ลุ้นจบที่ศาลรธน.!!!  "สมชาย" ยันหลักการสนช.ชัดเสนอชื่อนายกฯนอกพรรคการเมืองได้   "มีชัย" แจงกรธ.ตีความตามคำถามพ่วง

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

     แม้จะมีความชัดเจนทางการเมืองมาเป็นลำดับ  สำหรับหลักการว่าด้วยการพิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรี  แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีบางประเด็นสืบเนื่องจากการพิจารณาของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่เห็นว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีในช่วง 5 ปีแรก   บทบาทหน้าที่ของสว.จะทำได้เพียงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากการเสนอชื่อของจากพรรคการเมืองเท่านั้น  และเป็นหนึ่งประเด็นที่ดูเหมือนจะมีความเห็นไม่ตรงกันระหว่างสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  (สนช.)  และกรธ.

 

       ล่าสุด  นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.)สามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะและรวบรวมความเห็นเพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ    ได้แสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าวว่า   ส่วนตัวเคารพการตัดสินใจของกรธ.ที่ยืนยันตามหลักการเดิม  และยอมรับว่าเป็นหลักการที่ดี   แต่ขณะเดียวกันสนชก็จะยังยืนยันตามหลักของสนช.  และไม่ถือว่าความเห็นที่แตกต่างจะเป็นประเด็นที่ทำให้กรธ.และสนช.เกิดความขัดแย้งกันแต่อย่างใด เพราะถือเป็นการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่าย

      

      นายสมชาย กล่าวอีกว่า  ถึงแม้กรธ.จะยังไม่ได้ส่งร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้วไปยังศาลรัฐธรรมนูญ  แต่คณะกมธ.คงจะไม่นำเสนอความเห็นไปยังกรธ.แล้ว  แต่คณะกมธ.จะดำเนินการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวกับการตั้งคำถามพ่วงทั้งหมด  ไม่ว่าจะเป็นคำอภิปรายในสนช.และหนังสือที่สนช.เคยทำไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งไว้ให้เรียบร้อย  เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญส่งหนังสือมาให้สนช.เข้าไปชี้แจงเมื่อไรทางสนช.จะดำเนินการในส่วนนี้ทันที

 

      “ในภาพรวมตามความคิดเห็นส่วนตัวเห็นว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ออกมานั้นเป็นไปตามคำถามพ่วงที่ผ่านการทำประชามติ แต่มีสองเรื่องที่ยังเห็นไม่ตรงกัน คือ การเสนอชื่อนายกฯ และ การเลือกนายกฯจากบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีพรรคการเมือง

 

        ทางด้าน นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ  กรธ. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่ า  สำหรับตนเองไม่กังวลและเห็นเป็นเรื่องที่ดีแม้ระหว่างกรธ.กับสนช.จะมีมุมมองที่แตกต่างกัน    เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าสิ่งที่ กรธ. เขียนไปยังไม่ตรงตามเจตนารมณ์  ก็สามารถปรับแก้ได้ แต่ส่วนตัวเห็นว่าหาก กรธ.แปลตามเจตนารมณ์ของ สนช. จะรู้สึกว่าไกลจากข้อความของคำถามพ่วงที่ไปถามประชาชนเอาไว้ จึงต้องตีความตามตัวอักษร   โดยมั่นใจว่ากรณีดังกล่าวไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง กรธ. กับ สนช. เพราะไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และไม่คิดว่าจะมีผลต่อการพิจารณากฎหมายลูกที่จะต้องทำงานร่วมกันในอนาคตด้วย

     ขณะที่ล่าสุด  ดร.อาทิตย์   อุไรรัตน์   อธิการบดี  มหาวิทยาลัยรังสิต   ได้โพสต์ข้อความในประเด็นเดียวกันนี้ว่า    “ ประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องประกอบด้วย 3 มิติ   1. เป้าหมาย "เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนเป็นใหญ่" ไม่ใช่ "ประชาชนเป็นใหญ่" (ท่านพุทธทาส) 2. วิธีการ เป็นรอง การเลือกตั้งให้ได้คนดีก็ดี แต่การคัดเลือก เลือกสรรให้ได้คนดี ก็ดีไม่แพ้กัน 3. มโนสำนึก "ธรรม" ต้องมีคุณธรรม จริยธรรม ยุติธรรม และธรรมาภิบาล   ครบถ้วนทั้ง 3 มิติ เป็นประชาธิปไตยสูงสุด สมบูรณ์แบบที่สุด เรียกว่า "ธรรมาธิปไตย"

 

      ดังนั้น  "คนนอก"  หรือ  "คนใน"  ไม่สำคัญ  สำคัญที่คนดี และ นำพาประเทศสู่ "ธรรมาธิปไตย"สืบทอดอำนาจ หรือ ไม่สืบทอดอำนาจ ไม่ใช่ปัญหา ตราบเท่าที่ นำพาประเทศสู่ "ธรรมาธิปไตย"

 

ลุ้นจบที่ศาลรธน.!!!  "สมชาย" ยันหลักการสนช.ชัดเสนอชื่อนายกฯนอกพรรคการเมืองได้   "มีชัย" แจงกรธ.ตีความตามคำถามพ่วง