หวั่นใจจะเป็นไปตามนั้น !!!  จตุพรยันถ้าร่างรธน.ผ่านประชามติไม่ลงสมัครเลือกตั้งส.ส.แน่ ๆ !!?!

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

     นายจตุพร พรหมพันธุ์  ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้กล่าวช่วงหนึ่งในการจัดรายการไลฟ์เฟซบุ๊คประจำวัน (  28  มิ.ย.)  ระบุว่า    ภายใต้กลไกรัฐธรรรมนญตั้งแต่ปี  2550  เป็นต้นมา  เห็นได้ชัดเจนถึงอำนาจเผด็จการเสียงข้างน้อยในรัฐสภา  ว่าเป็นอำนาจที่มีอานุภาพยิ่งกว่าเผด็จการเสียงข้างมากที่บางคนชอบแอบอ้าง   เพราะแท้จริงแล้วคนเหล่านั้นได้รับแรงสนับสนุนแฝงจากลุ่มคณะบุคคล  อย่างวุฒิสมาชิกและรวมถึงองค์กรอิสระ    ถึงขั้นมีการจัดระบบสกัดกั้นนักการเมืองเสียงข้างมากในระบอบประชาธิปไตยทุกรูปแบบ  ตั้งแต่การจัดการเลือกตั้งไปจนถึงกระบวนการเข้ายึดอำนาจของประชาชน  ซึ่งแต่ละครั้งของความขัดแย้งก็เป็นต้นเหตุทำให้ภาคประชาชนต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กับความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้น   

     ที่น่าสนใจก็คือ  นายจตุพร  อ้างว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ผ่านมาเป็นกรณีที่เกิดขึ้นน้อย จึงไม่ควรจะเป็นเหตุของการนำไปสู่การใช้เป็นข้ออ้างในการเข้ายึดอำนาจของประชาชน    อย่างไรก็ตามส่วนตัวยังคงเห็นตรงกับความคิดของทุกฝ่าย  ว่านักการเมืองที่มีพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชั่น   โดยการซื้อเสียงเข้ามาต้องสมควรถูกขจัดให้หมดสิ้นไป  และสรรหานักการเมืองที่มีหัวใจเป็นประชาธิปไตยเข้ามาแทนที่  เพื่อสกัดกั้นวงจรอุบาทว์ของการเลือกตั้งและการยึดอำนาจ   แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับองค์กรที่มีหน้าที่ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของไทยกลับมีพฤติกรรมคอร์รัปชั่นอำนาจของตัวเอง  โดยการเลือกทำคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างไม่เสมอภาค และถ้าวิธีการทำงานขององค์กรอิสระยังเป็นไปในลักษณะนี้ ก็คงไม่มีทางปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากประเทศไทยได้

 

       " ณ วันนี้สังคมเดินมาถึงจุดที่หลายคนมักตั้งคำถามว่าประเทศไทยเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร   ประชาชนคนไทยครับหลายปีที่ผ่านมาเรามีความเชืื่อที่แตกต่างกัน  ผมบอกเลยว่าหลายคนอาจไม่ชอบผมหรือคณะนปช.ก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าท่านรักชาติบ้านเมือง  ผมเชื่อว่าท่านมีความรัก มีความศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย  ผมจะชวนอย่างนี้ว่าเราวางเรื่องส่วนตัวของเรา   ที่ผ่านมาใครจะเชื่อทางการเมืองอย่างไรก็ตาม แต่ถ้ามีความเชื่อเรื่องระบอบประชาธิปไตย ว่าอำนาจต้องได้มาจากประชาชนเท่านั้น  เรายังร่วมมือกันได้ ด้วยความคาดหวังว่าทุกคนจะออกไปสิทธิ์พร้อมกันในการลงประชามติ  7 ส.ค. และไม่ว่าท่านจะตัดสินใจอย่างไร  ผมอยากให้ท่านวางความรู้สึกไม่พอใจลงมา และนึกถึงประเทศไทยให้มาก  ซึ่งไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไรผมก็น้อมรับการตัดสินใจของประชาชน ผมพูดย้ำอีกครั้งว่าถ้ารัฐธรรมนูญผ่าน นายจตุพรจะแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการไม่ลงสมัครับเลือกตั้งเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร  ส่วนถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่านใครจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ก็เป็นสิทธิของแต่ละบุคคลนั้น "