- 13 ก.ย. 2559
รู้จริง...รู้แจ้ง...ทุกเรื่องราวแห่งพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th
สมัยที่ "หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย" ได้มาพำนักที่วัดเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๒๒-๒๕๒๓ นั้น ในระหว่างนี้ก็มีเหตุการณ์ที่ลืมไม่ได้เกิดขึ้น
ครั้งหนึ่ง หลวงปู่สมชายได้รับกิจนิมนต์ให้เข้าไปในพระราชพิธีพร้อมกับครูบาอาจารย์แห่งภาคอีสานหลายรูปในวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๒๓ แต่ในคืนวันที่ ๒๖ ขณะที่ท่านกำลังพักภาวนาอยู่ภายในกลดข้างหินใหญ่ก้อนหนึ่ง จวบจนค่อนรุ่งของวันที่ ๒๗ ท่านจึงออกมาจากกลด ซึ่งผิดไปจากเวลาปกติ พระเณรที่ติดตามไปด้วยกันทั้งหมดแปดรูปเมื่อได้ยินเสียงหลวงปู่กระแอมก็รู้สึกแปลกใจว่าท่านอาพาธหรือมีเหตุอะไร จึงรีบมาที่กลด
หลวงปู่สมชายนั่งลงบนตั่งเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบของเขาอีโต้ พระเณรทุกรูปต่างก็เงียบเพื่อรอรับฟังว่าท่านจะพูดอะไร แต่ท่านก็นั่งเงียบ...ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น!
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง หลวงปู่สมชายจึงเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบนั้นว่า
"ครูบาอาจารย์ของเราจะสิ้นอีกห้ารูปในวันนี้"!!
พระเณรที่ห้อมล้อมหลวงปู่สมชายไม่มีใครปริปากใด ๆ ... ต่างองค์ต่างตกตะลึง ท่ามกลางอากาศที่เย็นยะเยือกของเขาอีโต้
หลวงปู่สมชายกล่าวต่อไปอีกว่า
"วงการพระกรรมฐานเราต้องสูญเสียครูบาอาจารย์พร้อม ๆ กันถึงห้ารูป ... เพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันนี้ ... ทุกรูปล้วนแต่เป็นที่เคารพนับถือของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินอีกด้วย
แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมหนีกรรมไม่พ้น มันเป็นเรื่องของวิบากกรรมที่ท่านจะต้องมาตายพร้อมกันเช่นนี้ ...!!"
พระเณรที่นั่งฟังหลวงปู่สมชายอยู่ก็เงียบอีกเช่นเคย...รอฟังว่าท่านจะเอ่ยถึงชื่อใครบ้าง? จะเกิดอะไรขึ้นที่ไหน? และจะให้ทำอย่างไรบ้าง?
หลวงปู่สมชายนิ่งอยู่ครู่ใหญ่แล้วจึงกล่าวต่ออีกว่า
"ท่านเคยทำกรรมร่วมกันมาจึงหนีไม่พ้น! ... สมัยพุทธกาล ขนาดพระโมคคัลลานะเป็นถึงอัครสาวกเบื้องซ้ายและเป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธานุภาพมากกว่าใครในสมัยนั้น ผลสุดท้ายก็ยังถูกโจรทุบตีจนกระดูกแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี ครูบาอาจารย์ของเราท่านก็หนีกรรมไม่พ้นเช่นกัน!!"
หลวงปู่สมชายกล่าวแล้วก็หยุด สงบเงียบ เหมือนกับจะหยุดพิจารณาหรือปลงนั่นเอง
พระเณรนั่งฟังจนแสงเงินแสงทองเริ่มจับขอบฟ้าแล้ว ท่านก็ยังไม่บอกว่าใครเป็นอะไรที่ไหน ...
หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย
ปกติแล้ว หลวงปู่สมชายจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในเวลาแปดโมงเช้าของทุกวัน แต่วันนี้ท่านกลับเข้าที่เดินจงกรมภาวนาต่อ เหมือนจะรอเวลาอะไรสักอย่าง ครู่ใหญ่ผ่านไป ท่านก็เรียกพระอุปัฏฐากให้เตรียมเดินทาง พระอุปัฏฐากสังเกตเห็นท่านมีความวิตกกังวลบางอย่างจึงเรียนถามว่า
"ท่านอาจารย์จะเดินทางตอนนี้หรือครับ?"
