- 04 ก.ค. 2559
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
ความคืบหน้ากรณี นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย( สปอท.) ได้นำเอกสารและหนังสื่อร้องเรียนเข้าพบกับ พ.ต.ท.สะอาด สุนทร ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือ และนางสาวพันธุดา สุกุล พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานภาคเหนือ ขอให้ดีเอสไอเข้าสอบสวน นางมณตา หยกรัตนกาญ อายุ 58 ปี หรือ นางไก่ โดยระบุว่าได้รับร้องเรียนจากหญิงสาวจำนวน 3 คน ที่เคยตกเป็นเหยื่อถูกหญิงไก่ข่มขู่และเรียกเอาเงิน ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.แม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน โดยหญิงสาวทั้งสามขอให้ดำเนินการทางกฎหมายกับนางไก่
ข้อมูลล่าสุดพบว่านายบุญญฤทธิ์ได้นำคลิปเสียงที่หญิงสาวทั้ง 3 คนร้องทุกข์กล่าวโทษนางไก่ มาเปิดให้สื่อมวลชน และพนักงานสอบสวนดีเอสไอฟัง โดยเป็นการอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มต้นจากการที่ นางไก่ ได้เดินทางมาที่หมู่บ้านที่ ต.แม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย และมีการอ้างตัวเป็นคุณหญิง โดยมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบางหน่วยงาน และพยายามชักชวนให้ไปทำงานบ้านที่กรุงเทพมหานคร พร้อมส่งเสียให้เรียนพยาบาล หรือตามแต่อาชีพที่ต้องการเรียน และจะมีค่าจ้างให้อีกคนละ 7,000 บาท แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึงก็ไม่ได้ไปเรียนตามที่อ้าง แต่กลับถูกใช้ให้ทำงานบ้านรวมทั้งพาเข้าบ่อนที่ลาวและเมียนมา เพื่อไปรับใช้นางไก่หลายครั้ง
นายบุญญฤทธิ์ ยืนยันว่า การมาร้องเรียนครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่ามีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในสังคมมีบางคน ฉกฉวยโอกาสกับคนที่ด้วยโอกาส กดขี่ ข่มเหงต่อเด็ก โดยมาหลอกเด็กด้วยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งเด็กเหล่านั้นส่วนใหญ่จะเป็นเด็กหน้าตาดี พอรับไปก็ไม่ดำเนินการตามสัญญาไม่จ่ายค่าจ้าง ไม่ให้เรียน ยึดบัตรประชาชนไว้ พอเด็กเห็นท่าไม่ดี ขอกลับบ้าน ก็ถูกทำร้ายร่างกาย บางคนก็ถูกข่มขู่จะจับกุมติดคุก ทำให้เด็กทั้งสามคนหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“มีหนึ่งในสามคนถูกนางไก่ส่งหนังสือลักษณะเป็นหมายเรียกไปให้ถึงบ้าน ซึ่งนางไก่ ได้เรียกเงินจำนวน 30,000 บาท ทำให้ครอบครัวของเหยื่อรายนี้ยอมจ่าย เพราะกลัวลูกติดคุก นอกจากเด็กทั้งสามคนนี้ เชื่อว่าจะมีอีกหลายคนที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน ซึ่งตนเองกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล ส่วนการเข้าร้องเรียนครั้งนี้ เพราะเชื่อว่าพฤติกรรมของนางไก่อาจเข่าข่ายการค้ามนุษย์และ เพื่อให้ความเป็นธรรมและเยียวยาครอบครัวเด็กที่ได้รับความเสียหาย โดยในส่วนของตนเองจะหาข้อมูลในพื้นที่และอำนวยความสะดวกให้กับดีเอสไอในการลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป”
ทางด้านพ.ต.ท.สะอาด ระบุว่า ตอนนี้เป็นเพียงขั้นตอนรับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณาว่าอาจจะเข้าข่ายผิดกฏหมาย แต่หลังจากนี้จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ประสานกับแต่ละอำเภอ เข้าไปพบเด็กผู้เสียหายและรวบรวมข้อมูลก่อนส่งให้อธิบดีดีเอสไอพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ต่อไป
