ต่อจิ๊กซอร์ค้ามนุษย์!!! กองปราบประสานตม.หาข้อมูลลึก"ไฮโซไก่"ส่งสาวทำงานฮ่องกงขณะเจ้าตัวเสียงแข็งขู่ฟ้องกลับ??

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

    สืบเนื่องจากกรณี นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วยน.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย วัย 19 ปี ว่าที่นิสิตปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังถูกนายจ้างหญิง ชื่อ “ไก่” หรือ “แดง”   แจ้งความดำเนินคดีกับบิดามารดาและน.ส.ประภาวรรณ ในข้อหาลักทรัพย์ โดยอ้างว่ามีทรัพย์สินสูญหายไปรวม 11 รายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2558

      ล่าสุด พ.ต.ต.ธนวัฒน์ หลีพงษ์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เปิดเผยว่า เบื้องต้นหลังจากผู้เสียหายเดินทางมาร้องพนักงานสอบสวน บก.ป.ได้สอบปากคำทั้งผู้เสียหาย รวมทั้งพยาน รวมประมาณ 5-6 ปากแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารและข้อมูลหลักฐานที่นำมามอบให้มาประกอบสำนวจคดีเพื่อพิจารณาว่าจะสามารถแจ้งข้อหากับบุคคลใดได้หรือไม่

     อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ป.ได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อตรวจสอบการเดินทางไปต่างประเทศของนางไก่ อดีตนายจ้างคนดังกล่าว ว่าได้เดินทางไปยังประเทศใดบ้าง โดยเฉพาะประเทศฮ่องกงซึ่งเป็นชนวนเหตุจูงใจที่ทำให้เกิดคดีทั้งหลายขึ้น โดยสังเกตจากพฤติกรรมว่าเมื่อใดก็ตามอดีตลูกจ้างต่างพยายามตีตัวออกห่าง หรือไม่ยอมไปทำงานที่ประเทศฮ่องกงนั้น จะถูกแจ้งความดำเนินคดีลักทรัพย์

      ทั้งนี้ทางการข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าอดีตนายจ้างน่าจะมีความสัมพันธ์หรือเบื้องลึกอะไรบางอย่าง จึงต้องการให้หญิงสาวที่ถูกส่งไปทำงานยังประเทศฮ่องกง    โดยตำรวจชุดสืบสวนเชื่อว่าหากได้ข้อมูลการเดินทางจากตำรวจ ตม. ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลา วันที่ รวมถึงบุคคลที่อดีตนายจ้างหญิงคนดังกล่าวเคยพาไปด้วย น่าจะเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ทำให้รูปคดีชัดเจนขึ้นได้     นอกจากนี้ ตำรวจ บก.ป.ยังได้ตรวจสอบข้อมูลการส่งหญิงสาวไปประเทศฮ่องกงของนางไก่ด้วย ว่ามีข้อเท็จจริงประการใด และมีกี่ราย ส่งไปทำอะไร โดยจะพิจารณาว่าเข้าข่ายค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่

     ทางด้าน นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  เปิดเผยว่า  วันนี้ยังไม่ได้นำนาวาเอกนายหนึ่ง ซึ่งเข้ามาให้ข้อมูลว่าลูกสาวเคยถูกชักชวนไปอยู่กับนางไก่ และชักชวนไปประเทศฮ่องกง ในลักษณะดังกล่าวมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน   เนื่องจากยังต้องรวบรวมเอกสาร และข้อมูลอีกส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม คาดว่าไม่น่าจะเกินวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ จะสามารถรวบรวมพยานบุคคลและพยานเอกสาร พร้อมทยอยเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนได้ ขณะที่วันนี้ น.ส.จันทนา หรือ หนูหนา ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนในบางประเด็นที่ยังตกค้างจากเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาแล้ว

 

      ส่วนความเคลื่อนไหวในฝั่งของ “นางไก่” เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งอาจจะมีการล่าช้าเนื่องจากต้องประสานงานกับหน่วยงานทางภาครัฐหลายหน่วย ส่วนกรณีคดีความของ น.ส.จันทนา หรือ หนูนา คชคงไทย อายุ 25ปี ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าถูกข่มขู่ให้รับสารภาพ รวมถึงเขียนจดหมายสารภาพด้วยนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากตนมีจดหมายฉบับจริง มีทั้งตราประทับของกรมราชทัณฑ์ ตราไปรษณีย์ ซึ่งตรวจสอบได้ว่าจดหมายดังกล่าวเป็นลายมือของน.ส.จันทนาจริง อีกทั้งขณะเขียนจดหมายดังกล่าวน.ส.จันทนาอยู่ภายในเรือนจำ ตนอยากจะถามว่าตนไปข่มขู่ได้อย่างไร หากน.ส.จันทนาไม่ได้กระทำความผิดจริงเหตุใดจึงต้องรับสารภาพ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าตนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานดังกล่าวเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ตนเองอยู่  และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้เริ่มมีอดีตลูกจ้างของนางไก่ที่เคยจ้างมาทำงาน เริ่มทยอยเข้าแจ้งความนางไก่นั้น นางไก่ กล่าวว่า ก็ปล่อยให้แจ้งความไปแต่หากตนไม่ผิดตนจะดำเนินคดีแจ้งความกลับทันที