ฮุคแรง!!! "หมอมโน" ยืนยันหนักแน่น "สมเด็จช่วง" ไม่อยู่ในฐานะนั่ง "สังฆราช" แล้ว

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

ฮุคแรง!!! "หมอมโน" อดีตศิษย์วัดพระธรรมกายเบอร์ต้น ๆ  ยืนยันหนักแน่น "สมเด็จช่วง" ไม่เหลือคุณสมบัตินั่งสังฆราชแล้ว เพราะตอบไม่ได้ว่า ทำไมต้องครอบครองรถหรู-ปฏิเสธไม่ได้เลย ส่วนหลวงพี่แป๊ะก็ซัดทอดช่างคนอื่นมั่วไปหมด จนคนหาเช้ากินค่ำเดือดร้อน...(แบบนี้เรียกว่า "สงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหรือ??) 

 

 

วานนี้ (22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นพ.มโน เลาหวณิช อาจารย์วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตศิษย์วัดพระธรรมกาย กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งข้อกล่าวหาสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ครอบครองรถหรูโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายว่า เมื่อเป็นอย่างนี้เรื่องที่จะให้นายกฯ นำรายชื่อสมเด็จช่วงขึ้นทูลเกล้าฯ ลืมไปได้เลย เพราะท่านไม่ได้อยู่ในฐานะที่เหมาะสมกับตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชแล้ว คดีนี้ท่านชี้แจงลำบากว่า ทำไมถึงครอบครองรถหรู เพราะเช็คที่จ่ายไปเป็นลายมือของท่าน ปฏิเสธไม่ได้เลย ส่วนหลวงพี่แป๊ะก็ไปซักทอดคนอื่นซึ่งเป็นนายช่างที่หาเช้ากินค่ำ ทำให้เขาต้องเดือดร้อนอีกคน โดยคำให้การจะผูกพันตัวหลวงพี่แป๊ะเอง

 

 

“เมื่อดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาถือว่าสมเด็จช่วงต้องพิจารณาตัวเองว่าเมื่อท่านต้องคดีอาญาแล้ว คุณสมบัติที่จะขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชก็หมดไปด้วย และควรจะลาออกจากตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเพื่อให้สมเด็จองค์อื่นรักษาการแทน นอกจากนี้ ตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) สมเด็จพระราชาคณะ เจ้าอาวาส วัดปากน้ำภาษีเจริญ ก็ไม่ควร เพราะท่านเป็นพระสังฆาธิการที่ต้องคดีอาญา ต้องหยุดทั้งหมดทุกตำแหน่งจนกว่าคดีจะจบ”นพ.มโน กล่าว

 


 

 

 

 

นพ.มโน ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนการเคลื่อนไหวของพระธรรมเมธีจารย์ หรือ เจ้าคุณประสาร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย (ศพศ.) ต่อไปนี้ก็จะมาเร่งรัดอะไรนายกฯให้ทูลเกล้าฯไม่ได้แล้ว เพราะถือว่ากระบวนการที่มส.เสนอชื่อสมเด็จช่วงมา แม้จะเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ แต่เมื่อบุคคลนั้นต้องคดีอาญาก็เท่ากับว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นสมเด็จพระสังฆราชได้

 


"การเสนอชื่อสมเด็จช่วงของมส.ที่ผ่านมาถือว่าเป็นศูนย์เลย เพราะสมเด็จพระราชาคณะที่เสนอชื่อไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไม่ใช่เพราะชราภาพ แต่เป็นเพราะต้องคดีอาญาแผ่นดิน”นพ.มโน กล่าวและว่า ตนคิดว่าการที่มส.จะเสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะคนใหม่มาอีกคงยัง เพราะถ้าเสนอมาอีกก็เกรงว่าจะเป็นปัญหาอีก ขณะเดียวกัน การจะเริ่มต้นใหม่ คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความเอาไว้ในสองนัยว่า ถ้าเกิดความล่าช้า ให้มส.หรือนายกฯ สามารถดำเนินการได้ แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้บอกว่าที่ว่าล่าช้านั้นกรอบอยู่ในเวลาเท่าไร กี่วัน" หมอมโน กล่าว


ข้อมูล : ไทยโพสต์