เอาแบบครบวงจร!!! คลอดแล้ว 4 โครงการใหญ่แก้ราคายางตกต่ำ เน้นสร้างความแข็งแรงชาวสวนฯยั่งยืน เริ่มมีผล 1 ต.ค.นี้

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     นายสุนันท์ นวลพรหมสกุล โฆษกการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) แถลงประเด็นการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางว่า จากสถานการณ์ราคายางพาราที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทย เร่งดำเนินการแก้ปัญหา ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลมีหลายโครงการที่ช่วยพยุงราคายางในตลาดและสร้างความสมดุลกับระบบตลาดยางนั้น แต่ก็ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนยางในหลายครัวเรือน เพราะปัจจัยแวดล้อมหลายๆ อย่าง อาทิ สภาพภูมิอากาศ สภาพเศรษฐกิจ เป็นต้น ดังนั้น กยท.ได้เร่งจัดทำโครงการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรทั้งหมด 4 โครงการ ได้แก่

 

 

เอาแบบครบวงจร!!! คลอดแล้ว 4 โครงการใหญ่แก้ราคายางตกต่ำ เน้นสร้างความแข็งแรงชาวสวนฯยั่งยืน เริ่มมีผล 1 ต.ค.นี้

 

 

เอาแบบครบวงจร!!! คลอดแล้ว 4 โครงการใหญ่แก้ราคายางตกต่ำ เน้นสร้างความแข็งแรงชาวสวนฯยั่งยืน เริ่มมีผล 1 ต.ค.นี้  

 

    

     โครงการที่ 1โครงการยางพาราแลกปุ๋ยบำรุงภายใต้แนวทางพัฒนายางพาราทั้งระบบ โดยให้เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรนำยางพาราของเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรหรือยางของการยางแห่งประเทศไทยมาแลกเปลี่ยนกับปุ๋ยบำรุง ซึ่งยางพาราดังกล่าวนั้น บริษัทฯ ผู้ประกอบกิจการยางหรือผู้ผลิตปุ๋ยบำรุงจะยางพาราเก็บเข้าสต็อกเพื่อลดปริมาณยางในตลาดและแปรรูปเพิ่มมูลค่า เป็นการส่งเสริมการดำเนินการพัฒนายางพาราทั้งระบบ มีระยะเวลาดำเนินการโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559-30 กันยายน 2560 

 

     โครงการที่ 2โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการยาง กยท.ได้หารือกับสมาคมน้ำยางข้นไทยเพื่อเสนอแนวทางการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำและลดภาระงบประมาณของรัฐ โดยอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการยางให้มีการดูดซับยางพาราออกจากระบบนำมาเก็บสต็อกของผู้ประกอบการในลักษณะหมุนเวียน เป็นการลดปริมาณยางในตลาด ซึ่งจะส่งผลให้ราคายางในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้น มีระยะเวลาดำเนินการโครงการ 2 ปี ระหว่างเดือนตุลาคม 2559-กันยายน 2561

     โครงการที่ 3 โครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง โครงการนี้ ให้สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางมีบทบาทสำคัญในการรับซื้อผลผลิตยางจากเกษตรกรชาวสวนยางเพื่อสร้างอำนาจในการต่อรองกับพ่อค้า แต่ยังมีข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการซื้อขายยางและสถานที่ประกอบการไม่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินงานรับซื้อขายยางจากเกษตรกร และยังขาดเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินการ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว กยท.จึงเสนอให้มีการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ดอกเบี้ยผ่อนปรน ซึ่งสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางสามารถนำไปใช้ปรับปรุงสถานที่และจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินงานของสถาบันฯ ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดได้ เป็นการยกระดับการผลิตและการตลาดในระดับสถาบันเกษตรกรให้สูงขึ้น มีระยะเวลาในการดำเนินการโครงการ ตั้งแต่วันที่  1 ตุลาคม 2559-30 กันยายน 2569

 

 

เอาแบบครบวงจร!!! คลอดแล้ว 4 โครงการใหญ่แก้ราคายางตกต่ำ เน้นสร้างความแข็งแรงชาวสวนฯยั่งยืน เริ่มมีผล 1 ต.ค.นี้

