันนี้  ( 2 มิ.ย.)  ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.1252/2556 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 10 และนายทักษิณ ชินวัตร ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด โดยนายพชร สมุทวณิช และนายขุนทอง ลอเสรีวานิช กรรมการผู้มีอำนาจ , บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายปัญจภัทร อังคสุวรรณ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กรรมการผู้มีอำนาจ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เป็นจำเลยที่ 1 - 3 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร การกระจายเสียงหรือภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กรณีปราศรัยหมิ่น นายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี
         

     ตามฟ้อง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.51 เวลากลางคืน  นายสนธิ แกนนำ พธม. จำเลยที่ 3 กล่าวปราศรัยเวทีการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ บริเวณทำเนียบรัฐบาล ผ่านเครื่องขยายเสียงให้ผู้ชุมนุมจำนวนมากฟังทำนองว่านายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี จาบจ้วงสถาบัน และพยายามซื้อรากหญ้า ยึดตำรวจและเอาเงินไปจ่ายให้ทหารบางคนเพื่อให้สถาบันกษัตริย์อ่อนแอ ทำลายรากฐานของกษัตริย์ โดยมีจำเลยที่ 1-2 เป็นผู้ถ่ายทอดสัญญาณภาพและเสียงผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี และเว็บไซต์ผู้จัดการ ซึ่งทำให้ นายทักษิณ ผู้เสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง เหตุเกิดทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรไทย จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
         

     โดยศาลชั้นต้น พิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่า เป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความเห็นด้วยความเป็นธรรม ทั้งในฐานะประชาชนและสื่อมวลชน ซึ่งเป็นวิสัยที่ประชาชนย่อมกระทำได้โดยสุจริตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (3) จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
       

     ต่อมานายทักษิณ โจทก์ร่วม ได้ยื่นขออุทธรณ์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามกฎหมาย  และศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า ประเด็นข้อความที่นายสนธิ จำเลยที่ 3 กล่าวว่า “ วันนี้ผมไม่รู้ว่าสื่อมวลชน นักคอลัมนิสต์ คนที่ทำงานโทรทัศน์จะโง่ หรือว่าแกล้งโง่ที่ยังดูไม่ออกอีกหรือว่ารัฐบาลชุดนี้ ภายใต้บงการของนายทักษิณ ชินวัตร ใช้เงินมาซื้อข้าราชการและประชาชนบางส่วน...” นั้น แม้จะเป็นข้อความหมิ่นประมาทที่ให้นายทักษิณโจทก์ร่วมเสื่อมเสียชื่อเสียง   แต่จำเลยนำสืบว่า มีบุคคลอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวพันร่วมกับโจทก์ร่วมในทางการเมือง บุคคลใกล้ชิดและบริวารโจทก์ร่วม เช่น นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เคยถูกดำเนินคดีอาญาข้อหาความผิดหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามมาตรา 112
 

      จึงเห็นว่านายสนธิ จำเลยที่ 3 มีความเชื่อหรือสงสัยว่านายทักษิณ โจทก์ร่วม อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอันเป็นการแสดงความเห็น หรือกล่าวติชม ด้วยความเป็นธรรมในเรื่องบ้านเมืองและกิจการสาธารณะ ที่บุคคลและประชาชนทั่วไปสามารถกระทำได้ การกระทำของนายสนธิ จำเลยที่ 3 ดังกล่าวจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (3) เมื่อศาลพิพากษาว่าการกระทำของนายสนธิ จำเลยที่ 3 ไม่เป็นความผิด จำเลยที่ 1 และ 2 จึงไม่มีความผิดด้วย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากยืนให้ยกฟ้อง