- 11 ก.ค. 2559
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
ถือเป็นประเด็นสืบเนื่องมาจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ในวันนี้ (11 ก.ค.) ที่ยืนยันจะยังไม่ทูลเกล้าฯชื่อว่าที่สมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ตราบใดที่กระบวนการตรวจสอบเรื่องรถเบนซ์นำเข้าของสมเด็จช่วงยังไม่ได้ข้อยุติ ล่าสุด พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช มีชื่อครอบครองรถเบนซ์โบราณ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพฯ ว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการรเอกสารสำคัญจากประเทศ สหรัฐอเมริกา ในส่วนของรถยนต์คันดังกล่าว รวมถึงยังรอเอกสารบางชิ้นจากประเทศอังกฤษ ที่ก่อนหน้านี้มอบหมายให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค เดินทางไปประสานขอเอกสารหลักฐาน ในส่วนรถยนต์หรูที่เกิดเหตุไฟไหม้ เพื่อนำมาประกอบสำนวน ซึ่งตอนนี้ก็เร่งดำเนินการทุกขั้น แต่การประสานความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศต้องใช้เวลาพอสมควร
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวด้วยว่า คดีการครอบครองรถเบนซ์โบราณ เบื้องต้นดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าไปแล้ว 3-4 ราย ตอนนี้รอเพียงเอกสารต้นทางการนำเข้ารถ ที่ปรากฎในเอกสารการนำจากประเทศต้นทาง แต่รถยนต์ลักษณะดังกล่าวในต่างประเทศมีชื้อขายกันจำนวนมากหลายแห่ง จึงต้องสืบค้นถึงต้นตอที่มาว่าขายจากที่ใดบ้างของประเทศต้นทาง โดยยอมรับว่าแม้เป็นเรื่องยาก แต่ดีเอสไอกำลังดำเนินการในส่วนนี้
“ดีเอสไอยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้ เพราะหากมีข้อมูลหลักฐานผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม อาจจะเกิดปัญหาตามมา จึงต้องรอความชัดเจนของข้อมูลในส่วนนี้”