ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     นับตั้งแต่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.ได้กล่าวให้ความเห็นไว้ในทำนองว่ารัฐบาล และคสช.ต้องการจะล้างบางนักการเมืองในสังกัดพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่าช่วงเวลาที่เหลืออีก 1 ปีครึ่งก่อนมีรัฐบาลใหม่ จะเห็นการใช้อำนาจอีกหลายครั้ง เพื่อทำลายล้างกันทางการเมือง เช่นเดียวกันกับกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนักการเมืองรายอื่นๆ แต่กับข้อกล่าวหาดังกล่าวนี้ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาลก็ชี้แจงว่า รัฐบาลและคสช.ไม่เคยมีความคิดที่จะทำเช่นนั้น ไม่ว่าจะต่อนักการเมืองพรรคใด หรือ สังกัดใดทั้งสิ้น บุคคลใดจะถูกต้องโทษ ดำเนินคดี ถอดถอน ยึดทรัพย์ จำคุกก็ล้วนเป็นไปตามเหตุแห่งกรรมที่ได้ทำขึ้น รัฐบาลมีหน้าที่เพียงบังคับใช้กม.ให้มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างที่ควรจะเป็นเท่านั้น

     และหากจะตรวจสอบดูคำตัดสิน และการวินิจฉัยชี้มูลออกมาจากองค์กรต่างๆ จะพบว่าระยะนี้มีกรณีที่อดีตสส.ในสังกัดพรรคเพื่อไทยถูกตัดสินในคดีความออกมาถี่เป็นพิเศษ ไล่ตั้งแต่กรณีกก.ปปช.ชี้มูลความผิดอดีตสส.พรรคเพื่อไทย 3 รายกับการปฏิบัติหน้าที่มิชอบในกรณีเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน และสลับร่างรธน. และมีกรณีสนช.มีมติถอดถอนพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรมว.กลาโหม ออกจากตำแหน่งรมต.โทษฐานแทรกแซงการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม

 

     อีกกรณีที่กำลังรอการพิจารณา ก็คือกรณี 40 อดีตสส.พรรคเพื่อไทยที่ถูกปปช.ตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนเอาผิดในการเสนอร่างพรบ.นิรโทษกรรม และยังมีกรณีนายวัฒนา เมืองสุข ที่ปปช.กำลังจะมีการชี้มูลความผิดในคดีโครงการบ้านเอื้ออาทร และนอกจากนั้นยังจะมีเรื่องที่เป็นผลสืบเนื่องจากการออกคำสั่งทางปกครองให้ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวจากผู้กระทำผิดอีก นั่นก็คือกรณีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ กับพวก และกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่กำลังรอลุ้นการลงนามในคำสั่งเรียกค่าเสียหายอยู่ รวมไปถึงคดีความที่กำลังอยู่ในกระบวนการของศาลฎีกานักการเมืองที่งวดเข้ามาทุกขณะ และยังมีอีกหนึ่งคดี นั่นก็คือกรณี5นปช.ที่ถูกร้องให้ศาลเพิกถอนการประกันตัว ซึ่งศาลจะเริ่มพิจารณาคำร้องนี้ในต้นปีหน้า
 

     เรียกว่าหลายคดีไล่เรียงออกมาแบบเรียงคิวเป็นหน้ากระดาน ซึ่งผลแห่งคดีต่างๆ ที่ออกมาล้วนสรุปชี้ชัดว่าเข้าข่ายความผิดทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเมื่อคดีต่างๆ งวดเข้ามาและมีแนวโน้มของผลแห่งคดีจึงไม่แปลกที่จะทำให้บรรดาพรรคเพื่อไทย และนปช.ต่างออกอาการหนาวๆร้อนๆ จนเป็นที่มาของการเคลื่อนไหวกับคำพูดว่า นี่คือการล้างบางนักการเมืองของพรรคเพื่อไทย หรือการกลั่นแกล้งทางการเมืองนั่นเอง แม้ว่าคดีทุกคดีต่างก็ต้องมีคำตัดสินที่ยืนอยู่บนข้อมูล และพยานหลักฐานเป็นหลักก็ตาม ทั้งนี้การเคลื่อนไหวคัดค้านทั้งหมดที่มีออกมาก็เพราะผลสรุปคำตัดสินเหล่านี้กำลังจะส่งผลต่ออนาคตทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย และ นปช.ให้พังครืนลงได้