ด่วนๆ!! "บิ๊กตู่" ออกคำสั่งใช้ม.44 ยกเลิกการพิจารณา(บาง)คดีโยงความมั่่นคงในศาลทหาร ให้ศาลยุติธรรมรับผิดชอบตามขั้นตอนปรกติ

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/

วันนี้  ( 12  ก.ย.)   ราชกิจจานุเบกษา หน้า ๔๐ เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๒๐๔ ง ๑๒ กันยายน ๒๕๕๙  เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕๕/๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการเกี่ยวกับคดีบางประเภทที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ตามที่มีประกาศกองทัพบกและประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และต่อมามีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กำหนดให้การกระทำความผิดบางประเภทที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรและในระหว่างการประกาศใช้กฎอัยการศึกดังกล่าว อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหารนั้น เมื่อได้ดำเนินการดังกล่าว มาแล้วระยะหนึ่ง ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมืออย่างดีในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการควบคุมสถานการณ์และรักษาความสงบแห่งชาติ
       

ตามกฎอัยการศึกจึงควรผ่อนคลายลง ประกอบกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาเห็นว่าในช่วงเวลานั้น อยู่ระหว่างการจัดทำรัฐธรรมนูญ ซึ่งควรส่งเสริมให้ประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพให้กว้างขวาง จึงได้มีประกาศพระบรมราชโองการ เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘ ให้เลิกใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร แต่ไม่กระทบต่อประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางพื้นที่ที่มีผลใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ส่วนการกระทำความผิดบางประเภทตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติยังคงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหารต่อไป
         

โดยที่บัดนี้ปรากฏว่าสถานการณ์บ้านเมืองในรอบสองปีที่ผ่านมามีความสงบเรียบร้อยเป็นลำดับประชาชนต่างมีเจตนารมณ์และให้ความร่วมมือที่ดีในการนำประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การปฏิรูปประเทศตามขั้นตอน และการสร้างความสามัคคีปรองดองที่ถูกต้องเป็นธรรม ดังเห็นได้จากกระบวนการลงประชามติที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้รับความเห็นชอบจากประชาชนด้วยมติท่วมท้น จึงสมควรผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลงอีก เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้ใช้สิทธิ ปฏิบัติหน้าที่ของตนและได้รับความคุ้มครองตามกลไกของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งกำลังจะประกาศใช้ในเร็ววัน ตลอดจนตามหลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
 

ข้อ ๑ บรรดาการกระทำความผิดตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๗/๒๕๕๗เรื่อง ความผิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ ๓๘/๒๕๕๗ เรื่อง คดีที่ประกอบด้วยการกระทำหลายอย่างเกี่ยวโยงกันให้อยู่ในอำนาจของศาลทหารและประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๕๐/๒๕๕๗ เรื่อง ให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม ซึ่งได้กระทำตั้งแต่วันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ ให้อยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมบรรดาการกระทำความผิดที่อยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมตามวรรคหนึ่งไม่หมายความรวมถึงการกระทำความผิดที่กฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาลทหารบัญญัติให้เป็นอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทหาร โดยให้การกระทำความผิดดังกล่าวยังคงอยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลทหารต่อไป
         

 

ข้อ ๒ ให้เจ้าพนักงานตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓/๒๕๕๘ เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๓/๒๕๕๙ เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ยังคงมีอำนาจหน้าที่ตามคำสั่งดังกล่าวต่อไป
 

ข้อ ๓ ในกรณีเห็นสมควร ให้นายกรัฐมนตรีเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้
 

ข้อ ๔ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

 

สั่ง ณ วันที่ ๑๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๙
 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
 

หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ด่วนๆ!! "บิ๊กตู่" ออกคำสั่งใช้ม.44 ยกเลิกการพิจารณา(บาง)คดีโยงความมั่่นคงในศาลทหาร ให้ศาลยุติธรรมรับผิดชอบตามขั้นตอนปรกติ

ด่วนๆ!! "บิ๊กตู่" ออกคำสั่งใช้ม.44 ยกเลิกการพิจารณา(บาง)คดีโยงความมั่่นคงในศาลทหาร ให้ศาลยุติธรรมรับผิดชอบตามขั้นตอนปรกติ

 

    ทั้งนี้ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๗/ ๒๕๕๗  เป็นกรณีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
                                  

     (๑)ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตั้งแต่มาตรา ๑๐๗ ถึงมาตรา ๑๑๒
                                    

     (๒)ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ตั้งแต่มาตรา ๑๑๓ ถึงมาตรา ๑๑๘ ยกเว้นความผิดซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศใช้พระราช บัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ หรือพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน  และความผิดตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

 

ส่วนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  ฉบับที่ ๓๘/ ๒๕๕๗   เป็นคดีที่ประกอบด้วยการกระทำหลายอย่างเกี่ยวโยงกัน  เพื่อให้อำนาจศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาในข้อหานั้นด้วย เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปโดยรวดเร็ว

 

และประกาศ  คณะรักษาความสงบแห่งชาติ  ฉบับที่ ๕๐ / ๒๕๕๗  เป็นคดีว่าด้วยความผิดฐานมีหรือใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พุทธศักราช ๒๔๙๐