ผิดชัดๆ เงื้อง่าอะไร!!! ผุดกก.สอบฟันวินัยอาญา2ตร.ฉาวสาวไส้ซื้อขายตำแหน่งสารวัตรบชน.??

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้มีการสอบสวนกรณี การซื้อขายตำแหน่ง ในกองบัญชาการตำรวตนครบาล ล่าสุด พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 2 กล่าวว่า ร.ต.อ.ชาญชาย เย็นสุข รองสารวัตรจราจรนิมิตรใหม่ แจ้งความกับพนักงานสอบสวนนครบาลบางซื่อว่า ถูก ร.ต.อ.ชนินท์ธัช รัตน์ชิโนตรัย รองสารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจนครบาลบางรัก หลอกลวงว่าช่วยให้ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นสารวัตร จึงได้นำเงินจำนวน 700,000 บาท มอบให้กับ ร.ต.อ.ชนินท์ธัช

     แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบว่าไม่มีชื่อได้เลื่อนตำแหน่ง จึงได้เข้าแจ้งความ ต่อมาเมื่อ ร.ต.อ.ชนินท์ธัช ทราบว่าถูกแจ้งความ จึงได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน โดยยอมรับสารภาพว่าได้แอบอ้างเรียกรับเงินจริง ซึ่งได้นำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว พร้อมกันนี้ ร.ต.อ.ชนินท์ธัช ได้นำเงินจำนวน 700,000 บาท มาฝากให้ตำรวจนครบาลบางซื่อ เพื่อคืนให้กับ ร.ต.อ.ชาญชาย แต่ถึงขณะนี้ ร.ต.อ.ชาญชาย ยังไม่ได้มารับเงินคืน
 

     ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 2 ยังกล่าวด้วยว่า พฤติการณ์ของ ร.ต.อ.ชนินท์ธัช มีความผิดทั้งทางวินัยและอาญา ซึ่งทางต้นสังกัดจะต้องสอบสวนเพิ่มเติมและดำเนินคดี จึงสั่งการให้ บก.น.3 และ บก.น.6 ซึ่งเป็นต้นสังกัดของตำรวจทั้ง 2 นาย ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดทางวินัยเอง นอกจากนี้การกระทำดังกล่าวทำให้สังคมเข้าใจผิด ว่าวงการตำรวจมีการซื้อขายตำแหน่ง และทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งบุคคลใดที่เคยถูกหลอกลวงจาก ร.ต.อ.ชนินท์ธัช สามารถมาแจ้งความได้ทันที

 

     เบื้องต้น พล.ต.ต.เจริญ ระบุว่า ได้สอบปากคำทั้งสองฝ่ายแล้ว โดย ร.ต.อ.ชนินท์ธัช ไม่เคยรู้จักนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และไม่สามารถวิ่งเต้นได้กับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้จริง โดยเงินที่ได้นำไปใช้ส่วนตัว แต่เมื่อรู้ว่าถูกแจ้งความดำเนินคดี จึงนำเงินมาฝากคืนไว้กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ซึ่งขณะนี้ ร.ต.อ.ชาญชาย ยังไม่เดินทางมารับเงินคืน

 

     ทั้งนี้ ร.ต.อ.ชนินท์ธัช ถือว่ามีความผิดในคดีอาญา ที่ไม่สามารถยอมความได้ แม้จะคืนเงินของกลางแล้วก็ตาม เพราะมีโทษทางอาญาฐานเรียกรับผลประโยชน์ และทางวินัย ซึ่งโทษทางวินัยสูงสุดคือ ไล่ออก โดยผู้บังคับบัญชาจะต้องตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยเพื่อพิจารณาโทษ เพราะกรณีนี้ส่งผลต่อความเสียหายภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งบุคคลใดที่เคยถูกหลอกลวงจาก ร.ต.อ.ชนินท์ธัช สามารถมาแจ้งความได้ทันที ส่วนจะลงโทษทางวินัยกับ ร.ต.อ.ชาญชาย หรือไม่ ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชา  

 

     สำหรับกรณีนี้ ร.ต.อ.ชาญชาย ผู้เสียหาย อ้างว่าได้จ่ายเงินให้กับ ร.ต.อ.ชนินท์ธัช ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใกล้กับ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ร.1 รอ. ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.ต.เจริญ มองว่าเป็นการสร้างเครดิตให้กับตัวเอง เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งหลังจากนี้ต้องเรียกทั้งสองมาสอบปากคำเพิ่มเติม ถึงรายละเอียดทั้งหมด และภายหลังจากสอบปากคำแล้ว ผู้เสียหายยังติดใจ อาจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในข้อหาฉ้อโกง