ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     น่าแปลกใจว่าแม้ผลการทำประชามติร่างรธน. และคำถามพ่วงจะมีผลคะแนนการยอมรับจากประชาชนออกมาอย่างล้นหลาม แต่ดูเหมือนว่านักการเมืองยังไม่วายที่จะมีปฏิกิริยาตามมา คือไม่ยอมรับกับผลประชามติที่ออกมาโดยมีเหตุผลรองรับแตกต่างกันไป อย่างกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรมต.ระยะนี้ก็ดูเหมือนจะออกมาเคลื่อนไหวถี่เป็นพิเศษ โดยทันทีที่มีผลประชามติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขึ้นเฟซบุ๊ก ว่า ดิฉันขอน้อมรับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน แต่ขอแสดงความคิดเห็นคือผลประชามติไม่เปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ในเนื้อหาสาระของรธน. และยังเป็นการรับฟังข้อมูลเพียงฝ่ายเดียวซึ่งแตกต่างไปจากการทำประชามติที่ทั่วโลกเค้าทำกัน

     และในเฟซบุ๊ก น.ส ยิ่งลักษณ์ ยังได้บอกอีกว่ารู้สึกเสียใจและเสียดายที่ประเทศจะต้องถอยหลังไปใช้รธน.ที่ไม่ใช่รธน.ที่เเท้จริง เท่านั้นยังไม่พอ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังไปให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศคือเอเอฟพี ว่าตนรู้สึกรับไม่ได้กับผลโหวตรับร่างรธน.ในการลงประชามติครั้งนี้ เพราะจะทำให้ประเทศไทยถอยหลังลงคลองกับการลงประชามติที่ไม่ได้มาตรฐานสากล

     นี่ขนาดคะแนนรับร่างรธนและคำถามพ่วงชนะกันแบบถล่มทลายคือคะแนนเห็นชอบร่างรธน.ห่างกับคะแนนไม่เห็นชอบถึง6ล้านเสียง และประเด็นคำถามพ่วง มีคะแนนที่ห่างกัน 3ล้านเสียงซึ่งในมุมของสื่อต่างประเทศมองผลคะแนนครั้งนี้ว่า ถือเป็นความพ่ายแพ้ของตระกูลชินวัตร โดยที่เคยเชื่อกันว่าพรรคเพื่อไทยกุมฐานเสียงในภาคเหนือ และ อีสาน แต่ผลคะแนนที่ออกมาก็ทำให้เห็นว่า ไม่ใช่อย่างที่คิดไว้เสียแล้ว หรือนี่กำลังเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าถึงยุคตกต่ำ หรือ สิ้นมนต์ขลังของตระกูลชินวัตรแล้ว