ต้องขอจิตศรัทธาช่วยแล้ว!!! พายุฝนถล่มต้นไม้ใหญ่พังล้มทับบันไดพญานาควัดพระธาตุดอยเทพเสียหายหนัก

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     เกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ขึ้นอยู่ด้านข้างบันไดทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้โค่นลงทับบันไดตามแนวนอน เป็นเหตุให้ปูนปั้นพญานาค 2 ตน ที่ขนาบทางเดินขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพฯเสียหาย และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

 

 

ต้องขอจิตศรัทธาช่วยแล้ว!!! พายุฝนถล่มต้นไม้ใหญ่พังล้มทับบันไดพญานาควัดพระธาตุดอยเทพเสียหายหนัก

 

     นายวัลลภ นามวงศ์พรหม กรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารและเลขาธิการมูลนิธิพระบรมธาตุดอยสุเทพฯ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุต้นไม้หักโค่นทับบันไดพญานาค ตนก็ได้เร่งรุดขึ้นไปตรวจสอบ พบว่าต้นไม้ดังกล่าวมีขนาดราว 2 คนโอบ หรือประมาณเส้นผ่าศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 50 เซนติเมตร ซึ่งเป็นต้นสนที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติในบริเวณดังกล่าว มีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปีมาแล้ว

     โดยทางเจ้าหน้าที่ของวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเจ้าหน้าที่อปพร.จากเทศบาลตำบลสุเทพ ได้ร่วมกันเร่งเคลียร์เส้นทาง โดยใช้เครื่องมือต่างๆอาทิ เลื่อยยนต์ และขวานในการตัดไม้เป็นท่อน เพื่อให้สามารถยกออกได้ง่าย เนื่องจากไม้มีขนาดใหญ่และหนักกระทั่งสามารถเคลียร์ซากต้นไม้ออกจากบันได และสัญจรได้ตามปกติเมื่อเวลา ประมาณ09.30น. ที่ผ่านมา

 

 

ต้องขอจิตศรัทธาช่วยแล้ว!!! พายุฝนถล่มต้นไม้ใหญ่พังล้มทับบันไดพญานาควัดพระธาตุดอยเทพเสียหายหนัก

 

     ขณะที่ความเสียหายเบื้องต้น พบว่า ประติมากรรมปูนปั้นรูปพญานาค ทั้ง 2 ตน ได้รับความเสียหายบางส่วน ปูนกะเทาะแตกหักกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะส่วนที่เป็นเกล็ดพญานาค และบางจุดก็พบว่ามีการยุบตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยจะต้องมีการติดต่อช่างเฉพาะทางมาสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมและเตรียมดำเนินการซ่อมแซมทันทีหลังจากที่ฝนทิ้งช่วง ขณะที่เคราะห์ดีที่ต้นไม้ดังกล่าวไม่ได้หักโค่นลงใส่ผู้คน พระสงฆ์ หรืออาคารส่วนอื่นอันจะสร้างความเสียหายมากกว่านี้

ต้องขอจิตศรัทธาช่วยแล้ว!!! พายุฝนถล่มต้นไม้ใหญ่พังล้มทับบันไดพญานาควัดพระธาตุดอยเทพเสียหายหนัก

 

 

     “สาเหตุเบื้องต้น คาดว่าเนื่องจากฝนตกชุกต่อเนื่องหลายวัน ทำให้ดินยุ่ยและต้นสนดังกล่าวมีความสูงและมีอายุมาก ทำให้รากฐานไม่มั่นคง รวมทั้งรากในดินอาจจะไม่ลึกเนื่องจากติดหินภูเขา ทำให้เกิดการโค่นลงทั้งต้นดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้อาจจะต้องมีการติดต่อประสานเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะสาขาเกี่ยวกับ วนศาสตร์ให้ช่วยสำรวจต้นไม้ในพื้นที่โดยเฉพาะต้นที่เสี่ยงที่หากหักโค่นลงจะสร้างความเสียหายให้กับอาคารสิ่งก่อสร้าง เพื่อจะได้ป้องกันปัญหาที่ต้นเหตุ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นบทเรียนสำคัญ ที่ทางวัดอาจจะต้องมีการเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว ในช่วงที่มีฝนตกชุกให้ระวังการเดินขึ้นวัดพระธาตุฯผ่านทางบันได ที่อาจจะมีความเสี่ยง และแนะนำให้ไปใช้การสัญจรโดยใช้ลิฟท์ของทางวัดที่ค่อนข้างปลอดภัยกว่าแทน”นายวัลลภ กล่าว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณภาพ : chiangmainews