ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/

นับตั้งแต่ที่มีการออกคำสั่งคสช.ที่56/2559ให้อำนาจกรมบังคับคดีในการบังคับทางปกครอง ด้วยการยึดทรัพย์ของผู้ต้องรับผิดในโครงการจำนำข้าว หลายคนก็มองกันว่าเป็นการส่งสัญญานเปิดทางให้กับทุกฝ่ายในการทำหน้าที่ได้แบบโล่งสบาย ไม่ต้องมีคำว่าอิดออด หรือ เกี่ยงงอนกันอีกแล้วในกรณีการลงนามออกคำสั่ง บวกกับที่นาย วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาระบุว่าคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งเตรียมสรุปสำนวนเรียกค่าเสียหายคดีโครงการจำนำข้าวภายใน1-2วันนี้ และแถมประกาศอีกด้วยซ้ำว่าจะยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดทันทีหากไม่มีการยื่นอุทธรณ์ภายในระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ และจากนั้นก็เกิดปฎิกิริยาตามมาจากทั้งพรรคเพื่อไทย และ นปช.ว่าปฎิบัติการนี้กำลังเป็นการล้างบางฝ่ายตรงข้าม และมองเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องทางการเมือง และการกลั่นแกล้งทางการเมืองมากกว่าเพราะถือว่าเป็นการใช้คำสั่งของหัวหน้าคสช.เพื่อลัดขั้นตอนทางกฎหมาย 

แต่ที่สุดแล้วที่จะคิดว่าผู้กระทำผิดจะเสียวสันหลังแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ซะแล้ว เพราะไปๆมาๆกระบวนการทั้งหมดก็ยังคงวนกลับมามะรุมมะตุ้มอยู่ ณ.จุดเดิมคือที่การลงนามของผู้ที่รับผิดชอบในการลงนามออกคำสั่งนั่นเอง เพราะแม้หลายคนจะมองว่าคำสั่งคสช.ที่56/2559นั้นจะเป็นการเปิดทางคุ้มครองการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไม่ให้ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือแม้แต่ทางวินัยใดๆก็ตาม แต่มาจนถึงวันนี้ยังไม่ทีท่าที่ชัดเจนออกมาว่า นาง อภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์จะยอมลงนามในหนังสือบังคับทางปกครองเรียกร้องค่าเสียหายจากการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี กับ นาย บุญทรง เตริยาภิรมย์ และคณะ หรือไม่ และหนำซ้ำเรื่องยังบานปลายออกไปอีก เพราะได้มีการมอบอำนาจต่อไปยังปลัดกระทรวงพาณิชย์น.ส ชุติมา บุณยประภัศรเพื่อให้ลงนามแทนในนามรมว.พาณิชย์ร่วมอีกด้วย ขณะที่อายุงานของปลัดกระทรวงพาณิชย์เหลือเวลาอีกแค่เพียง2สัปดาห์เท่านั้นก็จะเกษียณอายุราชการอยู่แล้ว 

และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ กรณีน.ส วิบูลลักษณ์ ร่วมรักษ์ ว่าที่ปลัดก.พาณิชย์คนใหม่ ประกาศดักทางไว้ก่อนล่วงหน้าเลยว่าหากจะให้ตนเป็นผู้ลงนามในคำสั่งค่าเสียหายข้าวจีทูจีด้วยล่ะก็ อาจตัดสินใจลาออกจากราชการ และจากปมปัญหาการลงนามนี่เองทำให้นพ.เหวง โตจิราการ หยิบเอาไปโจมตีว่า ใครจะยอมทำเรื่องที่เสื่อมเสียเกียรติภูมิของตนเอง และวงศ์ตระกูล ซึ่งเป็นการประจานชัดเจนว่าเป็นการใช้อำนาจบาตรใหญ่ ?และในอีกไม่ช้า ทุกคนคงได้เห็นคำตอบกับการตัดสินใจของ3บิ๊กสาวในก.พาณิชย์ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ซึ่งจะถือเป็นคำตอบที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของคสช.ครั้งสำคัญเลยทีเดียว