- 12 ก.ค. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่www.tnews.co.th
ครม.มีมติเห็นชอบ แก้ไข มาตรา 182 เพิ่มเติมประมวลกำหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตัดสินนักโทษหนีคดี ห้ามยื่นอุทธรณ์ และ ฎีกา ส่วนกรณีที่ศาลออกหมายจับแล้วภายใน1เดือนไม่มาศาล ให้อ่านคำพิพากษาลับหลังได้
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (12 ก.ค.) ที่ ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงร่างพ.ร.บ.แก้ไขวิธีเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาว่า ครม.เห็นชอบตาม ที่ นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอปรับแก้กฎหมายดังกล่าว
โดยไม่ต้องการให้จำเลยที่หนีคดีในระหว่างคดีอยู่ในชั้นศาล สามารถยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาได้ ซึ่งจำเลยจะยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาได้ต่อเมื่อแสดงตนต่อเจ้าพนักงานศาล หากไม่แสดงตนศาลจะไม่รับพิจารณาอุทธรณ์หรือฎีกา โดยครม.เห็นชอบเรื่องดังกล่าวตามที่นายมหรรณพได้เสนอมา เพราะตรงกับนโยบายของรัฐที่ต้องการสร้างความเป็นธรรมให้กับกฎหมาย
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า เดิมมาตรา 182 ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาระบุว่ากรณีใดที่ศาลออกหมายจับแล้ว ไม่ได้ตัวจำเลยมาภายใน 1 เดือนให้ศาลสามารถอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยได้ และ ถือว่าจำเลยได้ฟังคำพิพากษาแล้ว ซึ่งจำเลยก็จะสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์หรือฎีกาได้ โดยมอบให้ทนายของตนเป็นผู้รับมอบอำนาจยื่นอุทธรณ์หรือฎีกา โดยนายมหรรณพมองว่าไม่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการพิจารณาคดี เพราะจำเลยหนีคดีแต่ยังใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาได้ ซึ่งดูไม่เหมาะ จึงขอให้ออกกฎหมายดังกล่าวเพื่อไม่ให้คนที่คิดจะหนีศาลสามารถยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาได้