แค่นี้ก็โอดแล้ว!!  เด็กพท.ไม่เชื่อ"สปท."ถอยเซ็ตซีโร่ ชี้มีแต่หนักขึ้น-ตำหนิ "กกต." คิดแต่ลองของใหม่ ระบุแค่ "ใบเหลือง-ใบแดง"ก็พอแล้ว

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

วันนี้ ( 12 ก.ย.)   นายสามารถ แก้วมีชัย  อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย  กล่าวถึงข้อเสนอของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เสนอ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดโทษทุจริตเลือกตั้งเป็น 4 ระดับ โดยให้ใบเหลือ ใบส้ม ใบแดง ใบดำ ว่า ที่ผ่านมามีเพียงใบเหลือง ใบแดงก็ยุ่งแล้ว ไม่อยากให้คิดอะไรให้ยุ่งยาก เพราะของเดิมก็ดีอยู่ แต่ กกต.ควรปรับกระบวนการทำงาน ทำอย่างไรให้การตัดสินผู้ที่จะได้ใบเหลือง หรือใบแดง มีความเป็นธรรมและ น่าเชื่อถือ ซึ่งควรมีศาลแผนกคดีเลือกตั้งเป็นผู้ตัดสิน โดยให้ กกต.เป็นผู้รวบรวมข้อมูล เพราะกกต.ทำเองทุกขั้นตอน เมื่อมีศาลแผนกคดีเลือกตั้ง มีใบเหลือง-ใบแดงก็เพียงพอ วันนี้เหมือนคิดลองของใหม่ไปเรื่อย และไม่ทราบว่าเมื่อนำมาใช้จริง จะเกิดปัญหาอะไรหรือไม่


อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเพียงความเห็นของ กกต. ต้องดูว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) จะเอาด้วยหรือไม่  ขณะนี้เพียงได้ใบแดงตามที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดไว้  ก็ไม่สามารถลงสมัครเลือกตั้งได้ตลอดชีวิตแล้ว   ทั้งนี้ ทราบว่า ในวันที่ 28 ก.ย. จะมีการเปิดเวทีฟังความเห็นจากทุกฝ่าย  ถ้าหาก กรธ.เชิญมา พรรคเพื่อไทยพร้อมส่งตัวแทนไปร่วม  เพื่อสะท้อนปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดมาใช้
         

ส่วนกรณีที่สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)  ยอมถอยเรื่องการรีเซ็ตสมาชิกพรรคการเมืองนั้น  ฟังดูเหมือนถอย แต่สุดท้ายทุกพรรคก็ต้องตรวจสอบรายชื่อสมาชิกพรรคอยู่ดี  เพราะนายเสรี สุวรรณภานนท์ สปท.ด้านการเมือง ระบุว่าหากรายชื่อที่แต่ละพรรคยืนยันมาไม่เป็นความจริง หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคต้องถูกลงโทษอาญาและติดคุก  แม้จะบอกว่าถอย แต่การถอยแบบ สปท.ไม่ได้เรียกว่าถอย แต่ยิ่งหนักขึ้น เพราะมีการกำหนดโทษไว้  แต่พรรคเพื่อไทยไม่ได้เดือดร้อน เพราะสมาชิกไม่ได้มีมากเท่าพรรคประชาธิปัตย์