 

 

     โครงการที่ 4 โครงการพักชำระหนี้สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง จากผลกระทบราคายางที่ผ่านมา รัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลือสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางต่างๆ ตามแนวทางการพัฒนายางทั้งระบบ โดยช่วยเหลือด้านเงินสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนในรูปแบบต่างๆ และเพิ่มศักยภาพของสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางในการผลิต แต่สถานการณ์ปัจจุบัน ราคายางยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร โครงการพักชำระหนี้สถาบันเกษตรกร จะเป็นอีกหนึ่งโครงการช่วยลดภาระสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่ต้องชำระหนี้ให้แก่สถาบันการเงิน และที่สำคัญยังสนับสนุนกิจการของสถาบันเกษตรกรให้เข้มแข็งและก้าวเดินต่อไปได้ ซึ่งระยะเวลาดำเนินการโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559-30 กันยายน 2560

     นอกจากนี้ กยท.ยังดำเนินกิจกรรมเปิดตลาดยางพาราแปรรูปประเภทยางแผ่นรมควันไม่อัดก้อนและแบบอัดก้อน หรือยางลูกขุน ให้ได้มาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพที่ดี (Good Manufacturing Practice : GMP ในต้นเดือนกันยายนนี้ จะนำร่องที่ จ.สุราษฎร์ฯ โดยมีชุมนุมสหกรณ์ตรัง ดำเนินการส่งออกอยู่แล้วร่วมดำเนินการโครงการด้วย เพื่อยกระดับคุณภาพของสหกรณ์หลายๆ สหกรณ์ที่มีศักยภาพในการแปรรูปเพิ่มมูลค่ายางพารา และจะขยายการนำร่องร่วมกับสหกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ กระบี่ นครศรีธรรมราช เป็นต้น

 

 

เอาแบบครบวงจร!!! คลอดแล้ว 4 โครงการใหญ่แก้ราคายางตกต่ำ เน้นสร้างความแข็งแรงชาวสวนฯยั่งยืน เริ่มมีผล 1 ต.ค.นี้

 

 

     นายสุนันท์กล่าวอีกว่า ตามที่พระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย ระบุไว้ว่ายางพาราไม่ใช่แค่น้ำยางพาราเท่านั้น แต่รวมถึงไม้ยางพาราด้วย ซึ่งประเทศไทยส่งออกไม้ยางพารามูลค่ามากถึง 4.5 พันล้านบาทต่อปี ปัจจุบันไทยส่งออกแค่ประเทศจีนประเทศเดียว ขณะที่ประเทศแถบยุโรป ญี่ปุ่น มีความต้องการ แต่เพราะถ้าไม่มีการรับรองคุณภาพไม้ยางระดับสากล จะไม่สามารถส่งออกไปประเทศเหล่านี้ได้ ดังนั้น การยางแห่งประเทศไทยจึงร่วมกับสภาอุตสาหกรรมจัดตั้งองค์กรกลาง เพื่อดำเนินการออกใบรับรองคุณภาพไม้ยางหรือ (ทีเอฟซีซี) โดยที่ กยท.จะเข้ามามีบทบาทในฐานะคณะกรรมการ ซึ่งโครงการดังกล่าว จะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรที่รับการสนับสนุนการปลูกจาก กยท. เมื่อต้องการโค่น หรือตัดเพื่อปลูกแทน และต้องการส่งออก ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะนำร่องในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ระยอง คาดว่าโครงการจะดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่เกินกลางปีหน้าอย่างแน่นอน

 

     ทั้งนี้ เกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ขณะนี้ กยท.เขตทุกเขต ได้เปิดให้เกษตรกรมาแจ้งข้อมูล แต่มิใช่เป็นการรับรองสิทธิการเป็นเกษตรกรชาวสวนยางตาม พ.ร.บ.การยางฯ และความชอบธรรมในการครอบครองสิทธิ แต่เป็นการแจ้งข้อมูล เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นที่การปลูกยางพารา เพื่อที่ กยท.จะดำเนินการกำหนดนโยบายด้านยางพาราต่อไป