ข้ามรุ่น !! "ณัฐวุฒิ" ฉะ"บิ๊กตู่" แฉแก้รธน.เพิ่ม 30 สนช. ขยายอำนาจติดปีก"บูรพาพยัคฆ์"

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

      วันนี้ (24 ส.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ที่ตนเคยพูดว่าภายใต้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับชั่วคราว และ ฉบับที่ผ่านประชามติ พรรคการเมืองที่ใหญ่ และ มีอำนาจมากที่สุด คือ พรรคบูรพาพยัคฆ์ ตอนนี้มีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับแล้ว จากการแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หน.คณะรักษาความสงบแห่งชาติ แถลงภายหลังการประชุม ร่วมกัน ระหว่าง ครม.และ คสช.วานนี้ (23 ส.ค.) โดยจะ แต่งตั้ง เพิ่มจำนวนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อีก 30 คน คือ การขยายพื้นที่ของพรรคบูรพาพยัคฆ์ เพื่อปันส่วนอำนาจ และ ผลประโยชน์ให้คนในเครือข่ายใช่หรือไม่ ? ข้ออ้างว่าต้องมี สนช.เพิ่มเพื่อช่วยพิจารณากฎหมายนั้นรับฟังได้ยาก เพราะที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของ สนช.ก็เป็นไปแบบตามใจแป๊ะ ยกมือตามสัญญาณผู้มีอำนาจอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีเข้าไปแถลงอะไรในสภาฯ นอกจากไม่มีกระบวนการตรวจสอบ บางทียังปรบมือเอาใจกันอีกด้วย

     นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า รัฐบาลพูดบ่อยๆ ว่า ผลงานสำคัญอย่างหนึ่ง คือ การทำงานของ สนช.ชุดนี้ที่พิจารณากฎหมายว่องไว ออกกฎหมายได้แล้วหลายร้อยฉบับ จึงไม่เห็นเหตุผลที่ต้องเพิ่มเข้าไปใหม่ ยิ่งบอกว่าจำเป็นต้องเพิ่มทหารเข้าไปด้วยนั้น ยิ่งชัดว่าอะไรเป็นอะไร ทั้งนี้ พอจะมองเห็นเหตุผลที่แท้จริงบางประการ เช่น การเพิ่มเก้าอี้ไว้รองรับพรรคพวก ที่จะเกษียนอายุราชการ ปลอบใจบางส่วนที่อาจไม่สมหวังในการแต่งตั้งโยกย้าย และให้รางวัลคนที่ออกแรงเชียร์ในช่วงประชามติ ถ้าเป็นตามนี้ก็เท่ากับเป็นเหตุผลทางการเมืองของกลุ่มผู้มีอำนาจล้วนๆ ซึ่งในระบบการเมืองปกติ ไม่มีรัฐบาลชุดไหนหรือพรรคการเมืองใดแก้รัฐธรรมนูญเพิ่มเก้าอี้ให้พรรคพวกในสภาฯ ได้ ถ้าทำอย่างนั้นจะถูกกล่าวหาว่าฉ้อฉล เอางบประมาณแผ่นดินไปบำรุงฝ่ายของตน แต่ที่ระบบปัจจุบันกำลังทำอยู่ไม่รู้ควรตีความว่าอย่างไร

"สังคมไทยถูกทำให้ไม่เชื่อถือกระบวนการที่ตัวเองมีสิทธิคิด มีสิทธิตัดสินใจ แต่ยอมรับวิธีการที่ตัวเองไม่มีสิทธิ ทุกอย่างแล้วแต่ลิขิตของผู้มีอำนาจ สภาพแบบนี้ไม่เห็นทางที่จะเดินไปสู่ประชาธิปไตยได้ หลังจากนี้จะเห็นกระบวนการทางการเมืองของพรรคบูรพาพยัคฆ์มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่า กว่าคนไทยส่วนใหญ่จะรู้ตัวต้องใช้เวลามากแค่ไหน" นายณัฐวุฒิ กล่าว