วางสายกลาง!!"มีชัย"ขอ กกต.อย่าบีบ"การเมือง" ยังไม่คิดร่าง"บทลงโทษ"รบ.เบี้ยวทำตามนโยบาย

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

"มีชัย" ให้ กกต. แจง กม.ลูก รับห่วง กระทบพรรคการเมือง ขอให้วางสายกลาง  ยังไม่คิดร่าง บทลงโทษ รัฐบาล เบี้ยว ไม่ปฏิบัติตามนโยบาย แถลงต่อรัฐสภา  หวั่น พังทุกรัฐบาล  ปัดตอบ หากขยายอำนาจ ส.ว.ชงชื่อนายกฯ อาจเกิดวิกฤต โดยโยนให้ ศาลรธน.พิจารณา      

วันนี้ ( 8 ก.ย.) ก่อนการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. กล่าวถึงการให้กกต.ชี้แจง "กฎหมายลูก" ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง  ว่า ให้กกต.ชี้แจงวัตถุประสงค์ของร่างเอง เพราะหากอ่านจากร่างเองอาจเข้าใจผิด ในส่วนตัวมองว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปคือการตั้งพรรคการเมืองที่จะตั้งได้ยากขึ้น ดำรงอยู่ยากขึ้น และ การยุบพรรคยากขึ้น ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย นายมีชัย เห็นว่า พรรคการเมืองไม่ควรตั้งง่าย หรือ ยากเกินไปต้องมีความพอดี ถ้าตั้งยากจนเกินไปก็จะทำให้พรรคการเมืองใหม่เข้าสู่ระบบพรรคการเมืองยากขึ้น หากง่ายเกินไปก็จะมีผู้ฉวยโอกาสตั้งพรรครับเงินสนับสนุนจากกกต. ต้องหารือกับกกต.เพื่อให้เป็นสายกลาง หรือ มัชฌิมาปฏิปทา

ส่วนข้อเสนอ บทลงโทษรัฐบาลที่ไม่สามารถทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาได้หมด ประธานกรธ.กล่าวว่า คงไม่ไปไกลขนาดนั้น ถ้ามีการลงโทษ ทุกรัฐบาลก็จะลงกันหมด เพราะทุกรัฐบาลก็จะพูดไปเรื่อยๆ เช่น กรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่เสนอนโยบายต่อประชาชน มองว่ามีตั้งแต่เรื่องไม่จิ้มฟัน ยันเรือรบ

นายมีชัย กล่าวถึง การชี้แจงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมในประเด็นคำถามพ่วง ภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องไม่ต้องส่งเอกสารชี้แจงเพิ่มเพราะศาลไม่ได้ร้องขอ และก่อนหน้านี้ชี้แจงไปหมดแล้ว ส่วนกรณี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เตรียมส่งเอกสารชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงยืนยันในหลักการที่ให้ส.ว.มีสิทธิ์เสนอชื่อนายกรัฐมนตรี นายมีชัย กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวล ทุกอย่างเป็นไปตามที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนหากขยายอำนาจให้ส.ว.มีอำนาจเสนอชื่อจะนำไปสู่วิกฤติการเมืองหรือไม่ ตอบแทนศาลไม่ได้ รอให้ศาลวินิจฉัยก่อน