- 19 ส.ค. 2559
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นในบัดดลเมื่อมีการนำคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. มาตีความว่าผู้นำจากการรัฐประหารกำลังมองไปถึงช่องทางการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงพล.อ.ประยุทธ์ เพียงแต่พูดถึงหลักการหรือช่องทางกฎหมาย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะรายชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรีถูกกำหนดในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแล้วว่า ต้องมาจากพรรคการเมืองเป็นลำดับแรก ยกเว้นจะไม่สามารถหาข้อยุติได้จึงจะเปิดทางให้สว.เข้ามาร่วมพิจารณา
“ผมไม่มีทั้งปิด และเปิด ผมขอเอาตรงนี้ให้จบก่อน ไปทีละขั้น เพราะถ้าพูดอะไรไปเดี๋ยวคนก็จะมาว่าได้ว่า ก็พูดและประกาศไปแล้ว แสดงว่าเปิดรับไม่ว่าจะพูดไปทางไหนก็ผิดทั้งสองดอก ผมเลยไม่พูดเสียดีกว่า และไม่ต้องมาถามโดยใช้คำว่า ถ้า หรือสมมติว่า”
เมื่อถามว่า พร้อมหรือไม่หากถึงเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่รู้ วันนี้เอากติกาให้พร้อมก่อน เดี๋ยวค่อยหาตัวนักมวย วันนี้กติกาและกรรมการยังไม่พร้อม จะมาหานักมวยก่อนจะรู้กติกากันหรือไม่ มันต้องเอากติกาเป็นหลักก่อน ถึงจะมีตัวนักมวย และต้องหากรรมการที่เหมาะสมก่อน ”
กล่าวโดยสรุปก็คือทุกอย่างขึ้นกับสถานการณ์ในอนาคต ภายใต้กรอบกติกาที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศร่วมลงประชามติเห็นชอบ ดังนั้นกรณีนายกรัฐมนตรีคนนอกถ้าจะเกิดขึ้นและเป็นใครก็อยู่ภายใต้กฎกติกาที่คนไทยอนุมัติเห็นชอบแล้ว อย่างที่เสียงส่วนน้อยในระบบพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองใต้ระบอบทักษิณจะปฏิเสธไม่ได้ถ้าจะยังคงอ้างถึงวิถีประชาธิปไตยต่อไป
คำถามก็คือบรรดานักการเมืองเสือ สิงห์ กระทิง แรด โดยเฉพาะในกลุ่มก้อนระบอบทักษิณ จะยอมเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีคนนอกเกิดขึ้นหรือไม่ ในเมื่อก็เห็นอยู่ว่าการมีนายกรัฐมนตรีที่ไม่ใช่นักการเมือง ได้สร้างความยากลำบากแค่ไหนในการบริหารจัดการผลประโยชน์ของแผ่นดินให้ตกทอดกลับมาสู่ตนเองและพวกพ้อง
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์แสดงความเห็น ที่ต้องเรียกว่าแทบจะเป็นคนแรกๆ ที่ชัดเจนถึงการเตรียมหาวิธีการป้องกันการเกิดขึ้นของนายกรัฐมนตรีคนนอก โดยเฉพาะถ้านายกรัฐมนตรีคนนั้นชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะรู้ฝีไม้ลายมือดีว่าเบ็ดเสร็จเด็ดขาดขนาดไหน “ ตนขอให้พล.อ.ประยุทธ์ประกาศเลยว่า พร้อมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนนอก เพราะการที่บอกว่าหาคนดีไม่ได้แล้วค่อยมาคุยกันนั้น ที่จริงคือล็อกไว้แล้ว ตอนนี้ก็ยังมาถกกันว่าให้สว.เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ด้วยหรือไม่ เพราะพรรคของนายไพบูลย์ เอาชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ไปใส่ไว้ในพรรค ตอนหาเสียงจะถูกวิจารณ์ในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอย่างหนัก ซึ่งทำให้การเป็นคนดีของพล.อ.ประยุทธ์ เสื่อมเสียกลายเป็นคนร้ายทันที
ดังนั้นจึงต้องเปิดประตูให้ ส.ว. เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีวาระแรกเลย ตนจึงขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองประกาศสัญญาประชาคมในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในอนาคตร่วมกันว่า จะผลักดันให้บุคคลที่ผ่านการคัดเลือกของประชาชนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ถ้าพรรคใดไม่ร่วมในการทำสัตยาบันแล้ว ย่อมแสดงว่าพรรคนั้นเตรียมตัวเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอก”