ใต้เงารธน.!! พรรคการเมืองถูกตอน "นิพิฏฐ์"เปิดสูตร"รบ.ผสม"หลังลต.เตือน อย่าเอา สว.เลือกนายกฯ

"นิพิฏฐ์"เปิด สูตรตั้ง "รัฐบาล" หลังเลือกตั้ง ฟันธง ใต้เงา รธน. ไร้พรรคการเมืองได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง เตือนเอาสว.เลือกนายกฯ "รัฐบาล"อยู่ไม่นาน เชื่อ พท.ดิ้น ล็อบบี้พรรคเล็กคานอำนาจ ห่วงประชาคมโลกมอง "รัฐบาลกึ่งทหาร"

วันนี้ (9 ส.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหน.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เห็นด้วย ที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุว่า สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต้องเลือกนายกรัฐมนตรี โดยคำนึงถึงเสียง ส.ส. ด้วย  มิฉะนั้นนายกรัฐมนตรีจะอยู่ไม่นาน แต่จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้คงไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร

         

ดังนั้นการจัดตั้งรัฐบาลจะออกมา 2 รูปแบบ คือ  พรรคลำดับ 1 จับมือพรรคลำดับ 3-6 ส่วนพรรคลำดับ 2 ก็เป็นฝ่ายค้านไป และรูปแบบ 2 พรรคลำดับ 2 จับมือกับพรรคลำดับที่เหลือ จัดตั้งรัฐบาลผสม โดยพรรคลำดับ 1 เป็นฝ่ายค้าน โดยพฤติกรรมการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว. นั้น คาดว่าคงโหวตทิศทางเดียวกัน และ ไม่โหวตให้พรรคเพื่อไทยแน่นอน จึงมีความไปได้ว่าพรรคเพื่อไทยจะพยายามล็อบบี้พรรคอื่นๆ เพื่อให้ได้เสียงข้างมาก มาคานเสียงกับ ส.ว.

“หากเกิดกรณีที่พรรคอันดับ 1 มีคะแนนชนะพรรคอันดับ 2 แต่เสียงไม่ถึง 250 เสียง ต้องมาเป็นฝ่ายค้าน เพราะพรรคอื่นๆ นั้นรวมตัวกันจัดตั้งรัฐบาลผสมก็จะทำให้ได้รับการยอมรับน้อยลง และถ้ามีเสียงของ 250 ส.ว. มาช่วยสนับสนุนรัฐบาลผสมอีก ก็จะทำให้สังคมและประชาคมโลกยิ่งยอมรับในตัวรัฐบาลนั้นน้อยลงเข้าไปอีก และอาจมองว่าเป็นรัฐบาลกึ่งทหารได้ ดังนั้นถ้าพรรคที่ 1 ชนะพรรคที่ 2 เยอะ สัก 60 เสียง แต่พรรคนั้นจะไม่ได้เป็นรัฐบาล ผมคิดว่าอย่าไปบิดเบี้ยวเจตนาประชาชน ตามสปิริตแล้วควรจะให้พรรคที่ 1 ได้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลก่อน ถ้าทำไม่ได้แล้วจึงค่อยมาที่พรรคการเมืองอันดับถัดไป” นายนิพิฏฐ์ กล่าว