ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     สวัสดีครับ แฟนข่าวทีนิวส์ วันนี้ 28 ส.ค. 2559 ยังมาแรงแซงทางโค้ง ทุกโค้ง ทุกสัปดาห์ สำหรับความนิยมต่อพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา และคณะรัฐบาล วันนี้สวนดุสิตโพลได้แจกแจงแถลงว่า ความเชื่อมั่นของคนไทยต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งได้สำรวจระหว่างวันที่ 22-27 ส.ค. ที่ผ่านมา พบว่าความเชื่อมั่นต่อนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา สูงถึงร้อยละ 72.15 ขณะที่ไม่ค่อยเชื่อมั่น และไม่เชื่อมั่นเลยรวมกันเพียงร้อยละ 27.85 ทั้งนี้ความเชื่อมั่นต่อผลงานรัฐบาลด้านการเมืองมาเป็นอันดับหนึ่ง 65 ผลงานด้านอื่นๆ ก็รองเป็นอันดับลงมา สำหรับสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ประชาชนชอบนโยบายการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งมาตรการทวงคืนผืนป่า ดำเนินการกับผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน และชอบในเรื่องการดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และระเบียบสังคม ก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไป แต่ก็พิจารณาเห็นได้ว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และตัวพล.อ.ประยุทธ์นั้นได้รับความนิยมสูงยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีรัฐบาลนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งคนไหนเท่าเทียมได้ แม้แต่ทักษิณ  ชินวัตร ก็ตาม

     น่าสนใจมากไปกว่านั้นครับ ปรากฎว่า บลูมเบิร์ก สำนักข่าวทางด้านเศรษฐกิจ ได้รายงานว่า ความเสี่ยงทางการเมืองของไทย มีผลกระทบไม่มากต่อนักลงทุนที่คุ้นเคยกับการปฏิวัติ และปรากฎว่า ผู้จัดการการเงินได้ทุ่มเงินถึง หนึ่งหมื่นสามพันล้านบาท เข้ามาลงทุนในพันธบัตร และหุ้นไทยในปีนี้ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ยกเว้นเกาหลีใต้ เอ็ดเวิร์ด อึ้ง ผู้จัดการพอร์ตรายได้คงที่ในสิงคโปร์ของบริษัทนิกโก้ แอสเซ็ต แมเนจเมนต์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้เศรษฐกิจไทยได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามีความยืดหยุ่นและสามารถฟื้นตัวได้จากวิกฤติทางการเมือง ดังนั้นนักลงทุนมาตรฐานจะต้องลงทุนในประเทศไทยเนื่องจากไทยเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีหุ้นและพันธบัตรหลายๆ ตัว โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเหตุการณ์ทางการเมืองแต่ละครั้งในประเทศไทย  กองทุนพันธบัตรทั่วโลกได้เพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ในระดับที่สูงที่สุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากผลตอบแทนในญี่ปุ่นและยุโรปต่ำกว่าศูนย์จึงเพิ่มแรงจูงใจให้กับผลตอบแทนที่เป็นบวก ดัชนีอีเอ็มบีไอ โกลบัล คอร์ ของเจพีมอร์แกนได้ปรับตัวขึ้น 15% ซึ่งถือว่าดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา

     นี่เป็นอีกส่วนหนึ่งแหละครับ ที่เห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ รักษาบ้านเมืองให้มีความสงบเรียบร้อย และนักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นมาลงทุน ไม่เหมือนกับที่กลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดี ออกมาป่าวประกาศโน่นนี่นั่นอยู่เรื่อย ว่าประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย ผู้คนนักลงทุนทั้งหลายถอยหลัง ทิ้งการลงทุนในประเทศไทย อันนี้พิสูจน์ความจริงได้ว่าอะไรเป็นอะไร