ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/

 

ทางการอิหร่านเริ่มติดตั้งระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ เอส-300 ที่ผลิตโดยรัสเซีย รอบโรงงานนิวเคลียร์ใต้ดินฟอร์โด เพื่อใช้ปกป้องโรงงานจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐและอิสราเอล โรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โด ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงกรุงเตหะราน ไปทางทิศใต้ประมาณ 100 กม. ก่อสร้างลึกลงไป 90 เมตรใต้ภูเขา ถูกเปิดเผยโดยกลุ่มชาติตะวันตกเมื่อปี พ.ศ. 2552 รัสเซียเริ่มส่งมอบระบบ เอส-300 ให้อิหร่านช่วงต้นปีนี้ ภายใต้สัญญาที่ลงนามเมื่อปี 2550 แต่การส่งมอบถูกระงับกลางคัน จากผลของการคว่ำบาตรนานาชาติ เพื่อลงโทษโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และการคว่ำบาตรถูกยกเลิกในปีนี้

 

อยาตอลลาห์ อาลี คาห์เมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าว ว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศ เอส-300 เป็นเครื่องมือสำหรับการป้องกัน ไม่ใช่รุกราน แต่อเมริกาพยายามทุกวิถีทาง ที่จะไม่ให้อิหร่านมีระบบนี้ ฝ่ายวิจารณ์โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ชี้ว่าฟอร์โดเป็นสิ่งพิสูจน์ให้เห็นเพิ่มเติม ถึงความตั้งใจของอิหร่าน ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างลับๆ แต่อิหร่านยืนยันว่า ไม่เคยแสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ ส่วนการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบโรงงานฟอร์โด มีจุดหมายเพื่อปกป้องโรงงานจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐและอิสราเอล

 

นอกจากนี้อิหร่านยังได้เปิดใช้ระบบเรดาร์ใหม่ นาซีร์ ผลิตเองในประเทศ เป็นครั้งแรก โดยนาซีร์สามารถตรวจจับอากาศยานของสหรัฐ ที่มีสมรรถนะหลบหลีกเรดาร์หลายรุ่น เช่น ยู-2, อาร์คิว-4 และเอ็มคิว-1 นอกจากนั้น ระบบนาซีร์ซึ่งติดตั้งไว้ใน ใจกลางทะเลทราย ของอิหร่าน ยังสามารถตรวจจับขีปนาวุธและอาวุธปล่อยนำวิถี รวมทั้งอากาศยานขนาดเล็กไร้คนขับ หรือ โดรน ที่กำลังบินอยู่ในพิกัดความสูงเกิน 3,000 เมตร การเสริมทัพของอิหร่านในครั้งนี้ ถึงแม้จะบอกว่าเพื่อป้องกัน ไม่ใช่เพื่อการรุกราน แต่ก็น่าสนใจอย่างยิ่งว่า นี่อาจจะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับสงครามรอบใหม่หรือไม่ เพราะ ปัจจุบันเราจะเห็นการขยับแบบนี้ในหลายประเทศ หรือถึงเวลาแล้วที่สงครามโลกรอบใหม่กำลังอุบัติขึ้น