- 13 ก.ค. 2559
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
สืบเนื่องจากการ พระเมธีธรรมาจารย์ หรือ เจ้าคุณประสาร จนฺทสาโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ในฐานะเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กล่าสุดต่อแนวทางการเคลื่อนไหว สนับสนุน สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ “สมเด็จช่วง” เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ โดยการให้เวลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ดำเนินการให้ชัดเจนภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะกำหนดท่าทีร่วมกันในการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ทั่วประเทศ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ประกาศจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้กระทำผิดคำสั่งคสช.
ล่าสุดพระธรรมเมธีจารย์ หรือ เจ้าคุณประสาร ได้โพสต์เฟซบุ๊ค ระบุประเด็นที่ต้องการนำเสนอว่า "นายกรัฐมนตรีพูด เจ้าคุณประสารคิดอย่างไร ? "
จากการที่อาตมาได้โพสต์มติที่ประชุมของศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศ ไทย สมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนาพร้อมด้วยภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ โดยได้สรุปมติที่ประชุม 5 ข้อ รายละเอียดทราบกันแล้วนั้น อาตมาขอขยายความในมติที่ประชุมทั้งทั้ง 5 ข้อดังกล่าว ดังนี้
1.ข้อที่ 1 เป็นเรื่องการอนุโมทนาต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา
2.ข้อที่ 2-4 เป็นข้อเสนอแนะต่อภาครัฐและผู้ที่เดินหน้าคัดค้าน
3.ข้อที่ 5 เป็นเรื่องภายในองค์กรพุทธที่จะดำเนินการต่อไปเมื่อรวบรวมข้อมูลและสังเคราะห์ข้อมูล
หลังจากอาตมาได้โพสต์ข้อความจากมติที่ประชุมดังกล่าวแล้ว เกิดการ “ตีความ” ไปกันต่างๆนาๆ มากมาย ดังนี้
1.อาตมายื่นคำขาดต่อนายกรัฐมนตรีภายใน 7 วัน ให้เสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะเพื่อสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช
2.หากนายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องภายใน 7 วัน จะมีการนำม็อบพระมากดดันซึ่งตรงกับวันอาสาฬหบูชาวันที่ 19 กรกฎาคมนี้พอดี
อาตมา ยืนยันว่าทั้งหลายทั้งปวงไม่ได้มีปัญหาอะไร วันที่ 12 กรกฎาคม มีนักข่าวถามนายกรัฐมนตรีด้วยความหวังดีว่า พระเมธีฯ ยื่นคำขาดต่อนายกรัฐมนตรีว่าให้เสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะภายใน 7 วันจะทำอย่างไร นายกรัฐมนตรีตอบแยกได้เป็น 4 ประเด็น ดังนี้
1.ประเทศนี้เป็นของใคร
2.หากออกมาผิดกฎหมายและประกาศ คสช. จะจับกุมทันที
3.มายื่นคำขาดแบบนี้กับนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร
4.นายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้ยื่นคำขาด แต่ไม่ทำ
อาตมาตอบคำถาม ดังนี้
1.ประเทศนี้เป็นของทุกคน ไม่ผูกขาดว่าเป็นของคนใดคนหนึ่ง และไม่จำกัดความว่าเป็นของผู้ที่ป่าวประกาศว่าเสียสละและรักประเทศชาติ มากกว่าคนอื่น
2.ทำผิดกฎหมายและประกาศ คสช. เรื่องชุมนุมเกิน 5 คนต้องจับกุมคุมขัง เรื่องนี้ตรรกะควรเป็นอย่างนั้น แต่ขอให้คำนึงถึงความยุติธรรมด้านกฎหมายให้เสมอภาคกับทุกกลุ่ม ทุกคน อย่าเลือกปฏิบัติ ขอให้ทุกคน ทุกกลุ่มอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันทั่วประเทศ
3.มายื่นคำขาดแบบนี้กับนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร ตอบว่าอาตมาไม่เคยท้าทาย ไม่เคยก้าวร้าว ไม่ได้ยื่นคำขาด เพียงแต่ต้องการรักษาคณะสงฆ์และพระศาสนาเอาไว้เท่านั้นเอง ถ้าอ่านให้ดี และใช้วิจารณญาณจะเห็นว่าในมติข้อที่ 5 นั่นไม่ใช่การยื่นเงื่อนไข ไม่ใช่เรื่องข่มขู่ เป็นแต่เพียงการพูดถึงเป้าหมายและวิธีการภายในองค์กรพุทธเท่านั้นเอง
4.นายกรัฐมนตรีต่างหากที่ควรยื่นเงื่อนไข แต่ไม่ทำ ข้อนี้ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เป็นอำนาจของท่านนายกรัฐมนตรี
วันนี้อาตมาไม่ได้แก้ตัว ไม่ได้หวั่นวิตก แต่ก็ไม่ได้ท้าทาย ยังคงยืนอยู่บนหลักการเดิมคือ การพิทักษ์ปกป้องคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา แม้จะมีใครแปลเจตนาเป็นอย่างอื่นก็ตาม
ไม่ได้ท้าทาย ไม่ได้ลุกลี้ลุกลนที่ทำให้กลัวจนเสียสมณสารูปในความเป็นสงฆ์ แต่ขอยืนบนหลักการที่ถูกต้องชอบธรรมว่าวันนี้พระเมธีธรรมาจารย์ ขอเสียสละเพื่อรักษาคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาให้จิรัง ยั่งยืนสถาพรบนแผ่นดินไทยให้ตราบนานเท่านาน ...