- 25 มิ.ย. 2559
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/
นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 กล่าวถึงการพิจารณาขอหมายค้นวัดพระธรรมกายรอบ 2 ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดว่าจะขอหมายค้นวัดพระธรรมกายวันไหน และยังไม่มีการประชุมร่วมกับดีเอสไอด้วย แต่การขอหมายค้นครั้งนี้ คงต้องมีการประชุมการกันอีกเยอะว่าจะกำหนดวิธีปฏิบัติว่าจะใช้แบบไหนเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกัน เช่น การประกาศเขตตรวจค้นบริเวณวัด อาจจะต้องกันประชาชนออกจากวัด และถ้าประชาชนไม่ยอมออกก็ต้องจับกุมต่อไป เนื่องจากขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ต้องใช้เวลาและดูสถานการณ์ว่า เป็นจังหวะที่เหมาะสมหรือไม่ ตนคิดว่าดีเอสไอคงมีการวางแผนไว้หลายแผน ดังนั้นในการขอหมายค้นรอบ 2 จึงไม่น่าจะปล่อยไว้นานเกินไป
"การปฏิบัติการครั้งที่ 2 ต้องยกระดับการจับกุมขึ้นเรื่อยๆ คงไม่เหมือนเดิม ต้องมีมาตรการขยับจนกว่าจะจับกุมพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายได้ ส่วนกรณีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามรับเป็นคนกลางในการประสานงานเพื่อเจรจากับพระธัมมชโยนั้น ส่วนตัวเห็นว่าตอนนี้ไม่จำเป็นต้องเจรจาอีก เพราะว่าคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญาแล้ว"
ทางด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้ให้ความเห็นกรณี สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง รับปากจะเจรจากับวัดพระธรรมกายให้พระธัมมชโย เข้าสู่กระบวนการตามกฏหมายนั้น ส่วนตัวเห็นว่าการที่พระธัมมชโย ผู้ต้องหาถูกศาลอนุมัติหมายจับแล้วไม่ยอมมอบตัว จะเป็นปัญหาต่อกฏหมายบ้านเมืองและการบังคับใช้อำนาจรัฐ ขณะที่พระธัมมชโยเอง หากเจ้าหน้าที่จับกุมตัวก็จะต้องถูกจับสึก
ดังนั้นทางออกในเรื่องนี้หากพระธัมมชโย ยอมมอบตัวที่วัดพิชยญาติการาม ก็น่าจะเป็นเงื่อนไขที่พอรับได้ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ถ้าพระธัมมชโย ท่านยังไม่ยอมมอบตัวอีก คนในสังคมไทยก็คงจะมีกระแสต่อต้านมากขึ้น และจะทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ได้รับความชอบธรรมที่จะบุกเข้าจับกุมตัวและถ้าเลยมาถึงขั้นตอนนี้ทางคณะสงฆ์ก็คงยินยอมเห็นด้วยที่จะให้พระธัมมชโย ถูกจับสึกพ้นจากความเป็นพระ
“ที่ผ่านมาพระธัมมชโย ต้องการให้ดีเอสไอเข้าไปรับแจ้งข้อกล่าวหาที่วัดพระธรรมกาย แต่หากเป็นเงื่อนไขที่พระธัมมชโย ยอมเดินทางออกจากวัดพระธรรมกายมามอบตัวที่วัดพิชยญาติการาม ซึ่งก็แสดงว่าพระธัมมชโย ยอมถอย และไม่ถือว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองยอมอ่อนข้อให้ผู้ต้องหา ทั้งนี้ ถ้าเป็นที่วัดพิชยญาติฯ ถือได้ว่าเป็นสถานที่ของรัฐได้เพราะเป็นที่ทำการของเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ซึ่งก็เหมือนเมื่อครั้งปี2542”นายไพบูลย์ กล่าว และว่า“การที่สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ รับเจรจาครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสขบวนรถคันสุดท้ายที่พระธัมมชโย จะไม่ต้องถูกจับกุมตัวและไม่ถูกจับสึกด้วย ซึ่งถ้าพระธัมมชโยยังดื้อดึงไม่อาศัยรถขบวนนี้อีก คงไม่พ้นมาตรการต้องให้สึกเท่านั้น”
