- 20 มิ.ย. 2559
ติดตามรายละเอียด www.tnews.co.th
ถือเป็นเรื่องใหม่ที่เกี่ยวข้องผู้ขับขี่จักรยานยนต์หลายล้านชีวิตในกรุงเทพมหานคร เมื่อมีการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.)รับผิดชอบดูแลงานจราจร ว่า จากการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาห้ามรถจักรยานยนต์ใช้สะพานข้ามทางแยกและอุโมงค์ลอดแยกรอบล่าสุด ทางกรุงเทพมหานคร(กทม.) โดยสำนักการจราจรและขนส่ง พร้อมด้วยสำนักโยธา ได้เสนอแนวคิดที่จะสร้างช่องสำหรับรถจักรยานยนต์ในถนน 10 เส้นทาง เพื่อลดปัญหารถจักรยานยนต์เข้าไปใช้ช่องทางรถยนต์และเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ
อย่างไรก็ตามเนื่องจากทาง บช.น.เพิ่งทราบรายละเอียดโครงการของกทม. ตนจึงได้รับแนวคิดไปพิจารณาอีกครั้งว่าการสร้างช่องทางสำหรับรถจักรยานยนต์นั้นจะมีความเหมาะสมกับสภาพปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯหรือไม่ เพราะโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครมาก่อน ซึ่งก่อนที่จะมีการดำเนินการทางกทม.จะต้องประสานงานกับสน.ท้องที่เพื่อนำเสนอรายละเอียดและรูปแบบให้เกิดความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่อีกครั้ง
โดยถนนนำร่องโครงการช่องทางรถจักรยานยนต์ 10 เส้นทาง ได้แก่ 1.ถนนพระรามที่ 6 จากถนนพระราม1 ถึงถนนราชวิถี 2.ถนนพิษณุโลก จากถนนราชดำเนินนอกถึงถนนสามเสน 3.ถนนงามวงศ์วาน จากถนนวิภาวดีรังสิต ถึงถนนประชาชื่น 4.ถนนพระราม9 จากถนนรามคำแหงถึงถนนศรีนครินทร์ 5.ถนนศรีนครินทร์ จากแยกพัฒนาการ ถึง แยกศรีอุดม 6.รัชดาภิเษกใต้ทางด่วน จากแยกด่วนสาธุ ฯ ถึงก่อนถึงด่านทางด่วนช่องนนทรี 7.ถนนรัชดาภิเษก จากแยกอโศก ถึงแยกพระรามที่4 8.ถนนวงศ์สว่าง จากถนนประชาราษฎร์ ถึงเชิงสะพานพระราม7 9.ถนนรามคำแหง จากแยกคลองตัน ถึงแยกลำสาลี และ 10.ถนนสรรพาวุธ จากแยกบางนา ถึงแยกสรรพาวุธ
ส่วนปัญหารถจักรยานยนต์ที่ฝ่าฝืนขับขึ้นสะพานข้ามแยก และอุโมงค์ทางลอดแยก พล.ต.ต.อดุลย์ ระบุว่าทางบช.น.ได้มีการเข้มงวดและดูแลโดยมีการออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรชั่วคราวไปแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาออกเป็นข้อบังคับแบบถาวร เนื่องจากบช.น.เห็นว่าการที่จะปล่อยให้รถจักรยานยนต์ใช้สะพานข้ามแยกและอุโมงค์ลอดแยกนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากเกินไป อีกทั้งสะพานข้ามแยกที่มีการก่อสร้างนั้นไม่สามารถขยายช่องทางเพื่อรองรับรถจักรยานยนต์ได้เพราะมีข้อจำกัดด้านวิศวกรรมจราจร โดยปัจจุบันในกรุงเทพมหานครมีจำนวนรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกกว่า 4 ล้านคัน