หลวงปู่สมชายตอบว่า
"อืม... ไปกันเถอะ ไปดูแลครูบาอาจารย์ก่อน เดี๋ยวจะไม่ทัน ท่านมาบอกลาผมเมื่อคืน หลวงปู่บุญมา ท่านอาจารย์วัน ท่านอาจารย์จวน ท่านอาจารย์สิงห์ทอง ท่านอาจารย์สุพัฒน์ ท่านจะนิพพานในอีกไม่ช้านี้ ... ไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน!"
ในที่สุด พระเณรทั้งแปดรูปจึงได้ทราบว่า ครูบาอาจารย์ท่านพูดคุยร่ำลากันทางจิตเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อค่อนรุ่งแล้ว แต่ก็ยังเป็นปริศนาว่า ท่านจะสิ้นด้วยเหตุอันใดพร้อมกันทีเดียวถึงห้ารูป?
ถึงตอนนี้พระเณรทั้งหมดชักจะเริ่มเป็นห่วงครูบาอาจารย์ที่จะสิ้นวันนี้เสียแล้ว และต่างก็คอยที่จะไปถึงยังสถานที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด
วันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๒๓ ขณะที่กำลังเดินไปขึ้นรถที่ติดเครื่องรออยู่ หลวงปู่สมชายก็หยุดกะทันหัน บอกว่า...ไม่ทันแล้ว! จากนั้นก็ก้าวเท้าขึ้นรถ และสั่งคนรถว่า วันนี้ไปทางคลองหก (ทุกวันจะใช้เส้นทางนครนายก-กรุงเทพฯ)
ขณะที่รถยนต์วิ่งมาถึงตัวจังหวัดปราจีนบุรี เสียงวิทยุที่คนขับเปิดไว้ก็ประกาศข่าวด่วนว่า เครื่องบินโดยสารของบริษัทการบินไทยประสบอุบัติเหตุตกก่อนถึงกรุงเทพฯ ๒๐ กิโลเมตร ณ กลางทุ่งนารังสิต บริเวณคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมด ...!!
ในจำนวนนี้มีพระสงฆ์มรณภาพ ๗ รูป เป็นพระสายป่า ๕ รูป คือ พระอาจารย์วัน อุตตโม หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม!!
ภาพเหตุการณ์เครื่องบินตกในครั้งนั้น
เมื่อรถวิ่งมาถึงคลองหกก็มองเห็นชาวบ้านสับสนอลหม่าน วิ่งบ้าง เดินบ้าง ตำรวจทหารแน่นทั้งสองข้างทาง ควันขาว ๆ พวยพุ่งอยู่กลางท้องนาด้านหน้า หลวงปู่สมชายให้คนขับจอดรถแล้วท่านก็เดินตรงไปที่ซากเครื่องบินที่ตกกระจัดกระจายอยู่ท่ามกลางไทยมุงที่แน่นขนัด
หลวงปู่สมชายและพระเณรทั้งหมดได้ช่วยกันเก็บอัฐบริขารของครูบาอาจารย์ออกมาวางไว้ในสถานที่อันเหมาะสม ท่านเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังหยิบชิ้นส่วนของครูบาอาจารย์ว่า
"ท่านอาจารย์วัน... ท่านอาจารย์จวน... มาบอกเมื่อคืนว่า ให้ช่วยไปเก็บธาตุขันธ์ให้ท่านด้วย ... ก็รับปากท่านไว้เมื่อคืน"!!
จากนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการต่อไป
ตกกลางคืน หลวงปู่สมชายก็ไปกราบนมัสการร่างของครูบาอาจารย์ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ขณะที่นั่งรอเวลาอยู่นั้น ท่านต้องตอบคำถามของทั้งพระทั้งโยมให้ทุกคนเข้าใจว่า
"ไม่มีใครในโลกนี้หนีกรรมได้! วิบากกรรมของท่านหมดแล้ว ไม่ต้องห่วง ... ให้ห่วงตัวเราเองนี้ให้มาก ทำตัวเราเองให้ดีที่สุด ... นั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง"
หลวงปู่สมชายปรารภกับพระอุปัฏฐากว่า
"สมเด็จฯ พระราชินีท่านเสียพระทัยมาก ... ผมเพิ่งเห็นน้ำตาท่านหลั่งไหลมากก็คราวนี้แหละ"!!
ที่มา : http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-juan/lp-juan-hist-12.htm