- 05 มิ.ย. 2559
ติดตามรายละเอียด www.tnews.co.th
ถือเป็นข่าวเศร้าของชาวจังหวัดสุรินทร์ เมื่อ หลวงปู่พวน หรือ พระมงคลวราภรณ์ เกจิอาจารย์ชื่อดัง วัดมงคลรัตน์ หรือ วัดช้างหมอบ จังหวัดสุรินทร์ ได้ละสังขารอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา รวมอายุ 87 ปี 67 พรรษา
ตามประวัติ หลวงปู่พวน มีชื่อเดิมว่า “พวน แก้วหล่อ” เกิดวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 15 เดือนเมษายน พ.ศ.2472 โยมบิดาชื่อ นายเมาว์ นามสกุล แก้วหล่อ โยมมารดาชื่อ นางแหวน นามสกุล แก้วหล่อ ณ บ้านตราด หมู่ ๒ ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ บรรพชาเป็นสามเณรขณะอายุ 14 ปี (พ.ศ.2486) ณ วัดคอโค (วัดสง่างาม) อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยมีหลวงปู่อวง ปัจฉิมปัญโญ วัดสง่างาม จ.สุรินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่ออายุครบบวชจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันพฤหัสบดีขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล วันที่ 25 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2492 ณ พัทธสีมาวัดสง่างาม ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยมีพระครูโสภณคณานุรักษ์ วัดประทุมศรัทธา จ.สุรินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการจิตร์ กิตฺติญาโณ วัดโพธิ์สลาด จ.สุรินทร์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระงา ขนฺติพโล วัดประทุมศรัทธา จ.สุรินทร์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์, ได้รับฉายานามว่า วรมงฺคโล
ขณะที่ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่พวน ได้รับเคารพนับถือว่าเป็นเกจิอาจารย์แห่งแดนอีสานใต้ที่ยึดมั่นในการบำเพ็ญแห่งบุญ ซึ่งครั้งหนึ่งท่านได้เล่าถึงการได้ธุดงค์มาพำนักที่บนเนินเขาพนมดงรักแห่งนี้ ว่าเกิดจากการบำเพ็ญเพียรวิปัสสนากรรมฐาน นั่งสมาธินิมิตเห็นพระปรางค์รูปทรงตามที่ได้จัดสร้าง เป็นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เพราะว่า สวรรค์ชั้นดาวดึงส์มีธรรมสภากว้างขวาง ใหญ่โตและเป็นสวรรค์ชั้นที่เทวดาในชั้นจาตุมหาราชิกาสามารถขึ้นไปฟังพระธรรมจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เสด็จมาโปรดพระพุทธมารดาตลอดไตรมาส ให้เทพดาในโลกธาตุที่ประชุมฟังธรรมอยู่ในที่นั้น ได้บรรลุมรรคผลสุดที่จะประมาณ ในอวสานกาลเป็นที่จบคัมภีร์มหาปัฎฐาน ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่ 7 พระมหามายาเทวี พระพุทธมารดาได้บรรลุพระโสดาปัตติผล สมพระประสงค์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่ได้ทรงตั้งพระทัยเสด็จขึ้นมาสนองคุณพระพุทธมารดา
จากนิมิตดังกล่าวหลวงปู่พวนขณะนั้รนไม่รู้ว่าจะจัดสร้างได้อย่างไร แต่คิดว่าสถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นดินแดนธรรมในอนาคต เทพพรหมคงมากำหนดให้เห็นเป็นนิมิต จึงได้ทำพิธีบวงสรวงขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้มีคนมาช่วยให้การสร้างพระปรางค์ประสบผลสำเร็จเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระสารีริกธาตุของพระอริยสงฆ์และพระธาตุที่เสด็จมาและเก็บไว้ที่วัดแห่งนี้เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาและให้พุทธศาสนิกชนได้เคารพบูชาสักการะได้ตลอดไป
ต่อมาได้มีหญิงสาวผิวขาวร่างสันทัด อายุ 17 ปี มาพร้อมชายวัยกลางคน ประมาณ 50 ปี เศษ มาขอออกแบบพระปรางค์พร้อมแกะลายยอดพระปรางค์ให้ด้วย โดยอาตมาบอกเขาตามนิมิตที่เห็น เขาทำงานกันทั้งวันไม่พูดจากับใคร อาตมาก็ไม่กล้าเข้าไปซักถามจึงไม่ทราบว่ามาจากไหนโดยใช้เวลาเพียง 15 วัน ได้นำแบบทั้งหมดมาให้และบอกว่า ต่อไปจะมีคนมาสร้างให้ หลังจากนั้นเขาทั้ง 2 คนก็ออกจากวัดไป ไม่ได้เจอกันอีกเลยจนถึงปัจจุบันนี้ และหลวงปู่พูวนก็สามารถสร้างวัดมงคลรัตน์ หรือ วัดช้างหมอบ ได้เป็นผลสำเร็จ เฉกเช่นเดียวกับ พระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่มีผู้คนหมุนเวียนไปกราบเคารพบูชาตลอดเวลา
(ขอบคุณภาพ : http://isannews.blogspot.com)
ปัจจุบันหลวงปู่พวน ถือเป็นพระเกจิอาจารย์องค์สำคัญของภาคอีสานตอนใต้ เป็นผู้เปี่ยมด้วยพรหมวิหารธรรม มักน้อยและมีความสันโดษ พูดน้อย วาจาศักดิ์สิทธิ์ มีความเชี่ยวชาญในวิปัสสนาธุระและไสยเวทยิ่งนัก วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์มากมายทั้งแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี โชคลาภ เจริญก้าวหน้าแก้กันคุณไสย ฯลฯ มีทหารไปรบที่ใต้ ที่อีสานชายแดนเขมรแคล้วคลาดปลอดภัยรอดตายมานักต่อนัก จนเป็นที่เรื่องลือของคนในพื้นที่
ทั้งนี้สังขารของหลวงปู่พวน หรือ พระมงคลวราภรณ์ จะถูกนำตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดมงคลรัตน์ (วัดคอโค) ตำบลคอโค อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 2559 เป็นต้นไป